ประวัติศาสตร์สโมสร
อ้างอิงตามชื่อฤดูกาล ซึ่งเป็นปี ค.ศ .
สโมสรในช่วงแรก (1878-1945)
Reading: ประวัติ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
11 ตัวจริงหลักของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในช่วงปี ค.ศ. 1913
สโมสรในช่วงแรก ( 1878-1945 ) สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่จริงแล้วชื่อเดิมของสโมสรนั้น คือ “ นิวตัน ฮีท ” ในปี ค.ศ. 1878 พนักงานการรถไฟสายแลงคาเซี้ยร์ แอนด์ ยอร์คเชียร์ แผนกรถสินค้าและรถโดยสารของบริษัทรถไฟแอล.และวาย. ( Lancashire and Yorkshire Railway ( LYR ) ในระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารมื้อเย็นอยู่นั้น พวกเขาได้ร่วมก่อตั้งทีมฟุตบอลกันขึ้นมา และตระเวณเล่นกันอยู่ในแถบเมืองนอร์ธกราวด์ ซึ่งอยู่ในนิวตัน ฮีท สถานที่ซ้อมก็ใช้รางรถไฟ เป็นเส้นแบ่งเขตสนาม ตลอดจนเสียงและควันจากรถไฟรถจักรไอน้ำ ทีมฟุตบอล นิวตัน ฮีท ( แลนแคเชียร์ แอนด์ ยอร์ดเชียร์เรลเวย์ ) ที่พวกเขา ตั้งขึ้นมาก็เล่น ฟุตบอล กัน ได้อย่างดีเยี่ยมน่าประทับใจ โดยชุดแข่งที่ใช้เสื้อสีเขียว-เหลือง อย่างละครึ่ง กางเกงสีดำเป็นชุดเก่ง พนักงานที่อยู่ในแถบนั้น แพ้นิวตัน ฮีท กระจุย ในปี 1885 สมาชิกในทีมได้ตัดสินใจติดต่อกับการรถไฟ และก่อตั้งทีมเพื่อเป็น บริษัท จำกัด โดยใช้ชื่อว่า นิวตัน ฮีท ฟุตบอลคลับ ผลงานชิ้นแรกของเขาคือการคว้าแชมป์ แมนเชสเตอร์ คัพมาครอง นั้นคือถ้วยแรกของทีม นิวตัน ฮีท ในช่วงต้นของสโมสรฟุตบอลทุก ๆ สโมสรในขณะนั้น ต่างก็มีฐานะการเงินที่ย่ำแย่ นิวตัน ฮีท ก็เช่นเดียวกัน
ในปี 1902 นักเตะต้องจำนำชุดเพื่อนำมาใช้จ่ายแทนค่าจ้าง ขณะที่ สโมสร ฯ เป็นหนี้ถึง 2,670 ปอนด์ ซึ่งต้องถูกฟ้องล้มละลาย จุดพลิกผันได้เกิดขึ้น จอห์น เฮนรี่ เดวี่ส์ ผู้อำนวยการบริษัทเบียร์ ได้เข้ามาซื้อหุ้นของสโมสร และกรรมการบริหารชุดใหม่ ได้เปลี่ยนชื่อนิวตัน ฮีท เป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาเริ่มลงเล่นในเสื้อแดงและกางเกงขาสั้นสีขาว อีก 6 ปีต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คว้าแชมป์ฟุตบอลลีกเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 1907 – 1908 ในฤดูกาลต่อมาพวกเขาก็คว้าแชมป์ เอฟเอคัพได้สำเร็จ จากความสำเร็จทำให้ จอห์น เฮนรี่ เดวี่ส์ คิดที่จะย้ายสโมสรจากเดิมที่แบ๊งค์สตรีท ไปอยู่ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด และเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1910 สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ก็ถูกเปิดใช้เป็นครั้งแรกและคู่แค้นตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ก็บุกมาเฉือนพวกเขา 4-3
ยุคของเซอร์ แมตต์ บัสบี (1945-1969)
แมตต์ บัสบีได้เข้ามาคุมทีมในปี 1945 เขาได้นำความสำเร็จมาสู่สโมสรได้อย่างรวดเร็ว โดยได้อันดับสองของฟุตบอลลีกในปี 1947 และชนะเลิศเอฟเอ คัพในปีต่อมา
บัสบีเป็นคนที่ดึงนักเตะจากทีมเยาวชนขึ้นมาหลายคน จนได้แชมป์ลีกในปี 1956 ด้วยอายุเฉลี่ยของนักเตะเพียง 22 ปีเท่านั้น ในปีต่อมา เขาก็ได้พาทีมเป็นแชมป์ลีกอีกครั้ง และยังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ แต่ไปไม่ถึงดวงดาวโดยการแพ้ต่อแอสตัน วิลลา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นทีมแรกของอังกฤษที่ได้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลยูโรเปียนคัพ และยังได้เข้าถึงรอบรองชนะเลิศอีกด้วย
โล่ประกาศเกียรติคุณของผู้ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุ โศกนาฏกรรมมิวนิก
ในปี 1958 ได้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของสโมสร เมื่อเครื่องบินที่บรรทุกนักเตะและทีมงานของสโมสร ที่กลับจากการไปแข่งขันยูโรเปียนคัพรอบก่อนรองชนะเลิศกับทีมเรดสตาร์เบลเกรด ซึ่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแล้วได้ประสบอุบัติเหตุที่สนามบินในเมืองมิวนิก หลังจากแวะพักเครื่องบินที่เมืองมิวนิค ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณบ่าย 3 โมง เหตุการณ์ครั้งนั้นได้คร่าชีวิตนักเตะของทีมไปถึง 8 คน รวมถึงทีมงานสต๊าฟโค้ชและผู้โดยสารคนอื่นอีก 15 คน รวมเป็น 23 คน หนึ่งในคนที่เสียชีวิตในครั้งนี้ คือ ดันแคน เอ็ดเวิร์ด นักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงสุดในขณะนั้น จากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้คาดว่าจะเป็นจุดตกต่ำของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่จิมมี เมอร์ฟีได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมในช่วงที่บัสบี้กำลังรักษาอาการบาดเจ็บ และใช้ตัวผู้เล่นแก้ขัดไปหลายตำแหน่ง แต่ทีมก็ยังสามารถเข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพได้อีกครั้ง โดยครั้งนี้พ่ายต่อโบลตันทำให้ได้เพียงรองแชมป์เท่านั้น
หลังจากรักษาตัวเองแล้ว บัสบี้ได้ปรับปรุงทีมในช่วงต้นของทศวรรษ 60 โดยการเซ็นสัญญาคว้านักเตะอย่าง เดนิส ลอว์ กับ แพท ครีแลนด์มาเสริมทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็ชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพในปี 1963 และได้แชมป์ฟุตบอลลีกในปี 1965 และ 1967 นอกจากนี้ ยังได้แชมป์ฟุตบอลยูโรเปี้ยนคัพเป็นสโมสรแรกของอังกฤษในปี 1968 ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียง 10 ปี เท่านั้นหลังจากเกิดเหตุโศกนาฏกรรมที่มิวนิค ที่ทำให้ทีมต้องสูญเสียผู้เล่นตัวหลักไปถึง 8 คน และจากความยอดเยี่ยมของทีมชุดนี้ ทำให้มีนักเตะ 3 คนด้วยกัน ที่สามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรป ( บัลลงดอร์ ) ได้แก่เดนิส ลอว์ ได้รับรางวัลในปี 1964 คนที่สองคือบ็อบบี ชาร์ลตันได้รับในปี 1966 หลังจากพาทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกและครั้งเดียวของพวกเขา และจอร์จ เบสต์ได้รับรางวัลในปี 1968 หลังจากโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยมพาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรเปียน คัพเป็นครั้งแรกของสโมสรและครั้งแรกของอังกฤษ
บัสบีได้ลาออกจากการเป็นผู้จัดการทีมในปี 1969 โดยมีวิฟ แมคกินเนสโค้ชทีมสำรองทำหน้าที่แทน
1969-198
ไบรอัน ร็อบสัน อดีตผู้เล่นในตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
สโมสรได้พยายามหาตัวแทนที่เหมาะสมของบัสบี โดยใช้ผู้จัดการทีมไปหลายคน ได้แก่ วิฟ แมคกิวเนส, แฟรงค์ โอฟาร์เรล ก่อนที่ ทอมมี โดเคอร์ตี้เข้ามาคุมทีมในปี 1972 เขาได้ช่วยทีมให้รอดจากการตกชั้น แต่อย่างไรก็ดี ทีมก็ได้ตกชั้นลงไปในปี 1974 แต่สโมสรก็ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาทันทีในปีถัดไป และยังได้เข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพในปีต่อมาอีกด้วย จากนั้นก็ได้เข้าชิงชนะเลิศอีกครั้งในปี 1977 โดยครั้งนี้สามารถคว้าแชมป์ได้โดยการเอาชนะทีมลิเวอร์พูล เป็นการดับความหวังการคว้าสามแชมป์ในปีเดียวกันของหงส์แดงลงไป ถึงเขาจะทำหน้าที่ได้ดี แต่ก็ถูกไล่ออกหลังจากรอบชิงชนะเลิศปีนั้นเนื่องจากมีข่าวพัวพันกับภรรยาของนักกายภาพบำบัด
เดฟ เซกซ์ตันได้เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมต่อในฤดูกาล 1977-1978 และเปลี่ยนระบบการเล่นของทีมให้เน้นเกมรับมากขึ้น ระบบนี้ทำให้แฟนบอลไม่ค่อยพอใจมากนัก หลังจากทำทีมไม่ประสบความสำเร็จ เขาถูกไล่ออกในปี 1981
รอน แอคคินสันได้เข้ามาทำหนาที่นี้แทน เมื่อเขาเข้ามาก็ได้ทำลายสถิติซื้อขายสูงสุดของอังกฤษโดยการคว้าตัวไบรอัน ร็อบสัน มาจากเวสต์บรอมวิช รวมถึง การคว้าตัว เจสเปอร์ โอลเซน และกอร์ดอน สตรัคคั่น ในขณะที่มีนักเตะอย่างมาร์ค ฮิวจส์ และนอร์แมน ไวท์ไซด์ที่ขึ้นมาจากทีมเยาวชนของสโมสร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้แชมป์เอฟเอ คัพในปี 1983
