ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังสือการ์ตูน ( ยุคนี้คงรวมอนิเมะทีวีซีรีส์เข้าไปด้วย ) นั้น ทำให้ใครต่อหลายคนรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสถานที่แปลกๆ บางครั้งก็สอดแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์น่าสนใจมาด้วย เป็นการเรียนรู้นอกเวลาเรียนได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างการ์ตูนดังต่อไปนี้ ที่นอกจากจะสนุกแล้ว ยังชวนให้เรารู้สึกอยากไปเที่ยวที่จริงๆ อีกต่างหาก
ตามรอยที่เที่ยวอนิเมะดัง จากการ์ตูนซีรีย์สุดคลาสสิก
1. ดาบพิฆาตอสูร (คิเมทสึ โนะ ไยบะ)
โดย โคโยฮารุ โกโตเกะ ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องราวของคามาโดะ ทันจิโร่ เด็กหนุ่มที่ครอบครัวของตนถูกอสูรฆ่าตายทั้งหมด เหลือแต่เพียงเขา และน้องสาวที่ชื่อเนะซึโกะเท่านั้นที่รอดตายมาได้ แต่เนะซึโกะก็กลับกลายเป็นอสูรไปอีกคน เพื่อที่จะหาทางทำให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์ดังเดิมให้ได้ จึงตัดสินใจที่จะเป็นนักล่าอสูรตามคำชักชวนของโทมิโอะกะ กิยู นักล่าอสูรที่เดินทางผ่านมา ย่านโยชิวาระในปัจจุบัน image_vulture / Shutterstock.com แม้จะยังไม่ใช่การ์ตูนเก่าเทียบเท่าหลายๆ เรื่องในลิสท์นี้ แต่เราก็เชื่อว่านี่เป็นหนึ่งในอนิเมะยุคใหม่ที่เข้าถึงทุกๆ คนบนโลกจริงๆ สำหรับเรื่อง ดาบพิฆาตอสูร Kimetsu no Yaiba ที่ทำรายได้ถล่มทลาย และมีผู้คนรอคอยมากที่สุดไปแล้ว ที่สำคัญสถานที่ต่างๆ ในเรื่องนั้นก็มีที่เที่ยวที่เราไปตามรอยได้จริงๆ ทั้งนั้น ยกตัวอย่างจากภาคล่าสุด นั่นคือ ย่านโคมแดงโยชิวาระ ย่านเริงรมย์แห่งยุคเอโดะ ที่ปัจจุบันก็กลายเป็นย่านธุรกิจกลางคืนไปแล้วเรียบร้อย ====================
2. คำสาปฟาโรห์ (โอเคะ โนะ มอนโช)
โดย จิเอโกะ โฮโซคาวะ สุดยอดการ์ตูนอิงประวัติศาสตร์อียิปต์ในตำนานของญี่ปุ่น ที่ได้รับรางวัลจากยอดตีพิมพ์ถล่มทลายทั้งในญี่ปุ่น และเมืองไทย น่าเสียดายที่คำสาปฟาโรห์นั้นชาตินี้คงไม่มีวันอวสาน แม้ปัจจุบันก็ยังแต่งไม่จบ คนเขียนก็ตายไปแล้ว ( แต่ตอนนี้ผู้ช่วยเป็นคนแต่งเนื้อเรื่องต่อ ) ก็ไม่รู้ว่าพวกเราคนอ่านจะหลุดคำสาปกันเมื่อไหร่เหมือนกัน เรื่องราวนั้นเกี่ยวกับสาวอเมริกัน ผมบลอนด์ตาฟ้า นามว่าแครอล ที่ถูกพาตัวย้อนอดีตกลับไปยุคอียิปต์รุ่งเรืองเมื่อ 3,000 ปีก่อน จนไปพบรักกับฟาโรห์หนุ่มนามเมมฟิส และผจญกับปัญหารอบด้านมากมาย การ์ตูนเรื่องนี้เก็บรายละเอียดความเป็นอียิปต์อย่างละเอียด ทั้งเรื่องสังคม วัฒนธรรม สงคราม ฯลฯ กรุงไคโรในปัจจุบัน เป็นเมืองหลวงของอียิปต์ อยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์ ในสมัยอดีตเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ใกล้ๆ กรุงไคโรเองก็มีที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย เช่น มหาพีระมิดแห่งกิซ่า หรือพีระมิดขั้นบันไดซัคคารา เป็นต้น ====================
3. cestvs ( เซสทัส ) จอมหมัดสนับเหล็ก
