46527 Views

‘ วิดีโอเกม ’ ความบันเทิงที่อยู่คู่มวลมนุษยชาติมามากกว่าห้าทศวรรษ เกมกลายเป็นวัฒนธรรมความบันเทิงที่ทุกคนเข้าถึง ไม่มีใครไม่เคยเล่นเกมเราเชื่อแบบนั้น หากลองสังเกตดูตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เกมต่างๆ นั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงและถูกพัฒนาตลอดเวลา ต้องยอมรับว่าเกมใหม่ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นนั้น ต่างก็มีรูปแบบที่ทันสมัยและมีความซับซ้อนมากขึ้น มีความสวยงามทั้งทางภาพและเสียงเพิ่มขึ้น รวมถึงมีเนื้อหาที่หลากหลายมากขึ้นด้วย บรรดาเราเหล่านักเล่นเกมต่างก็ล้วนได้รับความบันเทิงสนุกสนานเสพติดกันจนงอมแงมไปตามๆ กัน

แต่หลายๆ เกมที่ประเดประดังวางแผงออกมากันอย่างมากมายในปัจจุบันนี้ สำหรับคอเกมหลายๆ คน มันก็ถือว่ายังไม่สามารถสร้างความรู้สึกที่น่าจดจำ รวมถึงความประทับใจเทียบเท่ากับบางเกมในความทรงจำของพวกเขาได้ อาจเป็นเพราะอดีตมันมักจะหอมหวลเสมอ ในยามที่เราถวิลหา เราจึงมักจะนำตลับเกมเก่าๆ ที่สุดแสนจะคลาสสิก กลับมาปัดฝุ่นและเสียบมันลงไปในเครื่องเกมเพื่อที่จะเล่นมันอีกครั้ง..

วันนี้ ReadAlert ได้ทำการรวมรวม 50 เกมระดับตำนานในความทรงจำ ภาค 1 โดยภาคแรกเราจะพูดถึง เกมที่เกิดก่อนยุค 2000 เริ่มกันตั้งแต่ เกมตลับ Playstation จนเข้ายุค PC ตอนเริ่มต้น จะมีเกมอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

1. Super Mario Bros. (1985)

แม้นี่จะไม่ใช่เกมแรกที่ช่างประปาหนวดงามนามมาริโอ้ออกอาละวาด แต่เกมนี้ถือเป็นภาพจำแรกที่ทุกคนน่าจะทำพ่อหนุ่มช่างประปาคนนี้ได้ การันตีด้วยผลสำรวจจากเว็บเกมชื่อดัง IGN ที่ยกให้ Super Mario Bros. เป็นเกมที่มีอิทธิพลสูง และเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดตลอดกาล

2. Super Mario World (1990)

ซุปเปอร์มาริโอ้ภาคนี้ถูกโหวตจากบรรดาแฟนๆทั่วโลกว่าเป็นเกมในแฟรนไชส์มาริโอ้ที่ดีที่สุด ด้วยยอดขายทั่วโลกไปกว่า 20 ล้านชุด ถูก remaster ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งบน Game Boy Advanced / Wii / Wii U

3. Mario Kart (1992)

จากความสำเร็จของแฟรนไชส์มาริโอ้ ทาง Nintendoก็ต่อยอดด้วยการนำเหล่าตัวละครของมาริโอ้มาแตกย่อยออกเป็นเกมต่างๆมากมาย ตัวอย่างสำคัญก็คือ Mario Kart เกมแข่งรถแสนสนุกที่น่าจะถือว่า เป็นภาคย่อยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และยังคงพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันพร้อมด้วยยอดขายอันสวยงามในเกือบทุกภาคที่ออกมา

4. Tetris (1984)

เกมตัวต่อระดับตำนานจากรัสเซีย ที่แพร่ขยายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ถูกพัฒนาไปในหล และเชื่อหรือไม่ปัจจุบันมีการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกในชื่อ Classic tetri World Championship ด้วย

5. Space Invaders (1978)

เกมระดับคลาสสิคขึ้นหิ้ง Space Invaders เกมยานยิงที่เก่าแก่ที่สุดเกมหนึ่งในอุตสาหกรรมเกม ซึ่งผู้ออกแบบ โทโมะฮิโระ นิชิคะโตะ กล่าวว่า เขาได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนต์ชื่อดังอย่าง Star Wars ในการพัฒนาเกมนี้ออกมา

6. Breakout (1976)

เชื่อหรือไม่เกมที่มีบล็อกเหลี่ยมๆเลื่อนไปเลื่อนมาคอยรับลูกบอลให้กระเด้งขึ้นไปทำลายชั้นบล็อก 8 ชั้น อีกหลายสิบปีถัดมามันจะกลายเป็นเกมที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างให้เกิดเกมรุ่นหลังระดับตำนานทั้ง Space Invaders และ Arkanoid