ปี 1985 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำผลงานได้ดีในช่วงเปิดฤดูกาลโดยการชนะ 10 นัดรวด ทำให้มีคะแนนนำทีมอื่นถึง 10 คะแนนตั้งแต่ต้นฤดูกาล แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทีมทำผลงานได้ไม่ดีและจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 ของลีก ผลงานในปีต่อมาก็ไม่ได้ดีขึ้น ทีมต้องหนีการตกชั้น ทำให้รอน แอคคินสันถูกไล่ออกไป
ยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน (1986-2013)
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตผู้จัดการทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้เข้ามาคุมทีมต่อ โดยในฤดูกาลแรกสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 11 แต่ในปีต่อมาก็ได้อันดับสองโดยไบรอัน แมคแคลร์ทำประตูได้ถึง 21 ประตู เป็นคนแรกของทีมหลังจากที่จอร์จ เบสต์เคยทำได้มาก่อนหน้านี้ในปี 1989 เฟอร์กูสันเกิดความยากลำบากในการคุมทีมขึ้น เนื่องจากตัวผู้เล่นหลายตัวที่เขานำเข้ามาในทีมไม่เป็นที่พอใจของแฟนบอล มีข่าวออกมาว่าสโมสรจะปลดเฟอร์กี้ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมในช่วงต้นปี 1990 แต่การชนะนอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ในรอบสาม ของเอฟเอ คัพ ก็ทำให้เขาสามารถคุมทีมต่อไปได้ จนคว้าแชมป์เอฟเอ คัพได้ในปีนั้น เป็นแชมป์แรกให้กับเขาในการคุมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 1990-91 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์คัพ วินเนอร์ส คัพ โดยการเอาชนะบาร์เซโลนา จากสเปน ในนัดชิงชนะเลิศ แต่ปีต่อมาทีมทำผลงานไม่ดีนักในพรีเมียร์ลีก
สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอนเมื่อปี 1991 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 18 ล้านปอนด์ จากนั้น สโมสรต้องเปิดเผยข้อมูลการเงินทั้งหมดสู่สาธารณะ
เอริก กองโตนา อดีตกองหน้าคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในช่วงฤดูกาล 1992-1997
เอริก กองโตนาย้ายจากลีดส์ ยูไนเต็ดมาร่วมทีมเมื่อปี 1992 ส่งผลต่อความสำเร็จของทีมเป็นอย่างมาก ทำให้ทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้นทันที ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกหนแรกในรอบ 26 ปี นับจากที่ได้มาครั้งล่าสุดในปี 1967 ปีต่อมา ทีมได้ดับเบิลแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ในปี 1994 นั้นเอง แมตต์ บัสบี้ ตำนานกุนซือของได้เสียชีวิตลงในวันที่ 20 มกราคม
ฤดูกาล 1994-95 คันโตนาถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษลงโทษห้ามแข่งถึง 8 เดือน หลังจากที่ไปกระโดดถีบใส่แมทธิว ซิมมอนส์ แฟนบอลคริสตัล พาเลซ ปีนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้รองแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ เฟอร์กูสันได้กระทำสิ่งที่ขัดใจแฟนบอลของทีมอีกครั้ง ด้วยการขายนักเตะสำคัญของทีมและดันนักเตะจากทีมเยาวชนขึ้นมาเล่นแทน แต่ปีนั้นทีมก็สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อย่างน่ายกย่อง โดยเป็นทีมแรกของเกาะอังกฤษ ที่สามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้เป็นสมัยที่สองซึ่งเว้นจากครั้งแรกที่ได้ดับเบิ้ลแชม์ในปี 1994 เพียงปีเดียว และสามารถที่จะลบคำสบประมาทที่ถูกปรามาสเอาไว้ว่าไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จใดๆได้ จากการผลักดันเด็กเยาวชนของทีมให้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่
สโมสรคว้าแชมป์ลีกอีกครั้งในปี 1997 จากนั้น เอริค คันโตนาได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลด้วยวัยเพียง 30 ปีซึ่งเร็วกว่านักเตะคนอื่นๆ มาก ฤดูกาลทีมยังเริ่มต้นการแข่งขันได้ดี แต่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนมามากจนทำให้จบฤดูกาลได้เพียงอันดับสองเท่านั้น
ปี 1998-99 ถือเป็นปีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเป็นทีมแรกของอังกฤษที่คว้าทริปเปิลแชมป์ ซึ่งประกอบด้วยพรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และยูฟาแชมเปียนส์ลีกได้ในฤดูกาลเดียวกันอย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยในนาทีสุดท้ายของเกมนั้น ทีมยังตามหลังบาเยิร์นมิวนิกอยู่ 1-0 แต่แล้วในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาทีนั้น ทีมสามารถทำได้ถึงสองประตูพลิกกลับมาชนะ 2-1 ได้อย่างเหลือเชื่อจากเท็ดดี เชอริงแฮม และ “ เพชฌฆาตหน้าทารก ” อูเล กุนนาร์ ซูลแชร์
ไรอัน กิกส์ นักเตะที่ลงเล่นมากที่สุดของสโมสร
จากการคว้าสามแชมป์ ทำให้อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้รับการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบถที่ 2 เป็นเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพื่อตอบแทนผลงานที่สามารถสร้างชื่อเสียงและเกียรติประวัติให้แก่ประเทศ ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ได้รับตำแหน่งเซอร์คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยผู้ที่ได้รับคนแรกคือ เซอร์แมตต์ บัสบี้ คนที่สองคือ เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ตำนานของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
หลังจากคว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา ในฤดูกาล 1999-2000 ถึง 2000-2001 ยูไนเต็ดสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ในวงการฟุตบอลอังกฤษโดยการแชมป์ลีก 3 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งเป็นทีมทึ่ 3 ที่ทำได้ ( ทีมที่ทำได้ก่อนหน้าคือทีมแรกอาร์เซนอลฤดูกาล 1932-33, 1933-34 และ 1934-35และลิเวอร์พูล ) และในช่วงนั้นยูไนเต็ดได้คว้าตัวนักเตะสำคัญคือ กองหน้าชาวดัตช์ รืด ฟัน นิสเติลโรย ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็น 1 ในตำนานสโมสรที่ลงสนาม 220 นัด และยิงได้ถึง 150 ประตู และริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังที่มีค่าตัวสูงถึง 30 ล้านปอนด์
แต่อย่างไรก็ดี ในปี 2001-2006 ยูไนเต็ดได้ประสบปัญหาหลายอย่าง อย่างแรกคือสโมสรไม่สามารถหาผู้รักษาประตูที่เป็นตัวตายตัวแทนของ ปีเตอร์ ชไมเคิล ได้ สโมสรได้เปลี่ยนผู้รักษาประตูมือ 1 หลายคน ไม่ว่าจะเป็นมาร์ค บอสนิช, ไรมอนด์ ฟาน เดอ ฮาว, มัสซิโม่ ตาอิบี้, พอล ราชุบก้า, แอนดี้ กอแร่ม, ฟาเบียง บาร์แตซ, ทิม โฮเวิร์ด, รอย คาโรล, และ ริคาร์โด้ โลเปซ และปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือมีผู้เล่นที่เป็นกำลังหลักจำนวนมากได้ออกจากสโมสรไม่ว่าจะเป็นยาป สตัม, เดวิด เบ็คแฮม, รอย คีน กัปตันทีม, หรือแม้กระทั่งรืด ฟัน นิสเติลโรย โดยมีสาเหตุมาจากการมีปัญหากับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน [ 5 ] [ 6 ] ทั้งสิ้น ในช่วง 5 ปีนี้ ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ลีกเพียงครั้งเดียว ( ฤดูกาล 2002-2003 ) และได้ถ้วยรางวัลอื่นๆ อีก 2 รายการ คือ เอฟเอคัพ ( 2003-2004 ) และ ลีกคัพ ( 2005-2006 ) เท่านั้น โดยใน 2 ฤดูกาลหลัง เชลซีได้เข้ามามีบทบาทเด่นในฟุตบอลลีกเนื่องมาจากการเข้าเทคโอเวอร์สโมสรของ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ทำให้เชลซีมีงบประมาณซื้อตัวผู้เล่นไม่จำกัดและคว้าแชมป์ลีก 2 ปีติดต่อกัน
