เที่ยวเอง..ประเทศรองสุดท้ายในยุโรป “MOLDOVA” เปิดดินแดนที่น้อยคนนักจะเคยเห็น

ตามเก็บประเทศยุโรปให้ครบที่ “มอลโดวา”
เป้าหมายหนึ่งในชีวิตของเราคือต้องไปเที่ยวทุกประเทศในทวีปยุโรปให้ได้ เพราะฉะนั้น Moldova จึงไม่หลุดออกจาก bucket tilt ของเรา แม้ว่าประเทศขนาดเล็กนี้จะแทบไม่มีอะไรน่าสนใจเลยก็ตาม
มาทำความรู้จักประเทศ Moldova คร่าวๆ กันก่อน

Reading: เที่ยวเอง..ประเทศรองสุดท้ายในยุโรป “MOLDOVA” เปิดดินแดนที่น้อยคนนักจะเคยเห็น

มอลโดวาตั้งอยู่ทางตะวันออกของยุโรประหว่างประเทศโรมาเนียกับยูเครน ไม่มีทางออกทะเล เมืองหลวงคือกรุง Chișinău ( คิชิเนา ) หรือ Kishinev ( Кишинёв ) ในภาษารัสเซีย
photo credit: www.scmp.com

ในปีค.ศ. 1991 มอลโดวาได้แยกตัวเป็นเอกราชจากสหภาพโซเวียต ( รัสเซียในปัจจุบัน ) ซึ่งกำลังจะล่มสลาย
ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษามอลโดวาเองและภาษาโรมาเนียมากกว่าภาษารัสเซีย คำศัพท์รวมๆ แล้วคล้ายภาษาโรมาเนียมาก เราเคยศึกษาเรื่องเที่ยวโรมาเนียไว้เยอะพอสมควรจึงไม่มีปัญหาในการค้นหาและทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับมอลโดวาครับ
สกุลเงิน
มอลโดวาใช้เงิน leu moldovenesc ( Moldovan leu )
อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ 1 EUR = 19 MDL, 1 MDL = 1.70 บาท
วีซ่า
ล่าสุดผู้ที่มีวีซ่าเชงเก้นแบบ Multiple Entries ( เดินทางเข้า-ออกประเทศในกลุ่มเชงเก้นได้หลายครั้ง ) ที่ยังไม่หมดอายุ สามารถใช้เดินทางเข้าประเทศมอลโดวาได้แล้ว
แต่ตอนเราไปยังไม่มีประกาศอัพเดทในเว็บไซต์ทางการ เราจึงขอวีซ่าออนไลน์ไป จ่ายค่าวีซ่าท่องเที่ยว ( Type “ C ” Visa – brusque term visa ) 792.08 MDL ( 40 EUR ) หรือ 1,435 บาท
ไม่กี่วันต่อมา เจ้าหน้าที่ตอบอีเมลกลับมายืนยันว่าเราไม่ต้องขอวีซ่าเพราะมีวีซ่าเชงเก้น Multiple Entries อยู่แล้ว อ่าว ! เสียตังค์ฟรีเฉย 55
ถ้าไม่มีวีซ่าเชงเก้น Multiple Entries ต้องขอ e-Visa ก่อนเดินทางเข้ามอลโดวา
อ่านข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่ามอลโดวาได้ที่ www.mfa.gov.md
ขอวีซ่าได้ที่ Moldova e-Visa
ดาวน์โหลด Visa Application Form Tourism ( C/T ) ที่ www.mfa.gov.md/visa-application-form
หลักฐานทั่วไปคล้ายกับการขอวีซ่าเชงเก้น เช่น โรงแรมที่พัก ลองเช็ครายละเอียดจาก link ที่ให้ไว้ข้างบนนะครับ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือหลักฐานแสดงวิธีการเดินทางเข้าและออกประเทศ เช่น ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถบัส และ Letter of Invitation ( LOI ) หรือจดหมายเชิญจากองค์กร/หน่วยงาน/บุคคลของมอลโดวา หลักฐานนี้ถ้าไม่ได้ไปกับบริษัททัวร์หรือซื้อทัวร์ท้องถิ่นไปอาจจะหาไม่ได้ ดังนั้นควรไปมอลโดวาโดยใช้วีซ่าเชงเก้น Multiple Entries จะง่ายกว่าครับ
