เจนนิเฟอร์เกิดในครอบครัว ชาวปวยร์โตรีโก เธอมีน้องสาวชื่อ ลินดา โลเปซ ( Lynda Lopez ) ปัจจุบันมีอาชีพเป็น นักข่าว เจนนิเฟอร์ได้เรียนร้องเพลงและเต้นรำตั้งแต่เธออายุเพียง 5 ปี ได้ตระเวนร่ำเรียนการเต้นไปทั่ว นครนิวยอร์ก จนเมื่อเธออายุ 16 ปี เจนนิเฟอร์ได้หยุดการเรียนเต้นช่วงสั้น ๆ เพื่อไปแสดงภาพยนตร์เรื่อง “ My fiddling Girl ” เธอได้ทำงานพาร์ทไทม์ ในสำนักงานกฎหมายแห่งหนี่ง ระหว่างนั้น เธอยังคงเรียนเต้นรำ และหารายได้ในการทำงานในผับตอนกลางคืน เธอเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเต้นใน รายการโทรทัศน์ “ In Living Color ” หลังจากนั้นเธอก็ได้ปรากฏตัวใน มิวสิกวิดีโอ เพลง “ That ‘s the Way Love Goes ” ของศิลปินสาวชื่อดัง เจเน็ต แจ็กสัน เธอได้ก้าวสู่บทบาทการแสดงครั้งแรก โดยได้เป็นนักแสดงบนจอโทรทัศน์ครั้งแรก ในซีรีส์เรื่อง “ South Central ” และต่อมาเธอได้ปรากฏตัวอีกครั้งบนจอแก้วในบทบาทของเมลินดา โลเปซ ( Melinda Lopez ) ในซีรีส์เรื่อง “ second Chances ” ในปี พ.ศ. 2536 ต่อมาก็แสดงในเรื่อง “ Hotel Malibu ” ในปี พ.ศ. 2538 เจนนิเฟอร์ได้ทะยานสู่จอเงินในบทบาทดารานำเป็นครั้งแรก ในเรื่อง “ Money Train ” ต่อมาเธอได้รับบทเป็น เซเลนา ใน ภาพยนตร์ชีวประวัติ ของดาราดัง “ เซเลนา ควินตานิลลา เปเรซ ” ( Selena Quintanilla Perez ) ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เจนนิเฟอร์กลายเป็นนักแสดงเชื้อสายลาตินอเมริกาที่มีค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์
Reading: เจนนิเฟอร์ โลเปซ
ในปี พ.ศ. 2542 เจนนิเฟอร์ ได้เซ็นสัญญากับโซนี มิวสิก ( Sony Music ) ในการทำอัลบั้มแรกที่ชื่อว่า “ On The 6 ” ซิงเกิ้ลแรก “ If You Had My Love ” ได้พุ่งขึ้นสู่อันดับหนึ่งใน บิลบอร์ด ชาร์ต และได้เป็นอัลบั้มทองคำขาว ซึ่งมียอดขายหนึ่งล้านแผ่น และมีเพลง Top10 อย่าง “ Waiting for Tonight ” อัลบั้มถัดมานี้มีชื่ออย่างเหมาะสมว่า “ เจโล ” ( J. Lo ) ซึ่งออกมาในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2544 เพลง “ Love Do n’t Cost A thing ” ซิงเกิ้ลแรกในอัลบั้มที่สองของเธอ ได้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งใน สหราชอาณาจักร ส่วนตัวอัลบั้มอันดับ 1 ใน สหรัฐอเมริกา ในสัปดาห์แรกที่วางขาย ตามด้วยซิงเกิ้ล “ Play ” ส่วน 2 ซิงเกิ้ลถัดมา “ I ‘m very ” และ “ Ai n’t It Funny ” ได้ถูกรีมิกซ์ใหม่ โดย Murder Inc. ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาทั้ง 2 เพลง หลังจากนั้นไม่นานเธอได้ออกอัลบั้มรวมเพลงรีมิกซ์ที่ชื่อว่า “ เจ ทู ธา แอล-โอ ! ” ( J to tha L-O ! ) ได้ออกมาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ทบิลบอร์ดอัลบั้ม ถือเป็นอัลบั้มรีมิกซ์อัลบั้มแรกที่ขึ้นอันดับ 1 ได้
Read more: France national football team
อัลบั้มที่ 3 “ This Is Me … then ” ซึ่งออกซิงเกิ้ลฮิตที่ชื่อว่า “ Jenny From the Block ” ไต่ชาร์ทสูงสุดที่อันดับ 3 เจนนิเฟอร์ได้มีความรักอย่างลึกซึ้งกับนักแสดงและผู้เขียนบทภาพยนตร์ รางวัลออสการ์ เบน แอฟเฟล็ก โดยได้ปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ด้วย ซิงเกิ้ลต่อมา “ All I Have ” ร่วมงานกับ LL Cool J ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาเป็นซิงเกิ้ลที่ 4 ของเธอ ทางด้านการแสดงเธอได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง “ จีลี่ ” ( Gigli ) กับเบน แอฟเฟล็กในปี พ.ศ. 2546 ทั้งสองได้หมั้นหมายกันในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 แต่การหมั้นหมายครั้งนี้ได้ถูกยกเลิกในเดือนมกราคม พ.ศ. 2547 ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2547 เจนนิเฟอร์ได้เข้าพิธีแต่งงานอย่างสายฟ้าแลบกับ มาร์ก แอนโทนี และเริ่มงานของเธอใหม่อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จึงเกิดผลงานในอัลบั้มที่สี่ที่ชื่อว่า “ Rebirth ” ซิงเกิ้ลเปิดตัวของอัลบั้มนี้มีชื่อว่า “ Get Right ” ตามมาด้วยผลงานด้านภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น เรื่อง “ Jersey Girl ” ใน พ.ศ. 2546 และเรื่อง “ Shall we Dance ? ” ใน พ.ศ. 2547 ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เจนนิเฟอร์ และ ไมเคิล วาร์แทน ได้อยู่ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์แนวโรแมนติค คอมมิวดี เรื่อง “ Monster-In-Law ” ใน ลอสแอนเจลิส ทางด้านผลงานเพลงเธอได้ร่วมงานกับ LL Cool J ในเพลง “ Control Myself ” ขึ้นอันดับ 4 ในอเมริกา และ อันดับ 2 ในอังกฤษ นอกจากนั้นเธอยังได้ออกผลิตภัณฑ์น้ำหอม “ Glow ”, “ Stll ” และ “ Miami Glow ” และเธอยังออกเสื้อผ้าในชื่อ “ Sweetface ”
Read more: Swansea City A.F.C.