7. Rampage (1986)

เด็กรุ่นใหม่อาจคุ้นเคยกับภาพยนต์ Rampage ที่นำแสดงโดย The Rock ที่ออกมาในปี 2018 แต่รู้รึเปล่าว่าภาพยนตร์ Rampage นั้นถูกดัดแปลงมาจากเกมในชื่อเดียวกันที่ออกมาเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว โดย Jeff Nauman ผู้พัฒนาเกมนี้ระบุว่าเขาได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์สัตว์ประหลาดร่างยักษ์อย่าง King Kong, Godzilla รวมถึงเกมในตำนาน Donkey Kong ด้วย

8. Pac-Man (1980)

ใครจะไปคิดว่าไอ้เจ้าตัวกลมๆ สีเหลืองไล่กินจุดไปเรื่อยๆ นาม Pac-Man นั้นจะมีต้นกำเนิดมาจากแดนอาทิตย์อุทัย ซึ่งแรกเริ่มเดิมที มีชื่อว่า Puck Man ก่อนที่ Midway Games จะซื้อลิขสิทธิ์ไปขายในตลาดอเมริกาและเปลี่ยนชื่อเป็น Pac-Man อย่างที่เราคุ้นหูกันในปัจจุบัน

9. Bubble Bobble (1986)

ถ้าพูดถึงเกมชื่อ Bubble Bobble คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเกมแนว puzzle ยิงลูกแก้วขึ้นไปทำลายอุปสรรคต่างๆ แต่จริงๆ แล้วต้นกำเนิดของ Bubble Bobble จาก Taito นั้นกลับเป็นเกมแนว action platformer เชื่อว่าหากได้ลองกลับไปเล่นอีกสักครั้งจะลืมภาพจำเกมแนวยิงลูกแก้วไปได้เลย

10. Contra (1987)

ขึ้น ขึ้น ลง ลง ซ้าย ขวา ซ้าย ขวา บี เอ .. choose depart ! นิยามที่ดีที่สุดของเกมนี้ คอนทราเปิดตัวครั้งแรกในฐานะของเกมตู้มาก่อน วึ่งตัวเกมได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนต์ชื่อดัง แรมโบ้ และ Lance ตัวละครเอกก็ใช้คาแรกเตอร์ของ John Rambo เป็นต้นแบบ

11. Punch-Out (1987)

ต้นกำเนิดเกมชกมวยทุกเกมบนโลกอย่างแท้จริง แถมยังเป็นเกมสะท้อนสภาพสังคมในช่วงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี โดยเราจะได้รับบทเป็นนักมวยหน้าใหม่ฉายา Little Mac ที่ต้องเอาชนะคู่ต่อสู้เพื่อไต่เต้าอันดับขึ้นไปเรื่อยๆเพื่อเอาชนะสุดยอดนักมวยแห่งยุคอย่าง Super Macho Man ในแมตช์หยุดโลกที่เรียกว่า Dream Fight

12. Golden Axe (1989)

นี่คือหนึ่งในเกมชูโรงบนเครื่องเกม Sega Genesis และ Mega Drive โดยตัวเกมเป็นเกมแนว action adventure ที่ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบตัวละครและโลกจำลองภายในเกมจากการ์ตูนชื่อดังในยุคนั้นอย่าง stud

13. Death Race (1976)

หลายคนอาจจะจำภาพยนต์ชื่อเดียวกันที่ Jason Straham เล่นในปี 2008 ซึ่งจริงๆถือเป็นการรีเมคจากภาพยนต์ในปี 1975 และภาพยนต์ดังกล่าวก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเกมชื่อเดียวกันนี้ที่ออกมาในปี 1976 นี้ด้วย

14. 1942 (1984)

ค่ายพัฒนาเกม Capcom ก่อตั้งขึ้นในปี 1979 และเกมแนวยานยิงแนวตั้งอย่าง 1942 ก็ถือเป็นหนึ่งในเกมแรกๆ ที่สร้างชื่อให้กับทางค่าย รวมถึงเกมต้นแบบเกมแนวยานยิงแนวตั้งรุ่นหลังที่ตามออกมาอีกมากมาย

15. Donkey Kong (1981)

อีกหนึ่งเกมสร้างชื่อจากค่าย Nintendo และเจ้าลิงยักษ์ Donkey Kong ก็ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวละครระดับตำนานของค่ายเช่นเดียวกับ มาริโอ้ เลยทีเดียว แถมตัวเกมยังประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะตัวเกมถูกพอร์ตลงแพลตฟอร์มเครื่องเกมต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเครื่องเกมพกพาที่มีตามออกมามากมาย

16. Ghost’n Goblins (1985)

นี่ถือเป็นผลงานชิ้นเอกชิ้นแรกๆที่ถูกพัฒนาโดย Capcom USA ตัวเกมเป็นเกมแนว side-scrolling platform ซึ่งเราจะได้รับบทบาทเป็นอัศวินนามว่า Sir Arthur และรับหน้าที่ตะลุยด่านต่อสู้กับเหล่าปีศาจในตำนานมากมาย เช่น ซอมบี้, ยักษ์ตาเดียว, มังกร เป็นต้น