ต่อมาในปี 2006-2008 อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้ผ่าตัดทีมใหม่อีกครั้ง โดยมีแกรี่ เนวิลล์ เป็นกัปตันทีมคนใหม่ที่รับตำแหน่งกัปตันแทน รอย คีน 11 ผู้เล่นของยูไนเต็ดมีความลงตัวกว่าปีที่ผ่านๆ มา ผู้เล่นที่โดดเด่นมีแอ็ดวิน ฟัน เดอร์ซาร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติฮอลแลนด์ที่เป็นตัวแทนของ ปีเตอร์ ชไมเคิล และกองหลังมีเนมานย่า วิดิช ผู้เล่นยอดเยี่ยมของเซอร์เบียแอนด์มอนเตเนโกร และริโอ เฟอร์ดินานด์กองหลังค่าตัว 30 ล้านปอนด์เป็นแกนกลาง, ปีกซ้ายขวามี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกดาวรุ่งโปรตุเกสที่สืบทอดเสื้อหมายเลข 7 ต่อจากเดวิด เบ็คแฮม และนานี่ ปีกดาวรุ่งผู้เป็นตัวแทนของไรอัน กิ๊กส์ และกองหน้ามี เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงประตูที่มีค่าตัวถึง 27 ล้านปอนด์ [ 7 ] เป็นกำลังหลัก อเล็กซ์เฟอร์กูสันได้กล่าวว่าทีมชุดนี้เป็นชุดที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ชุดปี 1999, ซึ่งทีมชุดนี้สามารถนำแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไล่ล่าความสำเร็จอีกครั้ง โดยการคว้าแชมป์ลีก 3 ปีติดต่อกันในปี 2006-2009 และการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งในฤดูกาล 2007-2008
ในปี 2010 เนมานย่า วิดิช ได้รับตำแหน่งกัปตันหลังจากการประกาศเลิกเล่นของแกรี เนวิลล์ ผู้เล่นที่มีความโดดเด่นในช่วงนี้คือ ไมเคิล โอเวน อดีตกองหน้าลิเวอร์พูลที่สวมเสื้อหมายเลข 7 ต่อจากคริสเตียโน โรนัลโด, คาเบียร์ เอร์นันเดซ บัลกาซาร์ กองหน้าทีมชาติเม็กซิโก, และดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนผู้เป็นตัวแทนของฟัน เดอร์ซาร์ ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องโดยชนะเลิศในลีกได้อีกสองครั้งในรอบ 3 ปีคือฤดูกาล 2010-11 และแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ฤดูกาล 2012-13 ก่อนจะปิดท้ายยุคสมัยของเซอร์อเล็กซ์ ซึ่งเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ในประวัติศาสตร์ของสโมสร
การเทคโอเวอร์ของมัลคอล์ม เกลเซอร์
ในวันที่12 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ( 2005 ) มัลคอล์ม เกลเซอร์ นักธุรกิจชาวสหรัฐอเมริกาสามารถครอบครองในสโมสรเกินร้อยละ 70 หลังจากบรรลุข้อตกลงซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นเจ. พี. แมกมานัส และจอห์น แมกเนียร์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ร้อยละ 28.7 จาก และแฮร์รี่ ดอบสัน ผู้ถือหุ้นใหญ่ลำดับสามชาวสกอต ในวันที่ 16 พฤษภาคม เกลเซอร์ครอบครองหุ้นเกินร้อยละ 75 ซึ่งทำให้เขาสามารถนำสโมสรออกจากตลาดหลักทรัพย์ได้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถูกนำออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนในวันที่ 22 มิถุนายน เกลเซอร์สามารถครอบครองหุ้นร้อยละ 98 เป็นผลสำเร็จในวันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งเกินระดับที่กำหนดให้บังคับซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ มัลคอล์ม เกลเซอร์แต่งตั้งลูกชายสามคนของเขาเข้าในคณะกรรมการบริหาร ผู้สนับสนุนจำนวนมากไม่พอใจการเข้าครอบครองกิจการของเกลเซอร์
ในยุคช่วงที่ ตกต่ำที่สุด
เดวิด มอยส์
ในฤดูกาล 2013-14 หลังจากที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ประกาศวางมือจากการคุมทีมไป หลังจากที่คุมทีมมาอย่างยาวนานกว่า 26 ปีครึ่ง ทางทีมและทางตัวของเฟอร์กูสันได้แต่งตั้ง เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเอฟเวอร์ตันชาวสกอต ให้มารับหน้าที่ผู้จัดการทีมคนใหม่แทน แต่ปรากฏว่าผลงานของมอยส์ทำให้ทีมมีผลงานย่ำแย่มาก จนในที่สุดเมื่อจบฤดูกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้เพียงแค่อันดับ 7 ไม่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรายการภาคพื้นทวีปได้ทั้งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก หรือยูโรปาลีก อีกทั้งยังทำอีกหลายสถิติที่ย่ำแย่ จนกลายเป็นสถิติที่แย่ที่สุดของทีมในรอบ 19 ปี ในที่สุดก่อนจะสิ้นสุดฤดูกาลเพียงแค่ 4 นัด ผู้บริหารทีมก็ตัดสินใจปลดมอยส์ออกจากตำแหน่ง พร้อมกับแต่งตั้งไรอัน กิกส์ ปีกซ้ายชื่อดังของทีมวัย 40 ปี รับผิดชอบหน้าที่ผู้จัดการทีมชั่วคราวและผู้เล่นไปในตัวด้วย จนกว่าจะหาผู้จัดการทีมคนใหม่ได้
ที่สุดในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ทางทีมก็ได้แต่งตั้ง ลูวี ฟัน คาล ผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ และกิกส์ที่ประกาศเลิกเล่นไปก็รับหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการทีม
แต่การคุมทีมของฟัน คาล เมื่อเปิดฤดูกาลใหม่มา 2 นัด แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดทำคะแนนได้เพียง 2 แต้มเท่านั้น จากการที่แพ้สวอนซีซิตี คาสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดของตัวเอง 1-2 และเสมอกับซันเดอร์แลนด์ในนัดต่อมา 1-1และในรายการแคปิตอลวันก็ยังเป็นฝ่ายแพ้เอ็มเคดอนส์ ซึ่งเป็นทีมในลีกวันไปอีก 4-0 ทำให้ตกรอบ 2 ไปทันที
ในพรีเมียร์ลีกนัดถัดมา แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ชัยชนะนัดแรก เมื่อเป็นฝ่ายชนะคริสตัลพาเลซ ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดของตัวเอง 2-0 แต่ทว่าในนัดต่อมาเมื่อเจอกับเลสเตอร์ซิตี ที่เป็นทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากเดอะแชมเปียนชิป ที่สนาม คิงพาวเวอร์สเตเดียม ถึงแม้จะเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 3-1 แต่ทว่าในครึ่งหลังกลับถูกเลสเตอร์ซิตีแซงจนชนะไป 5-3 ซ้ำไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์ กองหลังของทีมก็ถูกใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 83 อีกด้วย ทำให้เมื่อผ่านไป 5 นัด อันดับของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอยู่ที่อันดับที่ 12 มีเพียง 5 คะแนนเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบสถิติกับเดวิด มอยส์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว พบว่าฟัน คาล มีสถิติแย่กว่ามอยส์เสียอีก เพราะ 5 นัดแรกในฤดูกาลนี้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังไม่พบกับทีมใหญ่เลย ผิดกับฤดูกาลที่แล้วที่พบกับทีมใหญ่ถึง 3 ทีม คือ เชลซี, ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ซิตี ใน 5 นัดแรก และมีรายงานว่าผู้เล่นบางคนถึงกับกล่าววาจาหยาบคายออกมาในห้องพักหลังจากแข่งขัน ซึ่งแสดงออกถึงความไม่พอใจในตัวฟัน คาล
โดยฟัน คาล ได้กล่าวว่าขอเวลาให้ตนเอง 4 เดือนเพื่อที่จะปรับทีมให้ลงตัวตามแผนการเล่น ทั้งที่ก่อนเปิดฤดูกาลผลงานของฟัน คาล พาทีมชนะรวดทั้งหมด 6 นัดในการแข่งขันนัดอุ่นเครื่อง
อ้างอิง hypertext transfer protocol : //th.wikipedia.org/wiki
ประวัติ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด
โอลด์ แทรฟฟอร์ด ( Old Trafford ) เป็นสนามกีฬาในเขตแทรฟฟอร์ดของเกรตเตอร์แมนเชสเตอร์ และเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สนามกีฬาเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1909 และเริ่มเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1910 ซึ่งใช้มาตลอดยกเว้นในช่วง 8 ปี ที่สนามโดนระเบิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วง 1941-1949
โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปัจจุบัน เป็นสนามฟุตบอลซึ่งติดตั้งเก้าอี้หมดทุกพื้นที่ของสแตนด์ เป็นสนามที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ ในแง่ของจำนวนแฟนบอลที่รองรับได้ ซึ่งมากถึง 76,212 คนเป็นรองแค่สนามกีฬาเวมบลีย์เพียงแห่งเดียว และใหญ่อันดับ 3 ของสหราชอาณาจักร ใหญ่เป็นอันดับ 11 ของทวีปยุโรป นอกจากนั้นยังเป็น 1 ใน 2 สนามในอังกฤษที่ยูฟ่ารับรองเป็นสนาม 5 ดาว
ชื่อเรียกที่แฟนบอลคุ้นหูและเร้าอารมณ์ว่า “ โรงละครแห่งความฝัน ” นั้น คนแรกที่แรกที่เรียกชื่อนี้คือ เซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน บุคคลระดับตำนานของสโมสรนั่นเอง
สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดนี้มักจะถูกใช้เป็นสนามในการแข่งขันเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศ และเป็นสนามหลักในการแข่งขันหลายอย่างในขณะที่สนามกีฬาเวมบลีย์อยู่ในระหว่างการปรับปรุง นอกจากนี้ยังได้เป็นสนามแข่งขันนัดสำคัญหลายอย่าง ไม่ว่า ฟุตบอลโลก 1966หรือแชมเปียนส์ลีก 2003 และจะถูกใช้แข่งขันฟุตบอลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอนเป็นเจ้าภาพ