วีซ่าเชงเก้นมีค่าเท่ากับ LOI ประมาณนั้น
เข้าเรื่องเที่ยว
เราเดินทางเข้าประเทศมอลโดวาโดยสายการบิน Air Moldova จากสนามบิน Moscow Domodedovo ประเทศรัสเซีย
เดินทางถึง Aeroportul Internațional Chișinău ( Аэропорт ) หรือ Chișinău International Airport ( KIV ) ในเวลา 11.50 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง
ตอนผ่านตม. เราเอาอีเมลที่เจ้าหน้าที่แจ้งมาว่ามีวีซ่าเชงเก้น multiple Entries ให้ดู ตม. ยังไม่รู้เลยว่าอนุญาตให้เข้าประเทศได้แล้ว เลยให้เรารอตรวจเป็นสองคนสุดท้าย สรุปหัวหน้าเค้ามาบอกว่าใช้ได้แล้ว รอดไปได้แบบเสียวนิดๆ 55
แลกเงินในสนามบินไปเลยคนละ 130 ยูโร ได้เงินมาเกือบ 2,500 MDL
สนามบินนานาชาติคิชิเนาตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ห่างจากศูนย์กลางเมืองราว 13 กิโลเมตร
เดินออกไปหน้าอาคารก็เห็นป้ายรถเมล์ นั่งรถเมล์ Trolleybus สาย 30 เข้าเมืองไปที่ถนน Bulevardul Ștefan cel Mare și Sfînt ตั๋วรถเมล์ราคา 2 MDL ( ประมาณ 3.50 บาท ) รถเมล์มีบ่อย ดูเวลาได้ที่ป้ายเลย ถ้านั่งแท็กซี่ ค่ารถ 100-120 MDL
อ่านวิธีการเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองได้ที่ www.airport.md
เราจองอพาร์ทเมนต์ชื่อ Living MD Heart of the center อยู่ที่ถนน Strada Armenească ที่แยกจากถนน Bulevardul Ștefan cel Mare și Sfînt ใกล้ Biroul Migrație și Azil ( Bureau of Migration and Asylum ) จึงต้องลงรถเมล์เมื่อผ่านอาคาร Procuratura Generală ( General Prosecutor ’ s Office ) ทางซ้ายมือ เลือกพักแถวนี้เพราะจะได้เดินไปสถานีรถบัสไม่ไกลและนั่งรถเมล์ไปสนามบินง่าย
ลงรถแล้วเดินย้อนไปที่สี่แยกเลี้ยวซ้ายเข้าไปในแหล่งค้าขายอันจอแจ แถวนี้มีร้านแลกเงินเพียบ เรทดีกว่าที่สนามบินพอสมควร ทางเข้าอพาร์ทเมนต์อยู่ในเวิ้งหลังห้องแถวในตลาด
ให้คนแถวนั้นช่วยโทรหาเจ้าของให้เอากุญแจมาให้ ยืนรอสักพักก็มา แต่เค้าบอกว่าตอนนี้น้ำรั่วอยู่ ย้ายไปอีกที่นึงได้มั้ย ? ไม่ไกล ทำเลดีเหมือนกัน เดี๋ยวขับรถพาไป เราก็ต้องโอเคแหละ
สรุปย้ายที่ใหม่ไปพักใกล้ถนนคนเดิน Strada Eugen Doga ด้านหลัง Catedrala Mitropolitană Nașterea Domnului ( Cathedral of Christ ’ s Nativity ) ใน Parcul Catedralei ( Cathedral Park ) ห่างจากถนนหลักของเมืองชื่อ Bulevardul Ștefan cel Mare și Sfînt ไม่ถึง 500 เมตร และไกลจากสถานีรถบัสกลางราว 1.2 กม .