17. Gauntlet (1985)

หาก Diablo คือเจ้าพ่อของเกมแนว hack & slash เกม Gauntlet ก็น่าจะถือเป็นต้นตระกูลของเกมแนวนี้ได้เหมือนกัน ตัวเกมถูกพัฒนาโดย Atari แถมยังสามารถเล่นพร้อมกันได้มากถึง 4 คน ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับเกมตู้ในยุคนั้น

18. Diablo (1996)

หลังจากค่ายยักษ์น้ำแข็งอย่าง Blizzard Ent. สร้างชื่อจากโลกของมนุษย์และยักษ์ออร์คด้วยเกม Warcraft สำเร็จแล้ว พวกเขาก็หันมาพัฒนาเกมแนว hack & slash ในโลกของมนุษย์ เทพ และปีศาจ ซึ่งต่อมา Diablo กลายเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของบริษัท รวมถึงเป็นต้นแบบให้กับเกมแนวเดียวกันนี้ที่ตามออกมาอีกเป็นพรวน

19. Warcraft: Orcs & Humans (1994)

แม้ Warcraft จะไม่ใช่ต้นกำเนิดของเกมแนว real-time scheme ( RTS ) แต่ต้องยอมรับว่า Warcraft แทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเกมแนว RTS รวมถึง MOBA ( multiplayer online struggle arena ) และ MMORPG ( massively multiplayer on-line role-playing ) ในยุคปัจจุบัน แถมยังถือเป็นรากฐานสำคัญของอุตสาหกรรมเกมในยุคปัจจุบันด้วย

20. Age of Empires (1997)

ช่วงปี 1990-2000 ถือเป็นช่วงยุคทองของเกมแนว RTS อย่างแท้จริง และหากจะนับนิ้วหาเกมที่โดดเด่นในยุคนั้นแล้วมองข้าม Age of Empires จาก Microsoft Studios ไปคงถือว่าเป็นเรื่องผิดมหันต์ ความแตกต่างของ Age of Empires กับเกมแนว RTS อื่นๆในยุคเดียวกัน คงเป็นเรื่องของฉากหลังภายในเกม เพราะขณะที่เกม RTS ส่วนใหญ่เลือกจะหยิบยกเรื่องราวโลกแฟนตาซีมากนำเสนอ AoE กลับหยิบเอาเรื่องราวของประวัติศาสตร์ของชาติและชนเผ่าต่างๆมานำเสนอแทน

21. Command & Conquer (1995)

แม้ Westwood Studio จะสร้างชื่อมาก่อนกับการพัฒนาเกมแนว RTS อย่าง Dune II แต่ C & C คือเกมที่ทำให้ชื่อของ Westwood Studios ดังกระฉ่อนอย่างแท้จริง ตัวเกม C & C เซ็ตเรื่องราวอยู่ในโลกอนาคตที่เป็นโลกที่โดนปนเปื้อนด้วยแร่ Tiberium และเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองฝ่ายคือ Global Defense Initiative ( GDI ) กับ Brotherhood of Nod

22. Wolfenstien 3D (1992)

คนส่วนใหญ่จะมีภาพจำกับ Wolfenstien ในแบบ 3D first-person shooting เล่นบนระบบปฏิบัติการ MS-DOS แต่รู้มั้ยว่าก่อนจะมาเป็นเกมแนว FPS ตัวเกม Wolfenstien ดั้งเดิมในชื่อ Castle Wolfenstien นั้นถูกพัฒนาให้เป็นเกมแนว action-adventure มุมมองด้านข้างมาก่อน และหลังจาก Wolfenstien 3D เปิดตัวออกมา ก็ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์การเล่นเกมแนวใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเกมเลยทีเดียว

23. Doom (1993)

หลังจาก Wolfenstien 3D ได้พาให้อุตสาหกรรมเกมรู้จักแนวทางการเล่นใหม่ๆ ก็มีเกมแนวเดียวกันตามออกมาอีกเพียบ แต่ก็เหมือนกับทุกครั้งที่จะมีอยู่ไม่กี่เกมเท่านั้น ที่สามารถสร้างที่อยู่ของตัวเองได้ และ Doom ก็เป็นหนึ่งในเกมแนว 3D first-person shooting ที่ตามออกมาทีหลัง แต่สามารถขีดเขียนตำนานของตัวเองได้สำเร็จ โดยความสำเร็จของ Doom ยังต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และชื่อของ Doom ยังคงสร้างความคาดหวังทุกครั้งที่ถูกเอ่ยถึง