อ้างอิงจาก hypertext transfer protocol : //www.glory-manutd.com/
ตำนานแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
David Robert Joseph Beckham
กำเนิด 2nd May 1975
กำเนิดที่ Leytonstone, London
ตำแหน่ง Right Midfield
ส่วงสูง 6ft
ลงเล่นให้ United นัดแรก 23/9/1992 Brighton ( A )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1992-2003
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 237 ( 28 ) / 62
FA Cup 22 ( 2 ) / 6
League Cup 10 ( 2 ) / 1
Europe 79 ( 4 ) / 15
Total 348 ( 36 ) /84
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1996- ปัจจุบัน ลงเล่น 59 Caps – 11 goals
เกียรติยศกับ United
1992 F.A. Youth Cup
1996 F.A. Premier League
1996 F.A. Cup
1997 F.A. Premier League
1999 F.A. Premier League
1999 F.A. Cup
1999 european Champions League
1999 Intercontinental Cup
2000 F.A. Premier League
2001 F.A. Premier League
2003 F.A. Premier League
ใช้เวลานานพอสมควรกว่าหนุ่มจากค็อกนี่ย์จะ ครองใจแฟนยูไนเต็ดที่เกิดในแมนเชสเตอร์ได้
แต่ เดวิด เบ๊คแฮม คงรู้ว่าเขาทำได้ทุกครั้งที่เขาเงื้อเท้าเตะลูกเตะมุมและได้รับการยืนปรบมือ
ให้เกียรติ ความรักยูไนเต็ดตั้งแต่วัยเด็กของเบ๊คแฮมกลายเป็นที่รู้จักกว้างขวางในทันที
หลังจากที่เขายิงประตูได้ในนัดแรกที่เขาลงเต็มเวลาให้ทีมชุดใหญ่ เจอกับกาลาตาซาราย
ในพฤศจิกายน 1994 และฉลองประตูกลางอากาศกับ เอริก คันโตน่า ด้วยแรงบันดาลใจจาก
เดอะ คิง เบ๊คเป็นหนึ่งใน “ เด็กๆ ” ที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลต่อมา น่าขันที่การก้าวเข้า
มาโด่งดังกับตำแหน่งมิดฟิลด์ของ เดวิด เบ๊คแฮม ในช่วงต้นฤดูกาล 1996/97
กลายเป็นตัวเร่ง ของการเลิกลาอาชีพฟุตบอลของเอริก “ ประตูนั้น ”
ตามด้วยประตูที่น่าทึ่งอีกเป็นชุด และจากการเป็นแกนของทีมบทบาทของเอริก
เริ่มด้อยความสำคัญลงทีละน้อย เบ๊คแฮมได้ก้าวมารับผิดชอบภาระสำคัญภายใต้เสื้อเบอร์เจ็ดที่โด่งดัง
เบ๊คแฮมเป็นนักเตะที่เปิดบอลแม่นที่สุดในอังกฤษ แฟนส่วนใหญ่คงไม่ลืมลูกฟรีคิกที่ยิงบาร์เซโลน่า
ในช่วงต้นฤดูกาล แต่ที่ไม่ค่อยได้รับการพูดถึงคือการวิ่งขึ้นวิ่งลงทั่วสนามอย่างไม่รู้จัก
เหน็ดจักเหนื่อยแม้เมื่อไม่มีบอลอยู่กับเท้า เพื่อช่วยเพื่อนอีกสิบคนของยูไนเต็ดเปิดเกมโต้กลับได้รวดเร็ว
แม้วันที่เขายิงไม่ได้เบ๊คแฮมยังทำงานหนัก และเป็นคนเปิดบอลให้เพื่อนทำประตูได้
ทรงประสิทธิภาพที่สุดในพรีเมียร์ชิพ
จอร์จ เบสต์ กล่าวว่า ” ผมมองเบ๊คแฮมอย่างสูงส่ง เขาสามารถเป็นเอริก คันโตน่า ของยูไนเต็ด
และจะก้าวไปถึงจุดเดียวกันในทีมชาติอังกฤษ ”
Denis Joseph Irwin
กำเนิด 31st October 1965
กำเนิดที่ Cork, Rep of Ireland
ตำแหน่ง Left back
ส่วงสูง 5ft 9
ลงเล่นให้ United นัดแรก 25/8/1990 v Coventry ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1990-2002
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 356 ( 12 ) 22
FA Cup 42 ( 1 ) 7
League Cup 28 ( 3 ) 0
Europe 73 ( 2 ) 4
total 499 ( 18 ) 33
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1990-2002 ลงเล่น 56 Caps for Rep of Ireland – 4 goals
เกียรติยศกับ United
2001 F.A. Premier League
2000 F.A. Premier League
1999 Intercontinental Cup
1999 european Champions League
1999 F.A. Cup
1999 F.A. Premier League
1997 F.A. Premier League
1996 F.A. Cup
1996 F.A. Premier League
1994 F.A. Cup
1994 F.A. Premier League
1993 F.A. Premier League
1992 League Cup
1991 European Super Cup
1991 European Cup Winners Cup
ค่าตัว 625,000 ปอนด์ โจ รอยล์ เรียกเจ้านายว่าจอมขโมย ตัวเฟอร์กี้เองก็ยอมรับอย่างละอายเช่นกัน และไม่แปลกใจเลย เมื่อเดนิส เออร์วิน ก้าวมาถึงปีที่เขาได้เทสติโมเนียลแมตซ์คุณคงยากที่จะลืมจรดชื่อเขาให้เป็น หนึ่งในนักเตะฟลูแบ๊กที่ยอดเยี่ยม จะมีใครล่ะจะประสบความสมเร็จมากไปกว่านี้ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะในดรีมทีมของเฟอร์กี้ และเป็นตัวจริงมายาวนานจนกระทั่งเขาจากไป
อลัน แฮนเซ่น กล่าวว่า ” เป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเฟอร์กี้ ”
Peter Boleslaw Schmeichel
กำเนิด 18th Nov 1963
กำเนิดที่ Gladsaxe, Denmark
ตำแหน่ง Goalkeeper
ส่วงสูง 6ft 4
ลงเล่นให้ United นัดแรก 17/8/1991 vs Notts C ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1991-1999
ประวัติการลงเล่น/ไม่เสียประตู
League 292 /130
FA Cup 41/ 20
League Cup 17/ 9
Europe 42/ 19
total 392 /178
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1991-2001 ลงเล่น 129 Caps for Denmark – 1 Goal
เกียรติยศกับทีมชาติ 1992 european Championship Winner
เกียรติยศกับ United
1999 european Champions League
1999 F.A. Premier League
1999 F.A. Cup
1997 F.A. Premier League
1996 F.A. Cup
1996 F.A. Premier League
1994 F.A. Cup
1994 F.A. Premier League
1993 F.A. Premier League
1992 League Cup
หนึ่งในผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล ชไมเคิ่ลมีค่าตัวเพียง 500,000 ปอนด์ ตอนที่ย้ายมาจากบรอนด์บี้สโมสรในเดนมาร์กในปี 1991 นักเตะร่างสูงใหญ่ ท่าทางขึงขังคือจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายในชุดปราการหลังที่ประกอบด้วย เออร์วิน, พัลลิสเตอร์, บรู๊ซ และปาร์คเกอร์ ซึ่งเป็นแรงสำคัญที่ช่วยให้ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จในปี 1995 ในปี 1992 เขานำเดนมาร์กคว้าแชมป์แห่งชาติยุโรปในสวีเดน และหนึ่งปีต่อมา เขาเป็นบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 26 ปีของยูไนเต็ด ด้วยการขว้างบอลให้ปีกเปิดเกมโต้กลับอย่างทรงพลัง เป็นนายประตูยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ชิพ ในปี 1993 นายประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของยุโรปในปี 1995 และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของคาร์ลิ่งในปี 1996 คือเกียรติยศที่เขาได้รับ
ปีเตอร์ กล่าวว่า ” เวลาคุณลงเล่นคุณต้องเห็นแก่ตัว คุณต้องคิดว่า ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง ”
Eric Cantona
กำเนิด 24th May 1966
กำเนิดที่ Paris, France
ตำแหน่ง Forward
ส่วงสูง 6ft 2
ลงเล่นให้ United นัดแรก 6/12/1992 v Man City ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1992-1997
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 142 ( 1 ) / 64
FA Cup 17 /10
League Cup 6 /1
Europe 16/ 5
total 181 ( 1 ) / 80
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1987-1994 ลงเล่น 45 Caps for France – 19 Goals
เกียรติยศกับ United
1997 F.A. Premier League
1996 F.A. Cup
1996 F.A. Premier League
1994 F.A. Cup
1994 F.A. Premier League
1993 F.A. Premier League
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซื้อเขามาจากลีดส์ ตลอดอาชีพนักเตะของเขาดูเหมือนจะมีความขัดแย้งและการโต้แย้ง ทักษะอันไร้ขอบเขตของคันโตน่าถูกใช่อย่างไม่รู้ค่า แต่ในวินาทีที่เขาก้าวเข้ามาในรั่วโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาก็รู้ว่าในที่สุดที่นี่คือชานชาลาที่เขามองหามานาน ศักยภาพ แรงเชียร์มหาศาลและเรียกร้องการทำงานสูง มีเพียงสุดยอดเท่านั้นที่ดีพอ และคันโตน่าก็รู้ว่าเขาสุดยอด