โดย ชิซุยะ วาซาราอิ การ์ตูนที่ดำเนินเรื่องราวในสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิเนโรห์ จักรพรรดิ์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์โรมัน เรื่องนี้ไม่ค่อยเหมาะกับผู้อ่านที่เป็นเด็กหรือเยาวชนสักเท่าไหร่ เพราะเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงเลือดสาดอยู่ เรื่องราวเกี่ยวกับเซสทัส ทาสหนุ่มผู้รักสงบ ที่ต้องต่อสู้ในสนามประลองเป็นจำนวน 100 ครั้งเพื่อปลดปล่อยตนให้เป็นอิสระ ซึ่งหากเขาแพ้แม้ครั้งเดียว นั่นหมายถึงความตายเท่านั้น ! ดังนั้นเนื้อเรื่องส่วนใหญ่จึงอยู่ในกรุงโรม เมืองหลวงของจักรวรรดิโรมัน ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประเทศอิตาลี และถ้าเอ่ยถึงเวทีประลองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “ โคลอสเซียม ” ของคู่บ้านคู่โรม สนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ 1 ในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน เป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่างๆ ในยุคปัจจุบันนั่นเอง ====================
4. กุหลาบแวร์ซายส์ ( ชื่อญี่ปุ่น เบรุไซ โนะ บาระ )
โดย ริโยโกะ อิเคดะ อีกหนึ่งการ์ตูนที่โด่งดังไปทั่วโลก จนกระทั่งได้รับการดัดแปลงเนื้อเรื่องเพื่อใช้เป็นละครเวที กุหลาบแวร์ซายส์ยังเป็นการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องแรกที่ได้รับการแปลเพื่อจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนืออีกด้วย กุหลาบแวร์ซายส์ เป็นเรื่องราวในยุคของการปฏิวัติและการเกิดจลาจลภายในประเทศฝรั่งเศส ตัวเอกคือ “ ออสการ์ ฟรังซัวส์ เดอ จาร์เจ ” ทหารองครักษ์หญิงที่ถูกเลี้ยงดูแบบชายชาตรี จนได้กลายมาเป็นราชองครักษ์ของพระนางมารี อองตัวเนต ราชินีแห่งพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ที่ทรงใช้ชีวิตอย่างหรูหราสุขสบาย ในขณะที่ประชาชนต้องอยู่อย่างแร้นแค้น จนนำไปสู่การปฎิวัติฝรั่งเศสในที่สุด สถานที่เที่ยวที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ก็คือ “ พระราชวังแวร์ซายส์ ” หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน ด้วยความที่เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อน มีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง มีความงามในเชิงศิลปะ และยังมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ด้วย ====================
5. ซามูไรพเนจร ( ชื่อญี่ปุ่น รุโรนิ เคนชิน )
โดย โนบุฮิโระ วาสึกิ ซามูไรพเนจร หนึ่งในมังงะแนวซามูไรที่ขึ้นแท่นการ์ตูนคลาสสิคไปแล้วเรียบร้อย กับเรื่องราวของ ฮิมูระ เคนชิน อดีตยอดซามูไรนักฆ่าในยุคหลังสงครามการปฏิรูปเมจิสงบลง ประเทศกำลังก้าวเข้าสู่สังคมยุคใหม่ เขาจึงเริ่มออกพเนจรพร้อมกับดาบสลับคม โดยมีคติประจำใจว่าจะไม่สังหารใครอีก แต่ทั้งศัตรูหน้าใหม่ และหน้าเก่าจากอดีตที่ล้วนแล้วแต่เก่งกาจ จะยังทำให้เขาปกป้องผู้บริสุทธิ์ได้โดยไม่หลั่งเลือดศัตรูได้อย่างนั้นหรือ ? เมืองที่ใช้ในการดำเนินเรื่องหลักๆ ที่เห็นชัดก็คือมหานครโตเกียว ( แต่ก่อนเรียกเมืองเอโดะ ) เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองที่พระจักรพรรดิทรงประทับอยู่ที่นี่ เมืองเกียวโต เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม และศาสนาของญี่ปุ่น เป็นที่ตั้งของวัดทางศาสนาพุทธ 1,600 แห่ง และทางลัทธิชินโต 400 แห่ง มีพระราชวัง สวน และสิ่งก่อสร้างที่ยังคงความดั้งเดิมไว้มาก ====================