ทางเข้าค่อนข้างโทรม ดูน่าจะอันตรายตอนกลางคืน แต่สภาพห้องโอเคเลย จ่ายค่าห้องพัก 3 คืน ราคา 2,142 MDL ( 105 ยูโร ) เป็นเงินสด
ช่วงบ่ายจะไป Mile ş tii Mici Winery ซึ่งต้องนั่งแท็กซี่ประมาณ 14 กม. ค่ารถ 120-150 MDL
เราจองทัวร์รอบ 15.00 น. ไว้และจะไปจ่ายด้วยบัตรเครดิตตอนไปถึง แต่เสียเวลาบนรถเมล์นานไปหน่อยและดันต้องย้ายที่พัก เจอรถติดในเมืองอีก เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะบ่ายสามแล้ว ข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้กิน กว่าจะนั่งแท็กซี่ไปถึงก็ไม่ทันเวลารอบทัวร์พอดี เลยต้องตัดออกจากโปรแกรม แล้วเปลี่ยนมาเป็นเดินเล่นในเมืองแทน
Mileştii Mici Winery คือโรงไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเขตหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ Mileştii Mici ทางตะวันตกเฉียงใต้ชานกรุง Chişinău
โรงกลั่นเหล้าองุ่นท้องถิ่นที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐแห่งนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ปีค.ศ. 1969 ในขณะที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต เพื่อเป็นแหล่งผลิต บ่ม และเก็บไวน์คุณภาพชั้นยอดเนื่องจากมีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการผลิตและเก็บไวน์
ห้องใต้ดินที่สร้างเพื่อเก็บไวน์อยู่ลึกลงไปใต้ดิน 40-85 เมตร มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 12-14°C มีความชื้นในระดับที่เหมาะสมคือ 85-95 %
ไวน์ที่เก็บในนี้ส่วนใหญ่เป็นไวน์แดงคุณภาพเยี่ยมที่เก็บมาหลายศตวรรษก่อนนำออกขายไปทั่วโลก ในปีค.ศ. 2005 ห้องใต้ดินได้รับการบันทึกโดย Guinness World Records ให้เป็นโรงเก็บไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความยาวถึง 200 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันใช้งานอยู่ 55 กิโลเมตร กินเนื้อที่ 182,000 ตารางเมตร ในส่วนของ Golden Collection มีไวน์เก็บอยู่กว่า 1.5 ล้านขวดเลยทีเดียว
โรงไวน์เปิดวันจันทร์-เสาร์ 08.00-17.00 น. รอบทัวร์มี 5 รอบต่อวัน 10.00, 11.00, 13.00, 15.00, 17.00 น. ค่าไกด์ทัวร์ วันธรรมดา 200 MDL, วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุด 300 MDL ( แต่จริงๆ วันอาทิตย์ไม่มี ), Wine tasting ราคา 310 MDL
จองรอบเข้าชมได้ที่ www.milestii-mici.md
จองทัวร์ของบริษัทเอกชนได้ที่ winetours.md หรือ www.winerist.com
เดินเที่ยวในเมือง Chi ș in ă u แทน
Chi ș in ă u หรือ Kishinev ( Кишинёв ) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ คิชิเนาเป็นศูนย์กลางทุกด้านของประเทศที่กำลังพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
ออกจากที่พักไปก็เห็นยอดโดม Catedrala Mitropolitan ă Na ș terea Domnului ( Cathedral of Christ ’ s Nativity ) อยู่ใน Parcul Catedralei ( Cathedral Park )
photo credit: commons.wikimedia.org ยังไม่เดินเข้าไปในสวน แต่เลี้ยวขวาเดินดูถนนคนเดินชื่อ Strada Eugen Doga ก่อนแป๊บนึง แถวนี้มีร้านอาหารหลายร้าน รอดแล้วเย็นนี้ 55
เดินกลับไปเข้า Parcul Catedralei ( Cathedral Park ) ตรงไปยัง Catedrala Mitropolitană Nașterea Domnului ( Cathedral of Christ ’ s Nativity ) วิหารมอลโดวันออร์โธด็อกซ์หลักซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของเมือง
เดินอ้อมไปที่ด้านหน้าโบสถ์ซึ่งเป็นลานกว้างที่มี Clopotnița หรือหอระฆังตั้งเด่นอยู่
เดินออกจากสวนอีกทางไปที่ถนนใหญ่ชื่อ Bulevardul Ș tefan cel Mare ș i Sfînt
ริมถนนคือที่ตั้งของ Arcul de Triumf din Chișinău ( Triumphal Arch ) ประตูชัยคิชิเนาตั้งอยู่ที่ Piața Marii Adunări Naționale ( Great National Assembly Square ) หรืออดีต Victory Square ( Площадь Победы )