ในการที่จะก้าวไปถึงจุดสูงสุดนักฟุตบอลจำเป็นต้องมีความ เชื่อมั้นในตนเอง แต่ชายคนนี้มีสิ่งนี้อยู่เต็มเปี่ยม ในอดีตเขาเจอเพื่อนร่วมทีมและผู้จัดการทีมที่ไม่พอใจกับความเย่อหยิ่งของเขา จากวินาทีที่เขาลงสนามในฐานะตัวสำรองเจอกับแมน ซิตี้ เมื่อ 12 ธันวาคม 1992 คันโตน่าก็แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถทำทุกอย่างที่ศูนย์หน้ายุคใหม่จำเป็นต้อง ทำ เขาสามารถยิงประตู ประตูสุดสวยอย่างนัดเจอวิมเบิลดันในเอฟเอ คัพ 1994 ตอนที่เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งขณะที่เขาครอบครองบอลอยู่บนหน้าขากระดกบอลขึ้น และวอลเลย์เข้าประตูไปภายในขั้นตอนเดียว เขาสามารถผ่านบอลได้อย่างสมบูรณ์แบบให้กับเพื่อนร่วมทีมทำประตู เขาสามารถดลใจให้ทีมเล่นเกมที่น่าดูที่สุดในยุค 90 แต่เหนืออื่นใด ความสำเร็จของเขาคือการแพร่ความมั่นใจอย่างยิ่งยวดให้กระจายอบอวลในห้องแต่ง ตัว แค่มีเขาอยู่ก็มากเกินพอแล้ว สิ่งที่อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มองเห็นในตัวคันโตน่าคือเขาต้องการชัยชนะ ปัญหาของเขาในอดีตไม่ได้เกิดจากความทุ่มเท เป็นคนแรกที่มาถึงสนามซ้อมและกลับเป็นคนสุดท้าย นั่นคือเอริก แต่เพราะความใส่ใจมากเกินไปต่างหากที่เป็นปัญหา และมีบางครั้งที่ความปรารถนาอันมากมายของเขาทำให้เขาโชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นกว่า ปกติ
เมื่อรู้สึกว่าเขาจำเป็นที่ต้องตอบโต้ความอยุติธรรมที่เห็นและผลที่ตามมาจาก การตบะแตกของเขาคือใบแดง หรือแย่กว่านั้นคือ ถูกแบนเพราะความประพฤติของเขา แต่ท้ายที่สุดนี่คือสิ่งที่ทำให้คันโตน่าเป็นสิ่งพิศวงยิ่งขึ้น การกลับมาหลังถูกแบนยาวจากการตบะแตกที่พาเลซ จำได้ว่าตอนที่เขากลับมา บรรดาเซียนทั้งหลายกาชื่อเขาออกไปแล้ว พวกเขาบอกว่าเขาอาจถูกขับออกจากเกมฟุตบอลอังกฤษ แต่พวกเขาคาดผิดเมื่อเขากลับมาในเดือนตุลาคม 1995 หลังจากถูกแบนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ เขาหล่อหลอมทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะวัยรุ่นไปเป็นทีมดับเบิ้ลแชมป์ เขาเป็นนักเตะที่สร้างความพลิกผันให้กับเกม 13 เกมในหนึ่งฤดูกาลอยู่ในกำมือของคันโตน่าว่าจะเอาเสมอหรือชนะ และเขาโดนใบเหลืองเพียงใบเดียวครั้งหนึ่งนักเตะที่เคยยอมรับว่าไม่สามารถ เล่นได้หากปราศจากไฟในการทำลาย กลับเปลี่ยนบุคลิกด้วยความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่ง และเขากลายเป็นนักเตะที่ดีขึ้นด้วยเหตุนั้น และทันทีที่เขารู้สึกถึงความถดถอยของกำลังกาย เขาเลิกเล่น แต่การจากเกมไปเป็นการจากลาที่มีระดับอย่างสง่าผ่าเผย ทิ้งไว้แต่เพียงความทรงจำกับวันรุ่งเรืองของเขา
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวว่า ” แค่มีเขาอยู่ก็มากเกินพอแล้ว ”
เอริก กล่าวว่า ” เป็นโชคดีที่นักเตะส่วนใหญ่ไม่เป็นเหมือนผม ไม่อย่างนั้นคงเป็นอนาธิปไตยกันหมดแน่
Bryan Robson
กำเนิด 11th Jan 1957
กำเนิดที่ Chester-le-Street, Durham
ตำแหน่ง Central Midfield
ส่วงสูง 5ft 11
ลงเล่นให้ United นัดแรก 7/10/1981 v Spurs ( A )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1982-1994
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 326 ( 19 ) / 74
FA Cup 33 ( 2 ) / 10
League Cup 49 ( 1 ) / 5
Europe 26 ( 1 ) / 8
Total 434 ( 23 ) / 97
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1980-1990 90 Caps for England – 26 Goals
เกียรติยศกับ United
1994 F.A. Premier League
1993 F.A. Premier League
1991 European Cup Winners Cup
1990 F.A. Cup
1985 F.A. Cup
1983 F.A. Cup
ร็อบโบ้ได้รับการเคารพอย่างยิ่งยวดที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขายังคงเป็นฮีโร่ตลอดกาลสำหรับแฟนๆ และนักเตะในปัจจุบัน ร็อบสันคือยูไนเต็ดช่วงทศวรรษ 80 ในช่วงสุดยอดของเขาคือความหวังทั้งหมดของสโมสร มีเขาอยู่ยูไนเต็ดไล่ล่าแชมป์ ขาดเขายูไนเต็ดต้องดิ้นรนหนีตาย นับจากวินาทีที่เขาเซ็นสัญญาเข้าทีมพร้องทรงผมยอดแย่ ร็อบโบ้ทำท่าจะเป็นตำนานเสมอ บิ๊กรอนเรียกเขาว่า “ ทองแท้ ” ในช่วง 13 ฤดูกาลร็อบโบ้ได้ชูถ้วยเอฟเอ คัพ สามหน แชมป์ลีกสองหน และยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ คัพอีกหนึ่ง แฟนคู่แข่งโห่เขา แต่คงยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่กับทีม เขาเป็นที่รักจากความทุ่มเทที่มีต่อยูไนเต็ด การพุ่งเข้าสกัดบอลและสกัดคู่ต่อสู้ เข้าไม่เคยคิดถึงอันตราย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นนักเตะที่น่าเกรงขาม
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวว่า ” เขาคือนักเตะหัวใจสิงห์เกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณห้าวหาญและความเป็นนักสู้ ”
ชื่อ Brian McClair
กำเนิด 8th Dec 1963
กำเนิดที่ Airdrie
ตำแหน่ง Forward
ส่วงสูง 5ft 9
ลงเล่นให้ United นัดแรก 15/8/1987 vs sol ’ long ton ( A )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1987-1998
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 296 ( 59 ) 88
FA Cup 38 ( 7 ) 14
League Cup 44 ( 1 ) 19
Europe 17 ( 6 ) 5
sum 395 ( 73 ) 126
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1985-1993 ลงเล่น 27 Caps for Scotland – 2 Goals
เกียรติยศกับ United
1997 F.A. Premier League
1996 F.A. Premier League
1996 F.A. Cup
1994 F.A. Cup
1994 F.A. Premier League
1993 F.A. Premier League
1992 League Cup
1991 European Cup Winners Cup
1990 F.A. Cup
ในช่วง ปลายยุค 90 เราได้เห็นฟอร์มของ ไบรอัน แม็คแคลร์ ไม่แตกต่างจากที่เคยเห็นมาเลย แต่ขณะเดียวกันนักเตะที่เปลี่ยนจากกองหน้ามาเป็นมิดฟิลด์ กลายเป็นขวัญใจตลอดกาลของกองเชียร์บนอัฒจันทร์ที่ร้องเพลงเชียร์ เสียงกระหึ่มเพื่อสรรเสริญความภักดีของเขา และความจริงที่ว่าเขาเป็นคนดีเหลือเกิน มีนักเตะเพียงไม่กี่คนที่จะสร้างอะไรในยุคของเฟอร์กี้ได้มากกว่าไบรอัน แม็คแคลร์
ชื่อ Mark Leslie Hughes
กำเนิด 1st Nov 1963
กำเนิดที่ Wrexham, Wales
ตำแหน่ง Forward
ส่วงสูง 5ft 9
ลงเล่นให้ United นัดแรก 26/10/1983 five Port Vale ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1983-86 & 1988-95
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 336 ( 9 ) 120
FA Cup 45 ( 1 ) 17
League Cup 37 ( 1 ) 16
Europe 30 ( 3 ) 9
total 448 ( 14 ) 162
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1983-2000 ลงเล่น 72 Caps for Wales – 16 Goals
เกียรติยศกับ United
1994 F.A. Cup
1994 F.A. Premier League
1993 F.A. Premier League
1992 League Cup
1991 European Cup Winners Cup
1990 F.A. Cup
1985 F.A. Cup
ในปลายยุค 80 เมื่อยูไนเต็ดอยู่ในช่วงล้มลุกคลุกคลาน สปาร์กี้เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าภูมิใจ ไม่มีเกมไหนจะบรรยายได้ดีไปกว่าเมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่มเรา 5-1 แต่สปาร์กี้ยิงประตูสุดยอดได้อีกหนึ่งลูก ประตูของเขาทำให้วันนั้นคลายความโศกเศร้าไปได้บ้าง เขาเป็นนักเตะที่พิเศษไม่เหมือนใคร ลองโยนบอลไปหาเขาสิ แล้วบอลจะโลยไปติดที่อก หัว เท้าหรือบั้นท้ายของเขา และเขาคงชอบความจริงที่ว่านักเตะไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้ เพราะเขาใกล้เมื่อไหร่เป็นอันต้องเด้งออกมามาทุกทีไป สปาร์กี้สมควรได้รับบทเด่นในวันที่ความรุ่งเรืองมาถึงในต้นยุค 90 เอริก คันโตน่า เข้ามาแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้ง และทั้งสองเข้าคู่กันสนั่นเมือง สปาร์กี้ซึ่งปกติเป็นคนเงียบขรึม ก็เริ่มขยับยอมรับว่า “ ผมรู้ว่าเดอะ เฟร้นซ์แมนเปลี่ยนชีวิตฟุตบอลของผม ” สปาร์กี้ก็ทำให้ชีวิตเราเป็นสุขมากเช่นกัน
George Best
กำเนิด 22nd May 1946
กำเนิดที่ Belfast
ตำแหน่ง Winger/Forward
ส่วงสูง 5ft 8
ลงเล่นให้ United นัดแรก 14/9/1963 vanadium WBA ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1963-1974
Read more: Paris Saint-Germain F.C.