6. ตะวันรักที่ปลายฟ้า ( หรืออีกชื่อว่า สวรรค์ลำน้ำแดง )
โดยชิโนฮาระ จิเอะ เรื่องนี้แอบมีความละม้ายคล้ายคลึงกับเรื่องคำสาปฟาโรห์อยู่เล็กน้อยตรงต้นเรื่อง ที่ว่านางเอกถูกส่งข้ามเวลาย้อนกลับไปในยุคโบราณ เพียงแต่แทนที่จะไปโผล่ที่อียิปต์กลับมาลงที่ อนาโทเลีย หรืออาณาจักรฮิตไทต์แทน ( เมืองนี้ก็ทะเลาะกับอียิปต์อยู่บ่อยครั้งเช่นกัน ) ตัวเอกของเรื่องคือสาวน้อยชาวญี่ปุ่นชื่อ ยูริ แรกเริ่มนั้นโดนพาย้อนอดีตมาดินแดนนี้เพื่อเป็นเครื่องสังเวยให้เจ้าชายจูดาขึ้นครองราชย์ แต่ยูริก็ได้ คาอิล เจ้าชายองค์ที่ 3 แห่งเมืองฮิตไทต์ช่วยเหลือไว้ เนื้อเรื่องที่เหลือจะอิงตามประวัติศาสตร์ เสริมด้วยเรื่องราวความรัก และการสู้รบทั้งเพื่อปกป้องดินแดนและบุคคลที่ตนรัก อนาโทเลียนั้นใช้เรียกดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศตุรกีในปัจจุบัน จากทะเลอีเจียนซึ่งเป็นขอบเขตทางตะวันตกจนถึงภูเขาชายแดนประเทศอาร์มีเนียทางตะวันออก มีอดีตเมืองหลวงคือ ฮัตตูซา ตั้งอยู่บนยอดเขาที่เต็มไปด้วยโขดหิน และเป็นเมืองที่ใหญ่มากอีกเมืองหนึ่งในสมัย 3,000 ปีที่แล้ว แต่เนื่องจากชาวฮิตไทต์นั้นเก่งด้านสงครามมากกว่าศิลปะ จึงทำให้ร่องรอยอารยธรรมที่เราเห็นในปัจจุบันนั้นไม่วิจิตรอลังการเท่ากับอียิปต์นั่นเอง ====================
7. เณรน้อยเจ้าปัญญา อิคคิวซัง
โดย โตเอ แอนิเมชัน
“ จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน พักเดี๋ยวนึงสิครับ ” ประโยคยอดนิยมที่ช่วงหนึ่งเด็กไทยจำได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ของเณรน้อยเจ้าปัญญา “ อิคคิวซัง ” ซึ่งความจริงแล้วมีฐานะเป็นถึงราชบุตรของพระจักรพรรดิโกโคมัตสึ และเจ้าจอมอิโยะ แต่เนื่องจากปัญหาการเมืองภายในของญี่ปุ่นสมัยนั้น ทำให้อิคคิวซัง และท่านแม่ต้องออกจากวัง พออายุได้ 5 ขวบก็ต้องแยกจากแม่อีกครั้งเพื่อไปบวชที่วัดอังโคะคุจิ เมืองเกียวโต ด้วยความฉลาดเฉลียว มีไหวพริบดี และรักความถูกต้องนี่เอง จึงทำให้อิคคิวซังเป็นที่รักของทุกๆ คน แต่ก็ไม่วายต้องมีคนมาคอยท้าประลองเชาว์ปัญญาอยู่เรื่อยๆ แต่ทุกครั้งอิคคิวซังก็ใช้สติปัญญาแก้ปัญหาได้อย่างเฉียบแหลม สำหรับฉากของที่พำนักของท่านโชกุนอาชิคางะ โยชิมิซึ ผู้ซึ่งชอบทายปุจฉา-วิสัชนากับอิคคิวซังบ่อยๆ สถานที่จริงก็คือวัดคินคะคุจิ ที่เกียวโตนั่นเอง ( คนมักเข้าใจผิดว่าอิคคิวซังอยู่ที่นี่ ) เป็นศาลาสีทอง 3 ชั้น แต่ละชั้นใช้ศิลปะการก่อสร้างและตกแต่งแตกต่างกัน มีบึงน้ำอยู่รอบศาลาเมื่อเงาของศาลาทองสะท้อนน้ำยิ่งทำให้ดูวิจิตรงดงาม ส่วนวัดอังโคะคุจิ ที่อิคคิวซังไปบวชเรียนก็อยู่ที่เกียวโตเหมือนกัน เป็นวัดเล็กๆ บนภูเขาเคโตคุ ====================
8. เจ้าหญิงนิทรา ( Sleeping Beauty )