24. Duke Nukem 3D (1996)

อีกหนึ่งเกมที่ผันตัวเองจากเกมแนว 2D side-scrolling platform มาเป็นเกมแนว 3D first-person shooting เช่นเดียวกับ Wolfenstien 3D โดย Duke Nukem 3D เป็นเกมที่นำเสนอการเล่นที่แตกต่างกว่าคนอื่นตรงที่เริ่มมีการใส่ฟีเจอร์การเล่นแบบ multiplayer ผ่านทาง network LAN เข้ามา แถมตัวเกมยังอนุญาตให้ผู้เล่นสามารถสร้างด่าน/แผนที่ของตัวเองเพื่อเล่นแข่งกับเพื่อนได้

25. Half-Life (1998)

ผลงานชิ้นแรกจากสตูดิโอเกมที่ยังคงชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบันอย่าง Valve ซึ่งผู้เล่นต้องรับบทบาทเป็น Dr. Gordon Freeman ที่ต้องพยายามต่อสู้หาทางรอดออกจากสถานีวิจัย Black Mesa ที่เกิดความผิดพลาดระหว่างการทดลอง จนทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดขึ้นมากมาย โดย Half-Life ได้รับความนิยมสูงมากในช่วงปี 1998 แถมยังคว้ารางวัล “ Game of the Year ” ได้จากหลายสื่อในวงการเกมอีกด้วย

Read more: S.S. Lazio

26. Unreal Tournament (1999)

ท่ามกลางสงครามเกม FPS อันรุนแรงในช่วงยุคปลายปี 90 ’ second ทางด้าน Epic Games ได้คิดแหวกกรอบของเกมแนว FPS ด้วยการพัฒนาเกม FPS ให้เป็นแบบ multiplayer deathmatch ที่เน้นรูปแบบการเล่นเป็นแบบอารีน่าเพื่อเอาชนะกัน ซึ่งจริงๆรูปแบบการเล่นของ Unreal Tourment มีหลากหลายมากไม่เฉาพะแบบ Deathmatch เช่น Assault จะที่เป็นการแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองทีมเพื่อปกป้องฐานของตัวเอง เป็นต้น

27. Quake III Arena (1999)

จากความสำเร็จของ Unreal Tournament ที่พยายามนำเสนอรูปแบบการเล่นใหม่ๆในแบบ mutiplayer สู่เกมแนว FPS ทางด้าน id Software ก็จับเอาเกม Quake ที่ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงพอตัวในช่วงเวลานั้นมาคิดใหม่ทำใหม่ ถอดเอารูปแบบการเล่นคนเดียวออกไป แล้วหันมาเน้นรูปแบบการเล่นแบบ multiplayer เต็มที่ ซึ่งต้องบอกว่าแม้จะเห็นโต้งๆว่า Quake III Arena ก๊อปปี้เอาแนวคิดรูปแบบการเล่นมาจาก Unreal Tourment แต่ Quake III Arena ก็ได้รับการตอบรับจากเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างดีไม่แพ้กัน

28. Baldur’s Gate (1998)

Baldur ’ second Gate เป็นเกมแนว role-playing game ( RPG ) ที่พัฒนาด้วยการอาศัยโลกและกฎ-กติกาของ Dungeons & Dragons บอร์ดเกมยุคแรกเริ่มที่ถูกคิดค้นโดย Gary Gygax และ Dave Ameson ในช่วงปี 1970 ’ s และแม้ Baldur ’ s Gate จะมีรูปแบบการเล่นแบบตะลุยดันเจี้ยนคล้าย Diablo แต่สไตล์การเล่นกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ขณะที่ Diablo เน้นความเป็นแอคชั่นและการฟาร์มไอเทม Baldur ’ s Gate กลับเน้นการแก้ปริศนาและทำเควสเป็นหลัก แถม Baldur ’ second Gate ยังถูกยกเป็นเกมแนว RPG ที่ยากที่สุดเกมนึงในประวัติศาสตร์วงการเกม

29. Planescape: Torment (1999)

Black Isle Studios มีความพยายามจะหาจุดลงตัวระหว่าง Diablo และ Buldar ’ mho Gate คือต้องการพัฒนาเกม action RPG ที่เน้นการแก้ปริศนา-ทำเควส และมีพื้นหลังอยู่ในโลกของ Dungeons & Dragons และผลลัพธ์ก็คือ Planescape : torment และความเจ๋งของรูปแบบการเล่นที่ไม่เหมือนใครคือ ทุกครั้งที่ตัวละครที่เราเล่นอย่าง The Nameless One ตาย จะมีตัวละครในโลกคู่ขนานต้องสังเวยชีวิตเพื่อให้เราคืนชีพ โดยที่เราจะโดนวิญญาณของตัวละครในโลกคู่ขนานนั้นกลับมาตามล้างแค้นด้วย