ฝั่งตรงข้ามถนนคือ Casa Guvernului din Chișinău ( Government House in Chisinau ) อาคารหน่วยงานราชการของประเทศ
ลอดประตูชัยเลี้ยวขวาเดินตามถนน Bulevardul Ștefan cel Mare și Sfînt แค่ 200 เมตรก็เห็น Monumentul lui Ştefan cel Mare ( Stephen the Great Monument ) อยู่หน้าทางเข้า Grădina Publică „Ştefan cel Mare şi Sfânt” ( Stephen the Great Central Park ) หรือ Parcul „Ştefan cel Mare ” ( Ştefan cel Mare Central Park ) สวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดของมอลโดวาที่มีชื่อเล่นว่า The Park of the Lovers
ตรงกลางสวนมีบ่อน้ำพุและรูปปั้นของ Alexander Pushkin เดี๋ยวเราค่อยเดินเข้าสวนทีหลัง
ตรงผ่านอนุสาวรีย์ของ Stephen the Great ต่อไปอีกหน่อยก็ถึง Teatrul Naţional de Operă şi Balet “Maria Bieșu” ( National Opera and Ballet Theatre )
เดินกลับไปที่อนุสาวรีย์ของ Stephen the Great เข้าไปใน Grădina Publică „Ştefan cel Mare şi Sfânt” ( Stephen the Great Central Park ) ที่ตรงกลางสวนมี Monumentul „Alexandr Pușkin” หรือรูปปั้นของ Alexander Pushkin ตั้งอยู่ ( เอารูปตอนเช้าอีกวันที่เดินมาเข้าสวนให้ชมแทนนะครับ )

ถ้าเดินออกจากสวนทางประตูที่มุมถนน Strada Mitropolit Gavriil Bănulescu-Bodoni แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Ave. 31 August 1989 ไม่ไกลก็จะถึง Muzeul Național de Istorie a Moldovei ( National Museum of History of Moldova ) ด้านหน้าอาคารมี Lupoaica Capitolină ( Capitoline Wolf ) รูปปั้นหมาป่าให้นมลูกเหมือนที่กรุงโรมของอิตาลีและกรุงบูคาเรสต์ของโรมาเนีย
วันนี้เหลือเวลาอีกชั่วโมงนึงก็น่าจะมืดแล้ว เราจึงเดินไปพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติมอลโดวาอีกวันนึงตอนเช้า ขอเอารูปมาให้ชมกันเลยและเขียนถึงอาคารที่อยู่ใกล้กันต่อเลยนะครับ
เยื้องกันคือ Biblioteca Naţională a Republicii Moldova ( National Library of the Republic of Moldova )
เลยไปนิดคือ Muzeul Național de Artă al Moldovei ( National Museum of Fine Arts )
เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกเดินตามถนน Strada Pușkin ก็กลับไปที่ประตูชัยอีกครั้ง
ถ้าตรงข้ามถนนใหญ่เดินผ่านสวนไปก็จะกลับที่พัก แต่เย็นนี้ยังเที่ยวไม่หมดครับ เลี้ยวขวาเดินตามถนนใหญ่ Bulevardul Ștefan cel Mare și Sfînt ( คนละทางกับประตูชัย ) ตรงไปหน่อยก็เห็นอาคารสีเหลืองอ่อนสวยงาม นั่นคือ Primăria Municipiului Chișinău ( Chişinău City Hall ) อาคารที่ว่าการเมืองคิชิเนาที่สร้างในสไตล์อิตาเลียนโกธิคเสร็จสมบูรณ์เมื่อปีค.ศ. 1901
เลยไปอีกนิดคือ Sala cu Org ă ( Organ Hall ) และ Vânzare de picturi ș i suvenire สวนเล็กๆ ที่มีแผงขายของที่ระลึกและของพื้นเมืองเจ๋งๆ เพียบ
วันกลับเราจะมาขึ้นรถเมล์จากป้ายนี้ไปสนามบิน
เดินผ่านป้ายรถเมล์ไปก็ถึง Teatrul Național “Mihai Eminescu” ( Mihai Eminescu National Drama Theater )
ตรงต่อตามถนน Bulevardul Ștefan cel Mare și Sfînt อีกแป๊บเดียวก็เห็นอาคาร Ministerul Afacerilor Interne ( Ministry of Internal Affairs )
ข้ามสี่แยกหน้าไปก็คืออาคาร Procuratura Generală ( General Prosecutor ’ s Office ) ที่ตอนขาเข้าเมืองผ่านมาแล้วก็ลงรถเมล์
เดินตรงต่อตาม Bulevardul Ștefan cel Mare și Sfînt อีกราว 900 เมตรก็ถึง Piața Națiunilor Unite ( United Nations Square ) ตรงนี้คือจุดเริ่มต้นของถนน Ștefan cel Mare și Sfînt
เลี้ยวขวาเดินตามถนน Strada Ciuflea ไปยังทางเข้า Mănăstirea Sfântul Mare Mucenic Teodor Tiron หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า Mănăstirea Ciuflea ( Ciuflea Monastery ) โบสถ์สถาปัตยกรรมแบบมอลโดวันออร์โธด็อกซ์อันสวยงามซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1858