โดย วอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส
การ์ตูนชวนฝันสุดคลาสสสิคตลอดกาล เวอร์ชั่นของวอลท์ ดิสนีย์ ดัดแปลงมาจากหนังสือเรื่อง La Belle Au Bois Dormant ของนักกวีชาวฝรั่งเศสนามว่า ชาร์ล เปอโรต์ กับเรื่องของเจ้าหญิงที่ต้องคำสาปให้ต้องหลับไหลดด้วยเข็มปั่นด้าย รอคอยจุมพิตของเจ้าชายที่มีรักแท้มาปลดปล่อยเธอ
Read more: Wikipedia
ปราสาทที่เจ้าหญิงประทับอยู่นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากปราสาทจริงๆ ที่ชื่อว่า Neuschwanstein ประเทศเยอรมนี สร้างในปี 1869 รอบข้างปกคลุมด้วยป่าเขียวขจี และวิวทิวทัศน์แสนร่มรื่น ====================
9. อสูรน้อยคิทาโร่ ( ชื่อญี่ปุ่น เกะเกะเกะ โนะ คิทาโร่ )
โดย ชิเงรุ มิซุกิ
การ์ตูนรุ่นเดอะที่เคยถูกสร้างเป็นแอนิเมชั่น และหนังภาพยนตร์ เรื่องราวเกี่ยวกับตำนานภูติผีปีศาจตามตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่น ตัวละครเอกคือคิทาโร่ เด็กหนุ่มลูกครึ่งซอมบี้ที่ต้องคอยต่อสู้ และปกป้องสันติภาพระหว่างมนุษย์ และปีศาจ ความสนุกของเรื่องนี้อยู่ตรงที่มีผีญี่ปุ่นมากมายหลายแบบปรากฏอยู่ในเรื่องนี้ เช่น ผีกำแพง หนูผี กัปปะ เป็นต้น
twoKim images / Shutterstock.com
เมืองที่เหล่าอสูรทั้งหลายสิงสถิตกันอยู่ชื่อว่าเมือง ทตโทริ ครับ นั่นก็เพราะอาจารย์ผู้แต่งเรื่องนี้ก็เป็นชาวเมืองนี้โดยกำเนิดเช่นกัน ภายในเมืองจะมีรูปปั้นเหล่าผีๆ แทรกตัวอยู่ทั่วเมือง ( ที่ดูน่ารักมากกว่าน่ากลัว ) รวมทั้งมีพิพิธภัณฑ์ และร้านขายสินค้าของการ์ตูนเรื่องนี้โดยเฉพาะ เรียกได้ว่าผีเหล่านี้เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของเมืองจริงๆ
====================
10. แม่มดน้อยกิกิ ( Kiki ’ s Delivery Service )
โดย สตูดิโอจิบลิ
หนึ่งในแอนิเมชั่นโปรดของผม ที่พอดูจบแล้วต้องรีบไปหาทันทีว่าเมืองในเรื่องนั้นมีอยู่จริงไหม เรื่องนี้แม้จะไม่โด่งดังเท่ากับเรื่อง Spirited away ที่เป็นผลงานของสตูดิโอจิบลิเหมือนกัน แต่ก็มีเนื้อหาสาระที่ดึงดูด ชวนให้อบอุ่นหัวใจไม่แพ้กัน เรื่องแม่มดน้อยกิกินั้นดัดแปลงมาจากหนังสือนิทาน ว่าด้วยเรื่องของแม่มดกิกิ ที่ถึงวัย 13 ปี และต้องออกเดินทางไปตามลำพังตามกฎของครอบครัวพ่อมดแม่มด เพื่อจะเรียนรู้โลกกว้าง ปรับตัวให้เข้ากับผู้คน และช่วยเหลือผู้อื่นนั่นเอง เรื่องนี้ไม่มีตัวโกงแต่อย่างใด ดังนั้นประเด็นสำคัญของเรื่องจึงอยู่ที่การเติบโตสู่วัยรุ่นของแม่มดน้อยกิกินั่นเอง เมืองชายทะเลที่มีทิวทัศน์สวยงาม ผู้คนอยู่อาศัยมากมายที่กิกิตัดสินใจมาอยู่นั้น ต้นแบบมาจากเมือง Visby ประเทศสวีเดน เมืองชายทะเลที่มีอายุยาวนานมาตั้งแต่ยุคกลางและเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวสแกนดิเนเวียน ====================
11. โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ภาค 3 Stardust Crusaders
โดย ฮิโรฮิโกะ อารากิ