30. Fallout (1997)

เมื่อพูดถึงเกมแนว RPG ก็ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบของเกมแนว RPG ที่ควรค่าแก่การพูดถึง นั่นคือ open-world turn-based RPG และเกมที่โดดเด่นเหลือเกินกับแนวทางนี้นั่นก็คือ Fallout จากค่าย Interplay Productions ซึ่งเรื่องราวของ Fallout จะเล่าเรื่องในโลกที่ได้รับผลกระทบจากสงครามนิวเคลียร์ช่วงกลางศตวรรษที่ 22 โดยสิ่งที่ทำให้ Fallout ได้รับคำชมอย่างมากก็คือความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง และการดำเนินเรื่องที่น่าติดตามนั่นเอง

31. Grim Fandango (1998)

นี่เป็นเกมแนว graphic adventure ที่ใช้บรรยากาศภาพแบบฟิลม์นัวร์ในการเล่าเรื่อง ซึ่งทางด้าน LucasArts ที่เป็นผู้พัฒนาได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนต์สุดคลาสสิคอย่าง Casablanca, The maltese Falcon มาใช้ในการนำเสนอ ตัวเกมถูกเซ็ตให้อยู่ในดินแดนที่เรียกว่า Land of the Dead ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าวิญญาณที่เพิ่งเสียชีวิตจะต้องมาพักอาศัย รอเวลาก่อนจะเดินทางไปยัง The Ninth Underworld ซึ่งเหมือนเป็นสถานที่ที่ใช้ตัดสินชีวิตหลังความตาย โดยตัวเกม Grim Fandango ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเกมที่มีองค์ประกอบศิลป์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเกมนึงเท่าที่วงการเกมเคยมีมา

32. Sonic the Hedgehog (1991)

หากพูดถึงค่าย Sega หนึ่งตัวละครที่ทุกคนน่าจะนึกถึงได้แน่ๆก็คือเม่นสีฟ้าวิ่งเร็วๆหมุนติ้วๆอย่าง Sonic ซึ่งจริงๆก่อนที่จะมาเป็นตัวละครในเกม ชื่อของเจ้าหนู Sonic ถูกใช้เป็นชื่อของหนึ่งในทีมพัฒนาของ Sega อย่าง Sonic Team อยู่ก่อนแล้ว และทาง Sega เองก็มีความคิดจะพัฒนาเกมในรูปแบบ side-scrolling chopine โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Super Mario ของทาง Nintendo อยู่ก่อนแล้ว แต่ยังหาคาแรกเตอร์หลักของตัวเกมที่จะใช้พัฒนาไม่ได้ จนสุดท้ายก็มีการโหวตกันภายในบริษัทแล้วได้ออกมาเป็นเจ้าหนูเม่นฟ้า Sonic the Hedgehog ที่ทุกคนคุ้นตาในปัจจุบัน

33. Out Run (1986)

เกมแข่งรถที่เกมเมอร์ยุค 90 ’ randomness ทุกคนต้องเคยสัมผัสสักครั้ง ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์ของ Sega การันตีด้วยรางวัล Golden Joystick Award ในปี 1987 และรางวัล Arcade Game of the Year ในปีเดียวกัน และความโด่งดังของ Out Run มาเด่นชัดจริงๆในปี 1994 โดยถูกยกเป็นหนึ่งในเกมอาเขตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ซึ่ง Sega สามารถขาย Out Run ในรูปแบบเกมตู้หยอดเหรียญไปได้ถึงกว่า 30,000 เครื่องภายในปีเดียว

34. Time Crisis (1995)

ช่วงยุคปลายของทศวรรษที่ 90 ’ s ต้องบอกว่าคือช่วง Golden Era อย่างแท้จริงของเกมอาเขตหรือเกมตู้ที่หลายคนเรียกกัน ซึ่งเกมแนว first-person gun shooting ก็ถือเป็นอีกแนวเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเวลานั้น และเกม Time Crisis คือหนึ่งในเกมที่โดดเด่นเหลือเกิน วัดได้จากจำนวนผู้เล่นที่เข้าคิวรอหยอดเหรียญเล่น ความเจ๋งของ Time Crisis คือระบบการเล่นที่นอกจากผู้เล่นจะต้องคอย re-load กระสุนแล้ว ยังต้องคอยกดแป้นที่เท้าเพื่อหลบเข้าที่กำบัง และยื่นออกมาเพื่อยิงคู่ต่อสู้ด้วยในเวลาเดียวกัน

35. The House of the Dead (1996)

พูดถึง Time Crisis แล้วไม่เอ่ยถึง The House of the Dead ต้องถือว่าเป็นเรื่องผิดพลาดร้ายแรงแน่ๆ เพราะนี่คือคู่ปรับในเกมแนว first-person gunman shooting ที่สมน้ำสมเนื้อที่สุดแล้ว ในขณะที่ Time Crisis อาศัยฉากหลังที่อ้างอิงจากโลกความเป็นจริง สวมบทเป็นตำรวจช่วยเหลือตัวประกัน The House of the Dead กลับแหวกแนวไปเป็นโลกของผีและปีศาจ โดยเราต้องรับบทเป็น Thomas Rogan ที่ต้องเข้าไปสืบสวนและต่อสู่กับเหล่าอมนุษย์ที่ถูกสร้างจากการทดลองของ Dr. Curien