ตอนนั่งรถเมล์จากสนามบินเข้าเมืองเห็นโบสถ์นี้แล้ว
ถ่ายรูปในบริเวณโบสถ์ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปภายในโบสถ์มาเพราะกำลังประกอบพิธีอะไรสักอย่างอยู่พอดี
ออกจากโบสถ์ รถเมล์สาย 30 มาพอดี ขี้เกียจเดินกลับแล้ว นั่งรถเมล์เข้ากลางเมืองดีกว่า จ่ายค่าตั๋วคนละ 2 MDL
เดินผ่าน Parcul Catedralei ( Cathedral Park ) และ Catedrala Mitropolitană Nașterea Domnului ( Cathedral of Christ ’ s Nativity ) กลับที่พัก
เดินไปยังอีกมุมหนึ่งของสวนเพื่อรับประทานมื้อค่ำที่ร้าน La Pl ă cinte ร้านอาหารดังของที่นี่ซึ่งมีหลายสาขา
อาหารมอลโดวาแท้ๆ ในร้านดีๆ ราคาไม่แพง จำได้ว่ามื้อนี้แชร์กัน 2 คน จ่ายคนละ 200 บาทนิดๆ ครับ ถ้ากินที่ร้านอาหารทั่วไป มื้อนึงไม่น่าเกิน 90 MDL ( ประมาณ 150 บาท )
รสชาติโอเคนะ แต่พอร์ชั่นก็ไม่ใหญ่เหมือนกับอาหารรัสเซียและยูเครน
เดินกลับที่พัก
ค้างคืนแรกที่ Chi ș in ă u
วันที่ 2
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ เราจึงตัดสินใจไป Transnistria ก่อนเพราะไม่แน่ใจว่าวันอาทิตย์ด่านชายแดนจะปิดหรือไม่

Read more: Real Sociedad

Transnistria ( ทรานสนิสเทรีย ) หรือ Pridnestrovie ( พริดเนสโตรวี ) ในภาษารัสเซีย คือดินแดนแคบๆ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ Dniester ( Nistru ) ระหว่างประเทศมอลโดวากับยูเครน เป็นเขตปกครองตนเองที่ประกาศสถานะความเป็นประเทศแยกตัวเป็นอิสระจากมอลโดวาและปกครองตนเองตั้งแต่ปีค.ศ. 1992 หลังทำสงครามกับมอลโดวาโดยได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพรัสเซีย
แม้องค์การสหประชาชาติจะไม่รับรอง Transnistria ให้เป็นประเทศ รวมทั้งมอลโดวาเองก็มองว่าเป็นส่วนหนึ่งของเขา แต่ในทางปฏิบัติแล้วดินแดนนี้มีอำนาจปกครองตนเองอย่างสมบูรณ์ เพราะมีทั้งประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี วัฒนธรรม สกุลเงิน ธงชาติ เพลงชาติ รวมถึงกองกำลังทหารเป็นของตนเอง
ส่วนสาเหตุที่เกิดความขัดแย้งจนกลายเป็นสงครามมาจากเรื่องภาษา กล่าวคือ ภายหลังสหภาพโซเวียตล่มสลายในช่วงต้นทศวรรษ 90 มอลโดวาซึ่งคนส่วนมากใช้ภาษาโรมาเนียได้แยกตัวเป็นประเทศอิสระ แต่ประชากรในเขต Transnistria ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมอลโดวากลับสื่อสารกันด้วยภาษารัสเซียเป็นหลักและยังมีความยินดีที่จะใช้ระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ตามแบบโซเวียตเดิมอยู่ ถึงขนาดที่มีการเรียกร้องให้ผนวกดินแดนเข้ากับรัสเซียโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากมีชีวิตที่ดีขึ้น
photo credit: yle.fi
เราจะไปเที่ยว 2 เมืองของ Transnistria ซึ่งอยู่ใกล้กัน คือ Tiraspol และ Bendery แบบไปเช้าเย็นกลับจาก Chișinău
8 โมงครึ่ง ออกจากที่พัก เดินประมาณ 1.2 กม. ไปสถานีรถบัสกลาง Autogara Central ă Chi ş in ă u ( Gara Centru ) พอเห็นตลาดกลาง Piața Centrală เดินต่อตามถนน Strada Mitropolit Varlaam ไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว
เข้าไปในสถานี เดินทแยงมุมไปทางซ้ายทางหัวมุมถนน Strada Tighina กับ Strada Columna ก็เห็นช่องขายตั๋ว ( Cada de Peron ) ไป Tiraspol ( Тирасполь )
ซื้อตั๋วรถตู้ ( marshrutka ) Chișinău-Tiraspol ( Кишинев-Тирасполь ) ราคา 36.50 MDL ( ประมาณ 2 ยูโร )
09.20 น. คือเวลารถตู้ออก ( รอบก่อนหน้าคือ 08.40 น. )
เช็คตารางเวลารถได้ที่ autogara.md
อัพเดทค่ารถได้ที่ autogara.md/orar
อ่านวิธีการเดินทางไป Tiraspol เพิ่มเติมได้ที่ marisha.net
ไป Tiraspol