ประวัติการลงเล่น/ประตู
League 361/ 137
FA Cup 46/ 21
League Cup 25/ 9
Europe 34 /11
Total 466/ 178
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1964-1973 37 Caps for N Ireland – 9 Goals
เกียรติยศกับ United
1968 european Cup
1968 European Footballer of the Year
1967 1st Div League Championship
1965 1st Div League Championship
นักเตะสมบูรณ์อย่าง เปเล่ ครัฟฟ์ มาราโดน่า ล้วนแต่สุดยอด แต่จอร์จมีส่วนประกอบของนักเตะเหล่านั้นอย่างละเล็กละน้อย การครองบอลได้อย่างน่าทึ่ง เขาสามารถผ่านคู่ต่อสู้ได้ด้วยลีลาลูกเล่นหรืออาจจะสปีดหนีไป เขาแข็งแกร่งมากพอที่จะกลับมาเมื่อพลาด สามารถยิงได้ด้วยเท้าและเทกตัวขึ้นชิงโหม่ง คงมีไม่กี่คนหรอกที่โชคดีี่ได้ดูเกมที่เขาลงประเดิมสนามกับยูไนเต็ดในเดือน สิงหาคม 1963 และเล่นเกมสุดท้ายในวันปีใหม่ปี 1974 และหลายเกมในจำนวน 464 เกม ที่เขาลงเล่น และมันวิเศษมาก เขาฝากความทรงจำมากมายให้กับแฟนๆ ที่เก่าแก่ที่สุดคงเป็นเกมที่สองที่เขาลงเล่น ยูไนเต็ดแพ้ 1-6 ที่เบิร์นลี่ย์ ในวันบ๊อกซิ่งเดย์ 1963 เซอร์แมตต์ จำเป็นต้องแก้สถานการณ์ เขาจึงส่งจอร์จ ลงไปตรงฝั่งซ้ายในเกมนัดที่สองของทั้งสองทีม ในอีกสองวันต่อมา ยูไนเต็ดชนะ 5-1 และดูเหมือนจอร์จจะมีส่วนกับทุกประตู นั่นเป็นการเริ่มต้นของช่วงปีที่มหัศจรรย์ และไม่มีใครสามารถกังขาผลงานที่อัจฉริยะชาวไอริชผู้นี้ สร้างเพื่อความสำเร็จของทีม เขาทำให้คู่แข่งเสียคน เขาจะหลอกล่อคู่แข่งเหมือนนักสู้วัวกระทิงล่อวัว ก่อนจะยิงประตูอย่างดุดัน ในตอนนั้น เขาอาจพยายามเล่นลีลามากไปจนเสียบอล แต่เขาจะเข้าแย่งจนได้บอลคืนมา และเข้าเสียบสกัดอย่างดุดันไม่น้อยหน้าพวกฉายาฮาร์ดแมนทั้งหลาย เบสต์เยี่ยมยอดตามชื่อ เบสต์เยี่ยมยอดโดยธรรมชาติ นั่นคือจอร์จ
Denis Law
กำเนิด 24th Feb 1940
กำเนิดที่ Aberdeen
ตำแหน่ง Forward
ส่วงสูง 5ft 9
ลงเล่นให้ United นัดแรก 18/8/1962 vanadium WBA ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1962-1973
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 305 ( 4 ) / 171
FA Cup 44 ( 2 ) /34
League Cup 11/ 3
Europe 33 /28
Total 393 ( 6 ) /236
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1958-1974 55 Caps for Scotland – 30 Goals
เกียรติยศกับ United
1967 1st Div League Championship
1965 1st Div League Championship
1964 European Footballer of the year
1963 F.A. Cup
เดนิสคือราชันแห่งโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดตัวจริง ในยุค 60 เมื่อ เอริก คันโตน่า ยังเป็นวุ้นอยู่เดนิสกลายเป็นขวัญใจของแฟนๆด้วยสไตล์การเล่นที่เด็ดเดี่ยว เขาเป็นนักเตะที่เพื่อนๆรักใคร่ เพราะเวลาอยู่ในสนามเขาจะทุ่มเททุกอย่าง แฟนๆอาจนึกภาพความทุ่มเทออก เสื้อหลุดออกมานอกกางเกง แขนเสื้อยาวถือดึงปิดมือ เดนิสยิงได้จากทุกมุมของสนามและถ้าเป็นระยะเผาขนเขากลายเป็นไอ้ปืนโหดเลยที เดียว ถ้าผู้รักษาประตูทำบอลกระฉอกเขาจะเข้าซ้ำและชั่วพริบตาแขนของลอว์แมนจะชู ขึ้น นิ้วชี้ขึ้นไปบนฟ้า ฉลองประตูอีกประตู เดนิสจะสู้กับทุกอย่าง และไม่เคยกลัวใคร ซึ่งบางครั้งมันก็ส่งผลร้าย เขาเคยถูกไล่ออก เพราะเอาคางไปโขก อลัน บอลล์ ที่แบล็คพลู เดนิสเป็นคนอเบอร์ดีนย้ายจากโตริโน่มายูไนเต็ดหลังเคยอยู่กับฮัดเดอร์ฟิลล์ และแมนฯ ซิตี้ สถิติในบอลยุโรปของเขาน่าทึ่งมาก 28 ประตู ใน 33 เกม เขายิง 236 ประตุ ใน 393 เกมที่เขาลงเล่นระหว่างที่อยู่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นราชันของทั้งสองฝั่ง ( สก๊อตแลนด์ และอังกฤษ ) ด้วยการยิงให้สก็อตแลนด์ 30 ประตู
จอร์จ เบสต์ กล่าวว่า ” เดนิสเป็นสุดยอดของวงการ เขาสามารถยิงประตูจากโอกาสเพียงแค่เสี้ยวไม่ต้องพูดถึงโอกาสเพียงครั้งเดีย
Bobby Charlton
กำเนิด 11th Oct 1937
กำเนิดที่ Aberdeen
ตำแหน่ง Ashington, Northumberland
ส่วงสูง 5ft 9
ลงเล่นให้ United นัดแรก 6/10/1956 vs Charlton ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1953-1973
ประวัติการลงเล่น/ประตู
league 604 ( 2 ) / 199
FA Cup 79/ 19
League Cup 24/ 7
Europe 45 /22
Total 752 ( 2 ) / 247
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1958-1970 106 Caps for England – 49 Goals
เกียรติยศกับ United
1968 european Cup
1967 1st Div League Championship
1966 European Footballer of the year 1965 1st Div League Championship
1963 F.A. Cup
1957 1st Div League Championship
ความสำเร็จของเซอร์บ๊อบบี้ โดดเด่นเหนือกว่าใครในบรรดานักเตะยูไนเต็ดด้วยกัน คุณไม่มีทางเทียบรัศมีบ๊อบบี้ได้ แต่หลายคนเคยลองทั้งเตะทั้งดึงเสื้อจิกสีข้าง แต่เขาเดินหนีไปเฉย ๆ เขาคือคนที่ไว้วางใจ เร็ว และแข็งแกร่ง เปี่ยมทักษะ จ่ายบอลล์ให้เขาในระยะ 25 หลา แล้วปล่อยให้เขาจัดการที่เหลือได้เลย เขายิงประตูได้ดุดัน ครั้งหนึ่งผมเคยเห็นเขาตะบันลูก จากสนามฝั่งสกอร์บอร์ด มันลอยละลิ่วไปกระแทกตำรวจ ที่ดูเกมอยู่บนหลังม้า เขาวิ่งเร็วราวกระต่ายหนีกระสุน แล้วใครล่ะที่จะลืมลูกโหม่งสุดยอด ที่นำทางสอในในยูโรเปี้ยนคัพ บ๊อบบี้ลงเล่นในลีกกับยูไนเต็ดถึง 606 เกม และสถิติยิง 199 ประตู ในลีกของเขายังคงเป็นสถิติของสโมสร บวกกับการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ อีก 106 เกม ยิง 49 ประตู แล้วเป็นแชมป์โลก คุณจะเข้าใจว่าบ๊อบบี้ ชาร์ลตัน จึงเป็นตำนาน
เซอร์แม็ตต์ บัสบี้ กล่าวว่า บ๊อบบี้เป็นทุกอย่างเท่าที่คุณต้องการในตัวนักเตะคนหนึ่ง เขายิงประตูสุดสวยหลายลูก และเป็นขุนพลที่ยอดเยี่ยม ทั้งของสโมสรและทีมชาติ คุณจะขออะไรมาไปกว่านี้อีกหรือ
ชื่อ Duncan Edwards
กำเนิด 1st Oct 1936
กำเนิดที่ Dudley, Worcestershire
ตำแหน่ง Half Back
ส่วงสูง 6ft 3
ลงเล่นให้ United นัดแรก 4/4/1953 volt Cardiff ( H )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1952-1958
ประวัติการลงเล่น/ประตู
League 151/ 20
FA Cup 12 /1
League Cup n/a /n/a
Europe 12/ 0
Total 175/ 21
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1955-1958 18 Caps for England – 5 Goals
เกียรติยศกับ United
1st Div League Championship 1957
1st Div League Championship 1956
เป็นนักฟุตบอลยุค 50 ซึ่งหลายคนเด็กเกินกว่าจะได้เห็นเขาเล่น ซึ่งดูเป็นเรื่องไม่ธรรมดาแต่ดันแคน เอ๊ดเวิร์ดสร้างผลงานที่ลืมไม่ลงประทับไว้ในประวัติศาสตร์ของยูไนเต็ด อันที่จริงใครก็ตามที่โชคดีได้ดูเอ๊ดเวิร์ดลงเล่นซึ่ง เซอร์บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน เป็นหนึ่งในนั้น ล้วนยกให้เอ๊ดเวิร์ดเป็นหมายเลขหนึ่งตลอดกาลสำหรับพวกเขา เด็กหนุ่มที่มีความเป็นผู้ใหญ่ได้รับการยกย่องในเรื่องความแข็งแกร่งของร่าง กาย และอารมณ์ละเมียดละไม เอ๊ดเวิร์ดกลายเป็นนักฟุตบอลที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลดิวิ ชั่นหนึ่ง เมื่อเขาลงเล่นในเดือนเมษายน 1953 อายุเพียง 16 ปี 185 วัน ก่อนที่หนุ่มน้อยจะก้าวสู่ฟุตบอลลีก จอร์นนี่ แครี่ย์ อดีตกัปตันทีมยูไนเต็ดเคยยกย่องเอ๊ดเวิร์ดเป็น “ หนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล ” ในปี 1957 เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้แสดงความเห็นในบทสนทนาที่ไม่ได้มีการบันทึกไว้ว่า เอ๊ดเวิร์ดทั้งที่อายุเพียง 21 ปี คือ “ นักเตะที่เยี่ยมที่สุดในโลก ” “ เขาเป็นนักเตะระดับโลกเวลาที่ยูไนเต็ดครองบอล แต่เขายังเป็นกองหลังที่ดีที่สุดของเราเวลาคู่แข่งเป็นฝ่ายครองบอล ” วิลฟ์ แม็คกินเนสส์ เพื่อนร่วมก๊วนของบัสบี้ เบ๊บส์ พูดอธิบายเหตุผลที่เอ๊ดเวิร์ดเหนือกว่าเบสต์, ลอว์และชาร์ลตัน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเครื่องบินตกที่มิวนิคไม่คร่าชีวิตของเอ๊ดเวิร์ดไป ? อาจจะเป็นไปได้ว่า บ็อบบี้ มัวร์ ผู้ยิ่งใหญ่ ที่เล่นในตำแหน่งถนัดของเอ๊ดเวิร์ดตรงฮาล์ฟซ้ายในทีมชาติอังกฤษ อาจจะไม่ติดทีมชาติด้วยซ้ำ เป็นสิ่งที่บอกความเก่งกาจของเขาได้ดี