36. International Superstar Soccer (1994)

จริงๆหลายคนอาจจะคุ้นมากกว่าหากบอกว่ามันคือเกม Jikkyou World Soccer : Perfect Eleven ซึ่งตัวเกมฟุตบอลนี้ถูกพัฒนาโดย Konami และอย่างที่หลายคนพอจะเดาได้ เกมฟุตบอลอาเขตเกมนี้คือต้นกำเนิดที่แท้จริงของ Winning Eleven หรือ Pro Evolution Soccer ที่ทุกคนรู้จักนั่นเอง

37. Winning Eleven (1995)

ย้อนไปเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน เชื่อว่าวลีอย่าง “ วินนิ่งไหมสาดดดดดด ” น่าจะก้องอยู่ในหัววัยรุ่นชายไทยเกือบทุกคน ก่อนจะมาถึงยุคของเน็ตคาเฟ่ ก็ต้องบอกว่ามันคือยุคทองของร้านเกมหลังมหาลัย เพราะมันคือจุดนัดพบของวัยรุ่นไทยหัวใจรักเกมและฟุตบอลทุกคน โดยภาคที่ถูกจัดว่าเป็นตำนานวงการเกมเมืองไทยก็คือ World Soccer Winning Eleven 6 International ที่ออกมาในยุคของ PS2

38. FIFA (1993)

จริงๆเกมฟุตบอล FIFA ถือกำเนิดมาก่อน Winning Eleven หรือ PES แต่กว่าที่เกมฟุตตอล FIFA จะได้เป็นรู้จักจริงๆคือ FIFA 97 และ FIFA : road to World Cup 98 โดยเฉพาะกับภาค Road to World Cup 98 น่าจะถือเป็นภาคที่ถูกจดจำมากสุดในประวัติศาสตร์ของเกม FIFA ส่วนนึงมาจากเพลงประกอบที่ติดหูวัยรุ่นทุกคนอย่าง Blur ของ Song 2 .. วู้ฮู้ววว !

39. NBA Jam (1993)

เกมบาสเกตบอลจากค่าย Midway ที่ร่วมพัฒนากับ Acclaim และ EA เกมนี้ได้ฉีกกฎเกมบาสเกตบอลทั้งหมดที่เคยมีมา เพราะรูปแบบการเล่นจะเป็นแบบ 2-on-2 และเน้นรูปแบบการเล่นที่รวดเร็ว เน้นการเล่นที่ดูเป็นแอคชั่นหน่อยๆ แถมยังเป็นเกมบาสเกตบอลเกมแรกที่ได้ลิขสิทธิ์การใช้โลโก้-ชื่อทีม และชื่อ-หน้าตาของผู้เล่น จาก NBA อีกด้วย

40. Street Fighter II (1991)

Street Fighter ภาคแรกออกมาในปี 1987 แต่แทบไม่มีใครจดจำหรือพูดถึงมันเท่าไหร่ ซึ่งตรงข้ามกับ Street Fighter II ที่ออกมาใน 4 ปีให้หลัง เพราะนี่ถือเป็นเกมที่เปิดศักราชใหม่ให้กับแนวเกมต่อสู้อย่างแท้จริง กระแสฟีเวอร์ของ Street Fighter II รุนแรงมาก ซึ่งขนาดที่ว่า Capcom ต้องทำเวอร์ชันอัพเดทตามออกมาอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Champion Edition ในปี 1992 / / The New Challenger ในปี 1993 ที่นอกจากจะมีการเพิ่มตัวละครเข้ามาแล้ว ยังมีการอัพเกรดคุณภาพกราฟฟิก พร้อมกับในระบบของเครื่องเกมอาเขต Street Fighter II เวอร์ชันนี้ยังเป็นเกมอาเขตเกมแรกที่ใช้ระบบใหม่อย่าง CP System II ด้วย / Super Street Fighter II Turbo ที่ออกมาในปี 1994 ซึ่งมีการเพิ่มตัวละครลับเข้ามา พร้อมกับระบบการใช้ท่าใหม่อย่าง super combos

41. Tekken 3 (1994)

เมื่อเดือนตุลาคมปี 2018 ที่ผ่านมา Bandai Namco เพิ่งฉลองยอดขายทะลุ 47 ล้านชุด ของแฟรนไชส์ Tekken ไปหมาดๆ โดยหากจะพูดถึงภาคที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทำยอดขายได้มากที่สุดก็ต้องเป็น Tekken 3 ที่ทำยอดขายไปได้กว่า 8.3 ล้านชุดทั่วโลก ทำให้ Tekken 3 กลายเป็นเกมต่อสู้ที่ขายดีที่สุดตลอดกาลอันดับสองของญี่ปุ่น เป็นรองแค่เพียง Super Smash Bros. Brawl ของ Nintendo เท่านั้น แค่นี้ก็น่าจะพอการันตีความน่าเล่นของเกมนี้ได้แล้ว