นั่งรถตู้ไปยังเขตปกครองตนเอง Transnistria พอถึงด่านชายแดน คนขับก็จอดให้ลงไปทำพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ยื่นพาสปอร์ตให้ตม. ถ้าเค้าถามว่าจะกลับวันไหนให้ตอบว่าวันนี้ แนะนำให้ไปแบบไม่ค้างคืนเพราะจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องวีซ่าชัวร์ๆ ตม. จะให้ใบเข้าเมืองแบบไม่ต้องลงทะเบียนเพราะอยู่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ให้เก็บใบนี้ไว้จนกว่าจะกลับเข้าเขตมอลโดวา
รถตู้ผ่านเมือง Bendery ( Bender ) ของ Transnistria แล้วข้ามแม่น้ำ Dniester อีกไม่นานก็ลงในเมือง Tiraspol ที่ Zeleny rynok ( Зелёный рынок ) ตรงตลาดป้ายสีเขียวๆ ไม่ต้องเลยไปลงถึงสถานีรถไฟ Gara feroviară boom Tiraspol ( Гара หรือ АС Тирасполь ) หรือ Vokzal ( вокзал ) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
เข้าตลาดไปหาร้านแลกเงิน ใช้เงิน MDL ของมอลโดวา แลกเงิน rubl ă transnistrean ă ( приднестровский рубль ) หรือ Transnistrian ruble คนละ 110 MDL ได้เงินมา 100 PRB ( RUP )
อัตราแลกเปลี่ยน 100 MDL = 91 PRB, 1 PRB คือประมาณ 2 บาท
เช็คอัตราแลกเปลี่ยนได้ที่ www.cbpmr.net
เดินลัดตลาดไปออกอีกทางหนึ่ง
ข้ามถนนตรงเข้าประตูสวนไม่ไกลก็เห็น Monumentul lui Suvorov ( Monument to Suvorov )
เริ่มต้นเที่ยว Tiraspol ที่นี่
Tiraspol ( Тирасполь ) คือเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของประเทศมอลโดวาและเป็นเมืองหลวงของเขตปกครองตนเอง Transnistria ( Transdniestr ) หรือ Pridnestrovie ( Приднестровие )
ทิราสโพลเป็นศูนย์กลางด้านการบริหาร การปกครอง และเศรษฐกิจของทรานสนิสเทรีย พื้นที่แถบนี้เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ก่อนถูกผนวกรวมเข้ากับอาณาจักรรัสเซีย ปัจจุบันเมืองนี้ถูกพัฒนาเป็นเขตอุตสาหกรรมเบาสำคัญของมอลโดวาโดยเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หลายแห่ง
สิ่งก่อสร้างสำคัญๆ ของ Tiraspol อยู่ตามแนวถนนสายหลักของเมืองชื่อ ulitsa 25 Oktober
เดินลัดสวนไปยัง Monumentul lui Suvorov ( Monument to Suvorov ) อนุสาวรีย์ตรงกลาง Piaţa Suvorov หรือ Suvorov Square ( Площадь Суворова ) จัตุรัสหลักกลางเมืองที่ตั้งชื่อตามผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียผู้ก่อตั้งเมืองนามว่า Alexander Vasilyevich Suvorov
หันหน้าเข้าหาอนุสาวรีย์ เดินไปทางซ้ายก่อน แป๊บเดียวก็ถึง Sovietul Suprem al Republicii Moldovenești Nistrene ( Sovietul Suprem şi Guvernul al RMN ) หรือ Supreme Council of the Pridnestrovian Moldavian Republic ( Советул Супрем ал Републичий Молдовенешть Нистрене ) คืออาคารรัฐสภาของ Transnistria ซึ่งมี Monumentul lui Lenin หรือรูปปั้นเลนินอยู่ด้านหน้า
ข้ามถนนเดินไปยัง Capela Sfântul Gheorghe ( St. George the Victorious Chapel ) และ Tank pamyatnik ( Tank Monument )
เดินตามถนน ulitsa 25 Oktober ผ่านจัตุรัส Suvorov หาร้านอาหารกินแถวนี้ มีร้านอาหารเอเชียด้วยนะ
เดินต่อไปทางทิศตะวันออกของเมือง ไม่ไกลก็เห็น Primăria Municipiului Tiraspol ( City Hall ) อาคารที่ทำการเมืองสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิกสไตล์ House of Soviets หรือ Dom Sovetov ( Дом Советов )
เลยไปอีก 400 เมตรคือที่ตั้งของ Teatrul dramatic de stat „Nadejda Aronețkaia ( Театр драмы и комедии имени Надежда Степановна Аронецкой ) หรือ State Drama Theatre Nadejda Aronețki
เที่ยว Tiraspol หมดแล้วครับ
ไป Bendery (Bender)
นั่งรถตู้ ( rutierele ) สาย 20 จากป้ายฝั่งเดียวกับ City Hall ค่ารถ 3.50 PRB หรือรถเมล์ Trolleybus สาย 19 ก็ได้ ค่ารถ 3 PRB ซื้อบนรถได้เลย แต่เลือกรถตู้ดีกว่าเพราะสามารถขอลงใกล้ทางเดินไปปราสาท Bender ได้