เซอร์บ็อบบี้ กล่าวว่า “ ดันแคน เอ๊ดเวิร์ด ” เป็นนักเตะคนเดียวที่ทำให้ผมรู้สึกต่ำต้อยเหลือเกิน
Dennis Viollet
กำเนิด 20th September 1933
กำเนิดที่ Manchester
ตำแหน่ง Forward
ส่วงสูง 5ft 10
ลงเล่นให้ United นัดแรก 11/4/1953 volt Newcastle ( A )
อยู่กับ United ตั้งแต่ปี 1952-1962
ประวัติการลงเล่น/ประตู
League 259 /159
FA Cup 18 / 5
League Cup 2 / 1
Europe 12 / 13
Total 291 /178
ติดทีมชาติตั้งแต่ปี 1960-1961 2 Caps for England – 1 Goal
เกียรติยศกับ United
1957 1st Div League Championship
1956 1st Div League Championship
นักเตะสไตล์ลินิเกอร์พร้อมด้วยสายตาสอด ส่ายหาโกาสที่ยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ เดนิสพิสูจน์ความสามารถด้วยการสร้างสถิติการยิงประตูในลีกให้ยูไนเต็ด 32 ประตูในหนึ่งฤดูกาลในปี 1959/60 ทั้งเร็วและแรง เขายิงประตูได้ถึง 178 ลูกจากการเล่น 291 เกม ดูไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาติดทีมชาติเพียง
อ้างอิง hypertext transfer protocol : //ninegolfs.exteen.com/20101222/entry-15
นักเตะแมนยูในปัจจุบัน ปี 2014-2015
1
ดาวิด เด เคอา
ผู้รักษาประตู
สเปน
7/11/1990
David de Gea
2
ราฟาเอล ดา ซิลวา
กองหลัง
บราซิล
9/7/1990
Rafael
3
ลุค ชอว์
กองหลัง
อังกฤษ
12/7/1995
Luke Shaw
4
ฟิล โจนส์
กองหลัง
อังกฤษ
21/2/1992
Phil Jones
5
มาร์กอส โรโฮ
กองหลัง
อาร์เจนติน่า
20/3/1990
Marcos Faustino Rojo
6
จอนนี่ อีแวนส์
กองหลัง
ไอร์แลนด์เหนือ
2/1/1988
Jonny Evans
7
อังเคล ดิ มาเรีย
มิดฟิลด์
อาร์เจนติน่า
14/2/1988
Angel Fabian Di Maria
8
ฆวน มาต้า
มิดฟิลด์
สเปน
28/4/1988
Juan Manuel Mata García
9
ราดาเมล ฟัลเกา
ศูนย์หน้า
โคลัมเบีย
10/2/1986
Radamel Falcao
ยืมจาก โมนาโก
10
เวย์น รูนี่ย์
ศูนย์หน้า
อังกฤษ
24/10/1985
Wayne Rooney
11
แอดนาน จานูซาจ
มิดฟิลด์
เบลเยี่ยม
5/2/1995
Adnan Januzaj
12
คริส สมอลลิ่ง
กองหลัง
อังกฤษ
22/11/1989
Chris Smalling
13
อันเดอร์ส ลินเดการ์ด
ผู้รักษาประตู
เดนมาร์ค
13/4/1984
Anders Lindegaard
14
ฮาเวียร์ เอร์นานเดช
ศูนย์หน้า
เม็กซิโก
1/6/1988
Javier ‘Chicharito’ Hernandez
ให้ เรอัล มาดริด ยืม
15
–
16
ไมเคิ่ล คาร์ริค
มิดฟิลด์
อังกฤษ
28/7/1981
Michael Carrick
17
ดาลีย์ บลินด์
กองหลัง
ฮอลแลนด์
9/3/1990
Daley Blind
18
แอชลี่ย์ ยัง
มิดฟิลด์
อังกฤษ
9/7/1985
Ashley Young
19
–
20
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ศูนย์หน้า
ฮอลแลนด์
6/8/1983
Robin van Persie
21
อันเดอร์ เออร์เรรา
มิดฟิลด์
สเปน
14/8/1989
Ander Herrera
22
นิค พาวเวลล์
มิดฟิลด์
อังกฤษ
23/3/1994
Nick Powell
ให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ยืม
23
ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์
มิดฟิลด์
อังกฤษ
12/8/1989
Tom Cleverley
24
ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์
มิดฟิลด์
สก็อตแลนด์
1/2/1984
Darren Fletcher
25
อันโตนิโอ วาเลนเซีย
มิดฟิลด์
เอกวาดอร์
4/8/1985
Antonio Valencia
26
–
27
–
28
อันแดร์สัน
มิดฟิลด์
บราซิล
13/4/1988
Anderson
29
วิลเฟร็ด ซาฮา
มิดฟิลด์
อังกฤษ
10/11/1992
Wilfried Zaha
ให้ คริสตัล พาเลซ ยืม
30
กีเญร์โม่ วาเรล่า
กองหลัง
อุรุกวัย
24/3/1993
Guillermo Varela
31
มารูยาน เฟลไลนี่
มิดฟิลด์
เบลเยี่ยม
22/11/1987
Marouane Fellaini
32
บิคตอร์ บัลเดส
ผู้รักษาประตู
สเปน
14/01/1982
Victor Valdés Arribas
33
–
34
ทอม ลอว์เรนซ์
ศูนย์หน้า
เวลล์
13/1/1994
Tom Lawrence
35
เจสซี่ ลินการ์ด
มิดฟิลด์
อังกฤษ
15/12/1992
Jesse Lingard
36
มาร์นิค เวอร์มิลจ์
กองหลัง
เบลเยี่ยม
13/1/1992
Marnick Vermijl
37
–
38
ไมเคิล คีน
กองหลัง
ไอร์แลนด์
11/1/1993
Michael Keane
ให้ เบิร์นลี่ย์ ยืม
39
ทอม ธอร์ป
กองหลัง
อังกฤษ
13/1/1993
Tom Thorpe
40
เบน อามอส
ผู้รักษาประตู
อังกฤษ
10/4/1990
Ben Amos
41
รีซ เจมส์
กองหลัง
อังกฤษ
7/11/1993
Reece James
42
ไทเลอร์ แบล็คเก็ตต์
กองหลัง
อังกฤษ
2/4/1994
Tyler Blackett
45
ดาวิเด เปตรุซซี่
มิดฟิลด์
อิตาลี
5/10/1991
Davide Petrucci
46
โจ รอธเวลล์
มิดฟิลด์
อังกฤษ
11/1/1995
Joe Rothwell
48
วิลเลี่ยม คีน
ศูนย์หน้า
อังกฤษ
11/1/1993
William Keane
49
เจมส์ วิลสัน
ศูนย์หน้า
อังกฤษ
1/12/1995
James Wilson
50
แซม จอห์นสโตน
ผู้รักษาประตู
อังกฤษ
25/3/1993
Sam Johnstone
–
อังเกโล่ เอ็นริเกซ
ศูนย์หน้า
ชิลี
13/4/1994
Angelo Henriquez
–
นานี่
มิดฟิลด์
โปรตุเกส
17/11/1986
Nani
ให้ สปอร์ติ้ง ยืม
–
ชินจิ คากาวะ
มิดฟิลด์
ญี่ปุ่น
17/3/1989
Shinji Kagawa
ย้ายไป ดอร์ทมุนด์
–
แดนนี่ เวลเบ็ค
ศูนย์หน้า
อังกฤษ
26/11/1990
Danny Welbeck
ย้ายไป อาร์เซน่อล
–
เฟเดริโก้ มาเคด้า
ศูนย์หน้า
อิตาลี
22/8/1991
Federico Macheda
ย้ายไป คาร์ดิฟฟ์
อ้างอิง hypertext transfer protocol : //www.cheerfulball.com/4236/manchester-united/
ประวัตินักฟุตบอลใน ดวงใจของผม
Roy Keane รอย คีน
เบอร์16
วันเกิด 10 สิงหาคม 1971 อายุ 43 ปี
สถานที่เกิด คอร์ก, ไอร์แลนด์
น้ำหนัก 76 ส่วนสูง 180
รอย คีน เริ่มเข้าสู่วงการฟุตบอลกับ คอบห์ รัมเบลอร์ส ต่อมา ไบรอัน เคลาจ์ ได้ติดต่อ และพาเขาย้ายไปเล่นให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในขณะที่เขาอายุได้ 18 ปี โดยการลงสนามนัดแรกของเขาเป็นบทพิสูจน์ตัวเขาเองอย่างแท้จริง เมื่อทีมต้องไปเยือนลิเวอร์พูล ทีมซึ่งได้แชมป์ลีกในปีนั้น และเขาก็จบฤดูกาลแรกที่เขาเล่นให้กับทีมแบบเต็มที่ กับการลงเล่นในเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก ในปี 1991 เมื่อเขาอายุได้ 20 ปี
จากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นของเขา ก็ไม่สามารถหลุดรอดผ่านสายตาของผู้จัดการทีมชาติไปได้ โดย แจ็ค ชาร์ลตัน ผู้จัดการทีมสาธารณรัฐไอร์แลนด์ในขณะนั้น เรียกเขาติดทีมชาติในเดือน พฤษภาคม ปี 1991
ในฤดูกาลหลังจากนั้นน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมของเขาก็พ่ายให้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 ในลีก คัพ รอบชิงชนะเลิศ อีกทั้งทีมต้องตกชั้นในฤดูกาลถัดมา ทำให้ในช่วงปิดฤดูกาลการแย่งชิงตัวเขาจึงเกิดขึ้น และผู้ที่สามารถเซ็นสัญญาได้ตัวเขาไปร่วมทีมก็คือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับค่าตัว 3.75 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดของสโมสร และของทีมในเกาะอังกฤษเวลานั้น
ในระหว่างที่เขาเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งทักษะ การขับเคลื่อน การตัดสินใจ และความมุ่งมั่นในเกมทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ไม่มีใครสามารถแทนที่ได้ ทำให้หลายคนต่างเปรียบเขากับอดีตนักเตะตำนานของทีม ไบรอัน ร็อบสัน เลยทีเดียว
ปัจจุบันเขามีตำแหน่งเป็นถึงกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งรับช่วงต่อจาก เอริค คันโตน่า หลังจบฤดูกาล 1996-1997 เมื่อก็องโต้ ประกาศแขวนสตั๊ด แต่ก่อนเริ่มฤดูกาลแรกของการเป็นกัปตันทีมเพียงไม่กี่วัน เขากลับต้องพบกับอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ทำให้ต้องพักเป็นระยะเวลานานทีเดียว
มีผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายคนให้ข้อสังเกตว่า ฤดูกาลใดก็ตามที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะดุด หรือโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังนั้น มักสืบเนื่องมาจากการขาด รอย คีน และจากการบาดเจ็บของเขาในเดือนกันยายน ปี 1997 ทำให้ทีมปีศาจแดงต้องพลาดแชมป์ในปีนั้น และทีมชาติของเขาเองก็ตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกในปี 1998 ด้วย