อีกหนึ่งสุดยอดการ์ตูนในตำนาน ที่ปัจจุบันดำเนินเรื่องราวถึง 8 ภาคแล้ว ( และไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ ด้วย ) ขออนุญาตหยิบยกมาเฉพาะภาค 3 เพราะเป็นภาคที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด เป็นภาคที่กำเนิดพลังสุดพิศดารที่เรียกว่า “ สแตนด์ ” และยังเป็นภาคที่พาเราทัวร์กันไกลที่สุด ไล่ตั้งแต่ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย ไปจนถึงอียิปต์นู่นเลย
โจโจ้ในภาค 3 นี้เป็นเรื่องราวของ คูโจ โจทาโร่ ที่ต้องเดินทางกับเพื่อนพ้องไปปราบ ดิโอ ศัตรูคู่อาฆาตมานับตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ระหว่างทางก็ต้องพบกับศัตรูที่ล้วนแต่มี สแตนด์ พลังพิเศษที่ 1 คนจะมีความสามารถหลักๆ ที่ต่างกันออกไป เช่น หยุดเวลา, แฝงร่างในศัตรู, จู่โจมในความฝัน, ควบคุมซากศพ ฯลฯ มีเพียงสแตนด์เท่านั้นที่จะโจมตีสแตนด์ด้วยกันเองได้ และหากสแตนด์บาดเจ็บ ตัวเจ้าของก็จะเจ็บด้วยเช่นกัน จึงทำให้การ์ตูนเรื่องนี้มีฉากต่อสู้ที่แปลกแหวกแนว สร้างสรรค์ชนิดที่ยุคนั้นยังไม่มีใครทำได้ เรื่องนี้ก็เรียกได้ว่า ประเทศที่คณะเดินทางต้องแวะเวียนก่อนจะถึงอียิปต์นั้นก็หลายประเทศอยู่ เริ่มตั้งแต่ฮ่องกง จุดแรกที่แวะหลังเดินทางออกจากญี่ปุ่น ก่อนที่จะนั่งเรือเดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ อินเดีย กัลกัตตา ( เมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย ) ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย กระทั่งไปจบที่อียิปต์นั่นเอง
====================
12. เซนต์เซย์ย่า
โดย มาซามิ คุรุมาดะ
“ จงเผาผลาญ คอสโม่ของข้า ! ” ประโยคปลุกใจของเรื่องที่ฟังทีไรของขึ้นทุกที เป็นการ์ตูนที่เมื่อก่อนบ้านเรานำมาฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนปัจจุบันมีภาคเสริมออกมาหลายภาคเหลือเกิน เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่ม 5 คนที่เรียกว่า เซนต์ ( saint ) ต่อสู้โดยใช้ร่างกายของตนเองเป็นอาวุธเพื่อปกป้องคิโดะ ซาโอริ ผู้เป็นอวตารของเทพีอะธีนา และต่อสู้กับทัพศัตรูแห่งความชั่วร้าย ด้วยเหตุที่การ์ตูนเรื่องนี้มีเรื่องราวของเทพปกรณัมกรีกเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้สถานที่จริงที่ถูกกล่าวถึงคงหนีไม่พ้นประเทศที่อดีตเคยเป็นอาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่อย่างกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซนั่นเอง ปัจจุบันก็ยังคงไว้ซึ่งโบราณสถานที่เคยใช้สำหรับบูชาเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องก็คือ “ วิหารพาร์เธนอน ” หรือวิหารเทพีอาเธนานั่นเอง เป็นสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมกรีกโบราณที่มีชื่อเสียงที่สุด แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดของสถาปนิกในสมัยนั้นและถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ====================
13. your name (Kimi no Na Wa)