เช็คเส้นทางรถเมล์ได้ที่ www.eway.md
นั่งรถตามถนน ulitsa 25 Oktober ย้อนทางเดิมผ่านจัตุรัส Suvorov กลับไปข้ามแม่น้ำ Dniester แล้วลงตรงที่มีป้ายเขียนว่า Бендеры ( Bendery ) ก่อนลอดใต้สะพานข้ามถนน
คนขับรถชี้บอกทางไปปราสาทให้เดินขึ้นไปข้ามทางรถไฟแล้วเดินไปทางขวาไม่ไกลก็ถึงทางเข้า Cetatea Bendér แห่งเมือง Bendery ( Бендеры )
Bendery ( เบนเดรี ) หรือ Bender คือเมืองเดียวของเขตปกครองตนเอง Transnistria ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ Dniester
สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่สุดคือ Cetatea Bendér ( Cetatea Tighina ) หรือ Benderskaya krepost ( Бендерская крепость ) หรือ Bender Fortress คือป้อมปราการที่ตั้งขนานตามแนวยาวของแม่น้ำ Dniester ที่สร้างขึ้นครั้งแรกในลักษณะป้อมปราการไม้เมื่อปีค.ศ. 1408 เพื่อใช้เป็นด่านเก็บค่าผ่านทางระหว่างอาณาจักร Tatar และ Crimea โดยเมืองดังกล่าวได้ชื่อว่าเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่าง 2 อาณาจักรใหญ่ในขณะนั้น ต่อมาภายหลังอาณาจักรออตโตมันเข้ายึดครองเมืองนี้สำเร็จจึงได้ต่อเติมและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับป้อมและใช้ในศึกสงครามครั้งสำคัญหลายต่อหลายครั้ง
เข้าประตูไปในอาณาเขตของป้อมซึ่งเปิดเป็นสวนขนาดใหญ่สำหรับให้ชาวเมืองมาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ สิ่งก่อสร้างสวยงามที่อยู่ข้างหน้าคือ Biserica Aleksandr Nevski ( Alexander Nevsky Church )
เดินไปยังป้อม Bender ซึ่งเปิดให้เข้าชมทุกวัน ช่วงวันที่ 1 เม.ย.-31 ต.ค. ตั้งแต่ 09.00-18.00 น., 1 พ.ย.-31 มี.ค. 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชมราคา 50 PRB
เช็คเวลาเปิด-ปิดได้ที่ visit Bendery Fortress
เข้าไปชมด้านในซึ่งมีพิพิธภัณฑ์และร้านขายของที่ระลึก สามารถเช่าชุดพื้นเมืองไปใส่ถ่ายรูปเก๋ๆ กับป้อมปราการโบราณได้ด้วย
ภายในบริเวณนี้มีโรงแรมหรูด้วย ชื่อว่า Stary Bastion Otel ( Старый бастион Отель )
ได้เวลากลับมอลโดวาแล้ว
ออกจากป้อม เดินไปทางขวาไม่ไกลก็เห็น Monumentul Gloriei Ruseşti ( Monument to Russian Glory ) อยู่อีกฝั่งถนน
เดินต่อไปทาง Poliţia Rutieră หรือป้อมตำรวจใน Google map ซึ่งเป็นเส้นทางเข้าตัวเมือง Bendery แล้วเดินย้อนไปอีกทางนิดนึงก็เห็น Tank pamyatnik หรืออนุสาวรีย์รถถัง
เดินผ่านเสาสูงตรงกลางวงเวียนไปแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนน Strada Tiraspol ไม่ไกลก็ถึงสถานีรถบัส Avtovokzal Bendery ( Автовокзал Бендеры / АВ Бендеры ) หรือ Autogara Bender
ซื้อตั๋วรถตู้กลับ Chișinău ใบละ 41.40 MDL ( ราคาที่ search มาคือ 32.60 MDL )
เช็คเวลารถได้ที่ avpmr.com
นั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็กลับถึงสถานีรถบัสกลาง Autogara Central ă Chi ş in ă u
เดินกลับที่พัก
ค้างคืนที่ 2 ที่ Chi ș in ă u
วันที่ 3
วันแรกที่มาถึงมอลโดวา เราจะไปชมโรงไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ Mileştii Mici Winery ชานกรุง Chișinău แต่ไปไม่ทันรอบบ่าย 3 ที่จองไว้
วันที่ 2 ตัดสินใจไปเที่ยว 2 เมืองของเขตปกครองตนเอง Transnistria ก่อนเพราะวันเสาร์ด่านไม่ปิดแน่นอน
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ Mileştii Mici Winery และโรงไวน์อื่นใกล้เมือง Chișinău ปิดหมด จะไปเที่ยวเมือง Soroca ทางเหนือของประเทศริมชายแดนยูเครนก็หาตารางรถบัสชัวร์ๆ ไม่ได้ กลัวไปได้แต่กลับวันนั้นเลยไม่ได้
ทางเลือกที่ดีไม่แพ้กันจึงเป็น Castel Mimi โรงบ่มไวน์ชื่อดังอีกแห่งของมอลโดวาซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1893 อยู่ในเขตหมู่บ้าน Bulboaca ห่างจาก Chișinău ประมาณ 50 กม .