42. Mortal Kombat (1992)

ไม่มีเกมต่อสู้เกมไหนจะโหดเลือดสาด กระชากไส้ ดึงกระดูกสันหลัง สมองไหล ได้เท่ากับเกมในตระกูล Mortal Kombat อีกแล้ว โดยความสำเร็จและความนิยมของ Mortal Kombat เองก็ส่งผลให้ตัวเกมถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์ถึงสองครั้ง นั่นคือ Mortal Kombat ในปี 1995 และ Mortal Kombat : annihilation ในปี 1997 และถ้านับจนถึงปัจจุบัน Mortal Kombat มีเกมในแฟรนไชส์ออกมาแล้วด้วยกันมากถึง 23 ภาค และกำลังจะมีภาคที่ 24 ในชื่อ Mortal Kombat 11 ออกมาภายในปี 2019 นี้ด้วย

43. Resident Evil 2 (1998)

ที่สุดของตำนานเกมแอคชั่นสยองขวัญ กับเรื่องราวของตำรวจหนุ่มไฟแรงสุดซวยนามว่าลีออน ที่เผอิญเพิ่งย้ายเข้ามาประจำการยัง Raccoon City สองเดือนหลังจากเหตุการณ์ใน Resident Evil ภาคแรก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งเมืองเต็มไปด้วยเหล่าซอมบี้ที่เป็นผลจากการใช้อาวุธชีวภาพ โดย Resident Evil 2 ถือว่าเป็นเกมในแฟรนไชส์ Resident Evil ที่ขายได้มากที่สุด เฉพาะแค่บน PlayStation ก็ขายไปได้เกือบ 5 ล้านชุดแล้ว และยังเป็นภาคที่ถูกนำไปพอร์ตลงเครื่องเกมอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น PC, Nintendo 64, Dreamcast และ GameCube

44. F-Zero (1990)

เกมแข่งรถล้ำอนาคตนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจชั้นยอดให้เกมแข่งรถรุ่นหลังชื่อดังๆอย่าง Daytona USA และ Wipeout ความนิยมในตัวเกม F-Zero ในช่วงแรกไม่ได้เปรี้ยงป้างมากนัก แต่หนึ่งความสำคัญของ F-Zero คือ นี่ถือเป็นแรกในยุคของเครื่องซุปเปอร์แฟมิคอมที่ดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ภายในตัวเครื่องออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกับการใช้เทคนิคการจำลองสภาพแวดล้อมแบบ 3D เฉพาะตัวที่ Nintendo เรียนกว่า “ Mode 7 Scrolling ” .. นอกจากนี้ตัวเกมยังถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูนซีรีย์ในปี 2003 ในชื่อ F-Zero : GP Legend ซึ่งฉายทางทีวีโตเกียวด้วยความยาวมากถึง 51 ตอน

45. Daytona USA (1994)

จริงๆเกมนี้ถูกปล่อยออกมาที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1993 แต่หากจะนับช่วงเวลาความสำเร็จก็ต้องนับในปี 1994 ที่ตัวเกมได้ขยายสู่นอกประเทศญี่ปุ่น โดย Daytona USA ถือเป็นเกมอาเขตแข่งรถอีกเกมที่ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในเกมแข่งรถที่ดีที่สุดตลอดกาล ความพิเศษของ Daytona USA คือตัวเกมสามารถลิ้งค์ให้แข่งพร้อมกันได้สูงสุดถึง 8 เครื่อง มากกว่าเกมอาเขตแข่งรถใดๆในช่วงเวลานั้น

46. Gran Turismo (1997)

หนึ่งใน single bet on ของเครื่อง PlayStation ในเวลานั้น และถือเป็นหนึ่งในเกมแม่เหล็กที่ช่วยดึงดูดให้ผู้เล่นหลั่งไหลเข้าสู่จักรวาล PlayStation ได้เป็นอย่างดี ตัวเกมเองก็เป็นเกมแข่งรถปกติทั่วไป ความพิเศษอยู่ที่การที่ทาง Polyphony Digital เน้นพัฒนาให้มีความสมจริงให้มากที่สุด ซึ่งความสมจริงของ Gran Turismo นี่เองที่ทำให้มันถูกกล่าวขวัญว่าเป็นหนึ่งเกมแข่งรถที่เล่นยากที่สุดในประวัติศาสตร์เกม เพราะลำพังแค่ก่อนจะได้แข่งจริง ผู้เล่นหลายคนก็หัวร้อนปาจอยตั้งแต่ตอนสอบใบขับขี่แล้ว