โดย ชินไค มาโกโตะ สุดยอดผลงานแอนิเมชั่นที่สร้างกระแสในบ้านเราได้ดังระเบิดระเบ้อมาก ด้วยงานภาพที่เรียกได้ว่าเนี้ยบสุดๆ แน่นทุกเฟรมแทบไม่มีที่ติ จนผู้ชมคิดว่าเป็นภาพจากที่จริงเลยด้วยซ้ำ เรื่องราวว่าด้วยคู่เด็กหนุ่มสาว ทาคิ – เด็กหนุ่มนักเรียน ม.ปลาย ที่เติบโตในโตเกียว และ มิทสึฮะ – เด็กสาว ม.ปลาย ที่โตมาในหุบเขาแถบชนบท จนกระทั่งคืนหนึ่ง เกิดปรากฏดาวตกในรอบพันปี ทาคิ และมิทสึฮะต่างฝันว่ากลายเป็นอีกคนหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายมันกลายเป็นเรื่องจริง จุดเริ่มต้นของสายสัมพันธ์ที่ไม่เห็นแต่สัมผัสได้จึงเริ่มต้นขึ้น ====================
14. Fate / Stay Night
โดย ไทป์-มูน ( Type Moon )
เฟท / สเตย์ ไนท์ เรื่องราวของมหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นการห้ำหั่นกันระหว่างจอมเวท 7 คน ที่จะอัญเชิญวิญญาณวีรชนในตำนานออกมาต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ที่จะบันดาลสิ่งที่ปรารถนาให้เป็นจริงได้ เรื่องราวของเฟทนี้ยังมีภาคแยก ภาคขยายออกไปอีกหลายจักรวาลเนื่องจากความนิยมที่ต่อเนื่อง และแทบจะไม่ลดลงเลย ความสนุกของเรื่องนี้อยู่ที่วิญญาณวีรชนที่อัญเชิญมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจริง ไม่ก็อยู่ในตำนาน เรื่องเล่าโบราณที่เรารู้จักกันอยู่แล้ว ทั้งกษัตริย์อาเธอร์ เฮอร์คิวลิส อเล็กซานเดอร์มหาราช ฯลฯ ความสนุกเลยอยู่ที่การได้เห็นบุคคลในตำนานที่อยู่ต่างยุคต่างสมัยมาปะทะกันนั่นเอง สำหรับสถานที่ที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอในเฟทไม่ว่าจะภาคไหนก็ตาม ก็คือ เมืองฟุยุกิ อันเป็นสนามรบระหว่างจอมเวททั้งเจ็ดนั่นเอง เมืองท่าที่ดูเงียบสงบ ผู้คนดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ก็แฝงไปด้วยซอกมุมลึกลับ และสถานที่แปลกๆ นี้ ใช้ต้นแบบมาจากเมืองโกเบ ซึ่งเป็นเมืองท่าเก่าแก่ อุดมไปด้วยที่เที่ยวทางวัฒนธรรม แต่ก็เคยถูกโจมตีเสียหายจากภัยสงคราม และภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง ====================
15. Weathering with You
โดย ชินไค มาโกโตะ อีกหนึ่งผลงานของผู้กำกับชินไค มาโกโตะ ที่เหตุการณ์ทั้งหมดดำเนินอยู่ภายในกรุงโตเกียว เราจึงพบเห็นสถานที่จริงๆ ได้ทั่วไปเยอะมาก แต่จุดไฮไลท์สำคัญที่สุดคงจะต้องเป็น ศาลเจ้า Ginza Asahi Inari Shrine (朝日稲荷神社) ที่ตั้งเสาโทริอิบนดาดฟ้าของแท้ บนอาคาร Daiko Asahi Build (大広朝日ビル) ในย่านไฮโซของญี่ปุ่น กินซ่า นั่นเอง ด้านล่างของตึกนั้นก็จะมีศาลเล็กๆ ตั้งอยู่ อันนั้นไว้ให้สำหรับสักการะครับ แต่ถ้าอยากชมเสาโทริอิ และตัวศาลหลักนั้นจะต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้น 8 แล้วเดินขึ้นบันไดหนีไฟต่อก็จะถึงชั้นดาดฟ้า ( มีป้ายบอกทาง ) จะเห็นว่าที่เอ่ยมาแต่ละเรื่องแต่ละเส้นทางนั้น ถือว่าเป็นการเปิดโลกให้กับเด็กๆ ในยุคนั้นมาก และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางให้กับใครหลายๆ คนเลยทีเดียว แน่นอนว่ายังมีการ์ตูนดีๆ อีกหลายเรื่องที่ไม่ได้เอ่ยถึง ลองหยิบการ์ตูนเรื่องโปรดของคุณมาอ่านดูอีกครั้งสิครับ รับรองว่าจะต้องมีที่เที่ยวในดวงใจสักแห่งของคุณปรากฏออกมาอย่างแน่นอน
Read more: David Prowse
=============== ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย > > TrueID Travel Community < <