เดินไปสถานีรถบัสกลาง Autogara Central ă Chi ş in ă u ( Gara Centru ) ที่เดียวกับเมื่อวาน
ซื้อตั๋วรถตู้รอบ 10.10 น. ใบละ 22 MDL นั่งรถไปทางเดียวเหมือนเมื่อวานประมาณ 1 ชั่วโมงก็ลงข้างหน้า Castel Mimi เลย
จะนั่งรถไฟจากสถานี Gara feroviară din Chișinău ไปลงที่สถานี Bulboaka แล้วเดินอีกราว 200 เมตรก็ได้ รถไฟออกเวลา 09.55 น. ถึง Bulboaca 11.15 น. แต่สถานีรถไฟอยู่ไกลจากกลางเมือง Chișinău กว่าสถานีรถบัสอีกราว 2 กม .
จ่ายค่าเข้า Castel Mimi 250 MDL ให้ชิมไวน์ 1 แก้ว ถ้าไม่ได้มาวันอาทิตย์สามารถซื้อไกด์ทัวร์พาชมโรงบ่มไวน์และชิมไวน์หลากหลายชนิดได้ด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.castelmimi.md/en_index.html
เดินชมโรงบ่มไวน์ที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังอยู่ในปราสาทลุ่มแม่น้ำลัวร์ของฝรั่งเศสประมาณนั้น 555
ไวน์ของมอลโดวามีชื่อเสียงไม่แพ้ชาติใดในยุโรป แต่ราคาถูกกว่ามากๆ คอไวน์เห็นแล้วต้องอยากซื้อยกลังกลับบ้านแน่ๆ
ขามาดูตารางรถขากลับที่ติดบอกไว้อยู่แล้ว เดินมารอรถตู้หน้า Castel Mimi ก่อนเวลาเล็กน้อย
นั่งรถตู้กลับ Chișinău ( ค่ารถ 22 MDL ) ยังไม่เข้าเมืองไปลงที่สถานีรถบัส แต่ลงนอกเมืองที่ป้ายตรงข้าม Malldova ห้างสรรพสินค้าใหญ่ของคิชิเนา เดินช้อปปิ้งผลาญเวลาว่าง แล้วนั่งรถเมล์สาย 22 ( ค่าตั๋ว 2 MDL ) กลับเข้ากลางเมืองไปลงที่ถนนหลัก Bulevardul Ș tefan cel Mare ș i Sfînt
มื้อเย็น กินพิซซ่าที่ร้านเชนดังของประเทศชื่อ Andy’s Pizza สาขาใกล้ที่พัก
วันที่ 4
บ่ายนี้ สายการบิน Air Moldova จะออกจากสนามบินตอน 13.50 น. กลับ Moscow
ช่วงเช้ายังมีเวลาไปเดินเล่นในเมือง Chișinău อีก
เดินไปที่อนุสาวรีย์ของ Stephen the Great เข้าไปใน Gr ă dina Public ă „ Ş tefan cel Mare ş i Sfânt” ( Stephen the Great Central Park )
แล้วเดินเข้าถนน Ave. 31 August 1989 ไป Muzeul Na ț ional de Istorie a Moldovei ( National Museum of History of Moldova ), Biblioteca Na ţ ional ă a Republicii Moldova ( National Library of the Republic of Moldova ) และ Muzeul Na ț ional de Art ă al Moldovei ( National Museum of Fine Arts ) ตามที่เขียนไว้แล้วตอนแรกๆ ที่เป็นเนื้อหาเที่ยวกรุงคิชิเนา