ในฤดูกาล 1998-1999 คีนกลับมาลงเล่นด้วยความฟิตเหมือนเดิม และเขาสามารถช่วยทีมได้มากทีเดียว จนกระทั่งในรอบรองชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เขาต้องถูกใบแดงไล่ออกจากสนามตามด้วยการถูกใบเหลืองในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศที่พบกับยูเวนตุส ทำให้เขาไม่ได้ร่วมทีมในนัดแห่งความทรงจำที่บาร์เซโลน่า อย่างไรก็ดี เขาสามารถกลับมาลงเล่นให้กับทีมได้ในนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่พบกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ และขึ้นรับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ชิพในที่สุด
การเจรจาเซ็นสัญญากับเขาในฤดูกาล 1999-2000 ก็เริ่มขึ้นด้วยการประโคมข่าวต่างๆ นานาของสื่อ ทั้งข่าวที่ว่ากัปตันทีมผู้นี้ปฏิเสธข้อเสนอของสโมสรจนกระทั่งก่อนเริ่มเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กับบาเลนเซีย ก็มีการประกาศออกมาว่าเขาเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะเล่นให้กับทีมเหมือนไม่มีอะไรหนักอกหนักใจอีกแล้ว
คีนสามารถทำประตูให้กับทีมได้ถึง 12 ประตูในฤดูกาลนั้น ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นประตูที่ได้ในฟุตบอลถ้วยยุโรป และด้วยเหตุนี้เองทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็น “ นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ” โดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หลังจากนั้นเขาก็ยังพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งที่ 7 ของสโมสรในฤดูกาล 2000-2001
ทางด้านการลงเล่นให้ทีมชาติ เขาก็ลงเล่นนัดที่ 50 ให้กับทีมชาติ ด้วยชัยชนะเหนือ ไซปรัส 4 – 0 จากฟอร์มการเล่นของเขาช่วยพาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2002 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ โดยอยู่ในกลุ่มเดียวกับโปรตุเกส และฮอลแลนด์ แต่เขาได้มีปัญหากับผู้จัดการทีมชาติ มิค แม็คคาธี่ย์ ทำให้ต้องถูกส่งตัวกลับประเทศและไม่สามารถลงเล่นช่วยทีมชาติได้ในขณะนั้น สื่อต่างก็ประโคมข่าวกันมากมายว่าเกิดอะไรขึ้น และทำนายกันว่าจะเกิดอะไรตามมา โดยหลังจากนั้นไม่กี่เดือนคีนก็ออกมาประกาศเลิกเล่นให้กับทีมชาติไอร์แลนด์ ในที่สุด
เขาโชคไม่ค่อยดีนักเมื่อต้องเข้ารับการผ่าตัดบริเวณสะโพก และต้องพักไปอีกหลายเดือนในช่วงต้นฤดูกาล และเมื่อเขากลับมา ก็ดูเหมือนว่าเขาจะสงบ และใจเย็นขึ้นในการลงสนาม และแม้ว่าจะมีคำถามมากมายจากแฟนบอล และสื่อมวลชนว่าเขาจะอยู่กับทีมอีกนานแค่ไหน และจะย้ายออกไปเมื่อไหร่ แต่คีนเองก็ตอบคำถามนี้ด้วยตนเองว่า “ ผมยังคงมีงานต้องทำที่นี่อีกอย่างน้อย 2 – 3 ปีนี่แหละ ” ซึ่งนั่นก็คงสร้างความมั่นใจให้กับแฟนปีศาจแดงได้ไม่น้อย
อ้างอิง hypertext transfer protocol : //www.redarmyfc.com/player.php ? player_id=65
เพลงประจำ สโมสร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
Glory glory Man united,
Glory glory Man united,
Glory glory Man united,
As the reds go marching on on on !
just like the bearskin days and days gone by,
We ’ ll keep the crimson flags flying high,
You ’ re gon na see us all from far and wide,
You ’ ra gon na hear the Mans that sing with pride .
United, Man united,
We ’ re the boys in red and we ’ re on our way to Wembley !
Wembley, Wembley,
We ’ re the celebrated Man joined and we ’ rhenium going to Wembley,
Wembley, Wembley,
We ’ re the celebrated Man unite and we ’ re going to Wembley
In ’ 77 it was Docherty,
Atkinson will make it ’ 83,
And everyone will know barely who we are,
They ’ ll be singing que serum serum
United, Man united,
We ’ re the boys in red and we ’ re on our way to Wembley !
Wembley, Wembley,
We ’ re the celebrated Man unite and we ’ re going to Wembley,
Wembley, Wembley,
We ’ re the celebrated Man united and we ’ rhenium going to Wembley
Glory glory Man united,
Glory glory Man united,
Glory glory Man united,
As the reds go marching on on on !
Glory aura Man united,
Glory aura Man united,
Glory glory Man united,
As the reds go marching on on on !
Glory glory Man united,
Glory glory Man united,
Glory glory Man united,
As the reds go marching on on on !
อ้างอิง hypertext transfer protocol : //www.glory-manutd.com/
เกียรติยศ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
แชมป์พรีเมียร์ ลีก 13 สมัย
1992-93, 1993-94, 1995-96, 1996-97, 1998-99, 1999-00, 2000-01, 2002-03, 2006-07, 2007-2008, 2008-2009, 2010-2011, 2012-2013
แชมป์ ดิวิชั่น 2 ( เดิม ) 2 สมัย
1935-36, 1974-75
เอฟเอ คัพ 11 สมัย
1909, 1948, 1963, 1977, 1983, 1985, 1990, 1994, 1996, 1999 ,2004
ลีกคัพ 4 สมัย
1992, 2006, 2009, 2010
แชริตี้ ชิลด์ 20 ครั้ง ( แชมป์ร่วม 4ครั้ง )
1908, 1911, 1952, 1956, 1957, 1965, 1967, 1977, 1983 ,
1990*, 1993, 1994, 1996, 1997, 2003 ,2007, 2008, 2010, 2011, 2013
ฟุตบอลยุโรป
ยูโรเปี้ยน คัพ /ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย
1968, 1999, 2008
คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย
1991
ยูโรเปี้ยน ชุปเปอร์ คัพ 1 สมัย
1991
ระดับนานาชาติ
อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ /แชมป์ สโมสรโลก 1 สมัย
* 1999
อ้างอิง hypertext transfer protocol : //www.glory-manutd.com/
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของแฟนแมนยูไนเต็ด
หลายๆ คนที่เป็นแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจะคุ้นปากเรียกทีมรักของเราว่า แมนยู กันอยู่แล้วใช่มั้ยครับผม แต่จริงๆ แล้วเราควรเรียกทีมรักของเราว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ ยูไนเต็ด ครับ เพราะเหตุใดเรามาดูกัน
แมนยู ไม่ใช่คำที่แฟนบอล ยูไนเต็ด ใช้เรียกตัวเอง แต่มาจากพวกกองเชียร์ทีมอื่น ๆ หรือ พวกทีมคู่อริ
เริ่มมาจากแฟนเวสบรอมฯ ร้องเพลงล้อเลียน “ ดันแคน เอ็ดเวิร์ด ” ตำนานของทีมเรานะครับ
“ ดันแคน เอ็ดเวิร์ด มันกลายเป็นปุ๋ย เน่าเปื่อยอยู่ในหลุมศพของพวกคุณ ( โอลแทรฟเฟริ์ด ) ”
ก็คือจริงๆแล้วเพลงนี้ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อล้อเลียน เอ็ดเวิร์ด ManU = Manure ( แปลว่า ปุ๋ยคอกน่ะครับ )
“ และแฟนบอลลิเวอร์พูลกับลีดส์ก็เอา คำนี้มาเรียกนักบอลของเราที่เสียชีวิตที่มิวนิค ”
“ แมนยู แมนยู ไปกับเครื่องบิน และแมนยู มันก็ไม่กลับมาอีกเลย ”
“ ManU Never Intended Coming Home ” ถ้าเราเอาคำตัวหน้าแต่ละคำมาผูกกันจะกลายเป็นแบบนี้ครับ
“ ManU Never Intended Coming Home ”
= MUNICH คือเมืองที่นักเตะแมนฯยูฯ ไปเสียชีวิตด้วยเหตุเครื่องบินตกน่ะครับ
อ้างอิง www.redarmyfc.com
ทำไมผมถึงชอบนี้
ผมรู้จักกับที่นี้ หรือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาตั้งแต่ ผมเริ่มจำความได้โดย ผมรู้จักที่นี้จากคุณพ่อของผมครับ นักเตะที่ผมรู้จักคนแรก คือ รอยคีน ผมชอบทักษะการเล่น และการตัดสินใจของเขามาก ครับ เขาคือนักเตะคนเดียวที่เป็นไอดอลของผม เขาเป็นคนที่ทำไห้ผมชอบ หรือ รักฟุตบอล และรักทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาก
Share this:
Like this:
Like
Read more: Erick Pulgar
Loading…