47. Championship Manager (1992)

ขณะที่เกมฟุตบอลอื่นๆในท้องตลาดนำเสนอรูปแบบการเล่นในมุมมองของนักเตะในสนาม สองพี่น้องตระกูล Collyer อาศัยห้องนอนในเมือง Shropshire ประเทศอังกฤษ ในการสุ่มพัฒนาเกมจำลองสถานการณ์ให้ผู้เล่นสวมบทบาทเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ซึ่งน่าจะถือเป็นหนึ่งในความฝันของเหล่าแฟนๆฟุตบอลทั่วโลก ซึ่งภาคที่ทำให้เกม CM เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกก็น่าจะเป็น Championship Manager 97/98 ที่ออกมาในปี 1997 ซึ่งภาคนี้จะมีลีคให้เลือกเล่นมากถึง 9 ลีค ขณะภาคที่ยังนิยมและมีแฟนๆคอยทำอัพเดทรายชื่อนักเตะมาจนถึงปัจจุบัน ก็คือ CM 01/02 ที่ออกมาตั้งแต่ปี 2001 นู้นเลย

48. Civilization II (1996)

Civilization ภาคแรกถูกทำออกมาในปี 1991 แต่ภาคสองของแฟรนไชส์จะถือเป็นภาคที่ชื่อสร้างให้แฟนๆจดจำชื่อของ Civilization ได้มากที่สุด โดยนับเฉพาะ Civilization II อย่างเดียวก็ทำยอดขายทั่วโลกไปได้กว่า 3 ล้านชุดแล้ว นอกจากนี้นักวิจารณ์เกมจากหลายสำนัก ก็ได้ยกให้ Civilization II เป็นหนึ่งในเกมพีซีที่ดีที่สุดตลอดกาลอีกด้วย

49. Price of Persia (1989)

ตัวเกมดั้งเดิมถูกพัฒนาอยู่บนเครื่อง Apple II ก่อนจะถูกพอร์ตไปยัง MS-DOS และ Atari ในปีถัดมา ซึ่งนี่ถือเป็นเกม action-adventure ยุคแรกๆของอุตสาหกรรมเกมเช่นเดียวกัน ความพิเศษของเกม Prince of Persia เวอร์ชันแรกคือการพัฒนารูปแบบการเคลื่อนไหวของตัวเอกที่ใช้เทคนิคที่เรียกว่า rotoscoping ซึ่งเป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวที่อาศัยเทคนิคเดียวกับการทำภาพการ์ตูนเคลื่อนไหวในสมัยนั้น

50. Final Fantasy VII (1997)

เกมตระกูล Final Fantasy ถือเป็นเกมแนว RPG ระดับขึ้นหิ้งแทบทุกภาค แต่ภาคที่น่าจะถือว่าโด่งดังที่สุด ขายดีที่สุด ( ทำยอดขายได้เกือบ 10 ล้านชุด ) และตัวเอกเป็นที่นิยมที่สุด ก็คงต้องเป็น Final Fantasy VII นี่แหละ โดย Final Fantasy VII นี้ก็ถือเป็นภาคแรกของแฟรนไชส์ที่กราฟฟิคภายในเกมทั้งหมดเป็นแบบสามมิติ และแน่นอนว่าหากไม่ผิดพลาดอะไร ภายใน 1-2 ปีนี้ แฟนๆ Final Fantasy VII ก็น่าจะได้เล่นเวอร์ชัน remake แบบยกเครื่องใหม่ทั้งหมด เปลี่ยนเอนจิ้นที่ใช้ในการพัฒนามาเป็น insubstantial engine 4 แถม คะซุซิเงะ โนะจิมะ ที่รับหน้าที่เขียนบทให้กับภาค remake นี้ยังเปิดเผยมาแล้วด้วยว่า จะมีการเขียนเนื้อเรื่องใหม่ๆ เสริมเข้าไปในตัวเกมด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 50 เกมที่ทาง ReadAlert นำมาจัดอันดับกันในวันนี้ เราเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยผ่านตาผ่านมือกันมาไม่มากก็น้อย หรือบางคนก็อาจจะยังมีตลับเกมเหล่านี้วางอยู่เงียบๆ ในมุมหนึ่งของบ้านก็ได้

สำหรับยุคสมัยปัจจุบันที่ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปว่องไวราวกับความฝัน บางทีในวันที่เหนื่อยล้า ลองหยิบมันขึ้นมาเล่นดูสักหน่อย มันอาจจะไม่ได้จุดประกาย ต่อยอด หรือสร้างความสนุกสนานขั้นสุดให้กับคุณ แต่เราก็เชื่อว่ามันจะช่วยปลอบประโลมให้คุณยังพอมีแรงต่อสู้กับวันต่อไปได้ คล้ายๆกับได้รับการสวมกอดอย่างอบอุ่นของคนที่คุณคุ้นเคยในวัยเด็ก ?