ในปี พ.ศ. 2550 เธอได้ออกอัลบั้ม ภาษาสเปน เป็นครั้งแรกกับอัลบั้ม “ Como Ama una Mujer ” ที่สามารถขึ้นชาร์ท Billboard Latin Album Chart ที่อันดับ 1 และในปีเดียวกันเธอออกสตูดิโออัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มที่ 6 ที่ชื่อว่า “ Brave ” ในอัลบั้มนี้เจนนิเฟอร์ยังได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์ฝีมือดีอย่าง J.R. Rotem, Ryan Tedder, Middi Mafia และ Bloodshy อีกด้วย โดยมีเพลง Do It Well เป็นซิงเกิ้ลแรก [ 2 ] ในปี พ.ศ. 2553 เธอมีผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุด ชื่อว่า “ The Back-Up plan ” ซึ่งรับบทเป็น “ โซอิ ” ต่อมาเธอได้ออก ซิงเกิ้ลชื่อว่า “ Louboutins ” ซึ่งเธอเปิดตัวเพลงนี้ที่งานประกาศรางวัล american Music Awards 2010 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับดีมากในโชว์ครั้งนี้ แต่เรื่องที่แฟนเพลงต้องสับสนก็คือ เธอได้หมดสัญญากับค่าย Sony Music และไม่มีการต่อสัญญา โดยได้กล่าวว่า “ Jennifer had a fantastic relationship with the Sony Music Group, and they have shared many successes together, but the fourth dimension was mighty to make a change that best serves the commission of her career as an actress and recording artist, she is grateful and appreciative to everyone at Sony for all that they accomplished together ” และหลังจากนั้นเธอได้ย้ายมาอยู่กับค่าย Island Def Jam Records แต่อัลบั้มใหม่ของเธอที่ชื่อว่า “ Love ? ” ก็ยังไม่ได้ยุบโครงการไป ซึ่งเธอได้บอกว่าจะมีอัลบั้มนี้แน่นอนและจะมีเพลงเพิ่มขึ้นกับบ้านหลังใหม่อีกด้วย โดยมีซิงเกิ้ลแรกคือ On The Floor ที่กลายเป็นลายเซ็นของเธอในเวลาอต่อมาที่เป็นเแนวเพลง Hip-Hop Pop ทำให้เจนกลับมาให้ฐานะศิลปินที่ได้รับความนิยมอย่างมากอีกครั้ง และตามมาด้วยซิงเกิ้ลที่ I ‘m into you และ Papi
- มาร์ก แอนโทนี (Marc Anthony) นักร้องและนักแสดง 5 มิ.ย. 2547 – 20 ก.ค. 2554
- คริส ฌูดด์ (Cris Judd) นักเต้นและนักออกแบบท่าเต้น 29 ก.ย. 2544 – 26 ม.ค. 2546
- โอฮานี โนอา (Ojani Noa) นายแบบ 22 ก.พ. 2540 – 1 ม.ค. 2541
ผลงานอัลบั้มชุด Como Ama una Mujer
- On the 6 (2542)
- J. Lo (2544)
- J to tha L-O!: The Remixes (2545)
- This Is Me… Then (2545)
- Rebirth (2548)
- Como Ama una Mujer (2550)
- Brave (2550)
- Love? (2554)
- A.K.A. (2557)
- My Little Girl (2529)
- Nurses on the Line: The Crash of Flight 7 (2536)
- My Family/Mi Familia (2538)
- Money Train (2538)
- Jack (2539)
- Blood and Wine (2540)
- Selena (2540)
- Anaconda (2540)
- U Turn (2540)
- Out of Sight (2541)
- Antz (2541)
- The Cell (2543)
- The Wedding Planner (2544)
- Angel Eyes (2544)
- Enough (2545)
- Maid in Manhattan (2545)
- Gigli (2546)
- Jersey Girl (2547)
- Shall We Dance? (2547)
- Monster-in-Law (2548)
- An Unfinished Life (2548)
- Bordertown (2550)
- El Cantante (2550)
- The Governess (2553)
- The Back-Up Plan (2553)
- Dead Serious (2553)
- Parker (2546)
- The boy next door (2548)
- Second Act (2561)