เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 1. พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิทาจ (STATE HERMITAGE MUSEUM)
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิทาจ เป็นหนึ่งในสถานที่ห้ามพลาดในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่นี่มีคอลเลคชั่นภาพวาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1746 โดยแคทเธอรีนมหาราชินี ซึ่งต้องการสถานที่จัดแสดงงานศิลปะมากมายที่พระองค์ซื้อมาจากพ่อค้าในเบอร์ลิน พิพิธภัณฑ์เปิดให้คนเข้าชมในปีค.ศ. 1852 และปัจจุบันก็เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในโลกด้วย ( พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในปารีสใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง )
พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิทาจ ประกอบด้วยผลงานศิลปะมากกว่าสามล้านชิ้น หนึ่งในสามคือเหรียญและเงินตราต่างๆ โดยวัตถุที่จัดแสดงนั้นอยู่ในตึกสำคัญๆ โดยตัวอาคารหลักๆ ของพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่ The Palace Embankment หรือที่เรียกกันว่า Palace Square โดยมีทั้ง Winter Palace, Small Hermitage, Old Hermitage, New Hermitage และ โรงละครเดอะเฮอร์มิทาจ (The Hermitage Theatre) นอกจากนี้ยังมีของจัดแสดงอีกมากอยู่ในอาคารอื่นๆ ที่ตั้งอยู่รอบใจกลางเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
อาคารอื่นๆ ของพิพิธภัณฑ์
- General Staff Building, Palace Square
- Winter Palace of Peter 1, The Palace Embankment
- The Menshikov Palace, ตรงข้ามแม่น้ำเนวา ใกล้กับมหาวิทยาลัย Saint Petersburg State University
- Museum of the Imperial Porcelain Factory, Obukhovskoy Оborony Ave. 151 (ขับรถ 25 นาทีจาก Palace Square)
- The Staraya Derevnya Restoration and Storage Centre, Zausadebnaya Ulitsa, 37 (ขับรถ 15 นาทีจาก Palace Square)
ค่าเข้าชม พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิทาจ อยู่ที่ 600 รูเบิ้ล ( 700 ช่วงฤดูร้อน ) สามารถเข้าชมตึกหลักๆ ทั้งหมดของพิพิธภัณฑ์ ส่วนค่าเข้าชมในตึกอื่นๆ ( เช่น พระราชวังฤดูหนาว ) อยู่ที่ 300 รูเบิ้ล พิพิธภัณฑ์เปิดเวลา 10.30-18.00 น. ในวันอังคาร, พฤหัสบดี, เสาร์, อาทิตย์ และเวลา 10.30-21.00 น. ในวันพุธและศุกร์ พิพิธภัณฑ์ปิดทุกวันจันทร์ วันที่ 1 มกราคม และวันที่ 9 พฤษภาคม นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าฟรีทุกวันพฤหัสบดีที่ 3 ของทุกๆ เดือนด้วย
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 2. ชมพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ (PETERHOF GRAND PALACE)
พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ คือคำนิยามของคำว่าอลังการตระการตา เพราะคือพระราชวังที่เหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายยังไงยังงั้น ที่นี่ยังมีอีกชื่อเรียกว่า “ แวร์ซายแห่งรัสเซีย ” เพราะรูปแบบและความอลังการนั้นคล้ายกับพระราชวังแวร์ซายในฝรั่งเศส พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ตั้งอยู่ทางฝั่งชานเมืองทิศตะวันตกของเมือง เอลิซาเบธลูกสาวของพระองค์นั้นชื่นชอบพระราชวังแห่งนี้มากจนรับสั่งให้สร้างสวนขึ้นมารอบๆ และสร้างน้ำพุขนาดใหญ่ซึ่งทุกวันนี้ถือเป็นไฮไลต์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาที่พระราชวังแห่งนี้เลยทีเดียว
ตัวอาคารหลักของพระราชวังก็คือ Grand Palace ซึ่งด้านหน้าก็จะเป็น Grand Cascade หรือระบบน้ำพุที่ประกอบไปด้วยน้ำพุย่อยๆ อีก 150 สาย ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยก็ว่าได้ น้ำพุแต่ละสายนั้นมีธีมที่ต่างกันไป ส่วนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Samson Fountain, Roman Fountains และ Fontan Oranzhereynyy
รอบๆ พระราชวังยังมีสวนสวยๆ กว้างเกือบห้ากิโลเมตรที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเดินเล่นถ่ายรูป และมีพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ทั่วบริเวณพระราชวัง ดังนั้นขอแนะนำว่าควรมีเวลาอย่างน้อยสักครึ่งวันเพื่อจะสำรวจ พระราชวังปีเตอร์ฮอฟ ให้ครบ
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 3. พระราชวังแคทเธอรีน (CATHERINE PALACE)
อีกหนึ่งพระราชวังที่คุ้มค่าแก่การไปเที่ยวชมในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ก็คือ พระราชวังแคทเธอรีน พระราชวังฤดูร้อนของซาร์แห่งรัสเซีย ซึ่งตกแต่งในรูปแบบศิลปะโรโกโก พระราชวังตั้งอยู่ในพื้นที่พิพิธภัณฑ์ Tsarskoye Selo ในเมือง พุชกิน ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของใจกลางเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ไปประมาณ 30 กิโลเมตร พระราชวังมีการตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซีย ปัจจุบันพระราชวังมีสถานะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์เกือบ 300 ปี และแสดงผลงานของสถาปนิกผู้มีชื่อเสียงในช่วงยุคสมัยจักรพรรดินีเอลิซาเบธและแคทเธอรีนมหาราชินี
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของ พระราชวังแคทเธอรีน ก็คือห้องอำพัน ( Amber Room ) ซึ่งมักจะเรียกกันว่าเป็น “ สิ่งมหัศจรรย์ลำดับที่แปดของโลก ” เพราะภายในห้องประกอบด้วยอัญมณีและเฟอร์นิเจอร์ทองมากมาย แรกเริ่มห้องอำพันคือของขวัญจากกษัตริย์ปรัสเซียที่มอบให้แก่พระเจ้าปีเตอร์มหาราชในปีค.ศ. 1716 แรกเริ่มห้องนี้อยู่ในพระราชวังชาร์ลอตเตนบวร์ก ( Charlottenburg Palace ) ในเมืองเบอร์ลินในปัจจุบัน ก่อนจะถูกขนย้ายมาที่พระราชวังฤดูหนาว และจักรพรรดินีเอลิซาเบธก็สั่งให้ย้ายห้องมาที่ พระราชวังแคทเธอรีน ในปีค.ศ. 1755 ในช่วงการบูรณะ ห้องอำพันถูกตกแต่งด้วยอำพักหกตัน และหินล้ำค่าแปะแผ่นทอง ทั้งห้องนี้มีมูลค่าประมาณ 142-500 ล้านดอลล่าสหรัฐในปัจจุบัน
ห้องอำพันที่จัดแสดงอยู่ในปัจจุบันนี้ไม่เหมือนกับที่จักรพรรดินีเอลิซาเบธได้นำมาติดตั้งไว้ เพราะห้องดั้งเดิมได้ถูกนาซีขโมยไปและส่งไปเยอรมนีในปีค.ศ. 1941 และเชื่อกันว่าได้สูญหายไปในช่วงระเบิดในปีค.ศ. 1944 อย่างไรก็ตาม ห้องที่สร้างใหม่ในปัจจุบันนี้ก็มีค่าถึง 11 ล้านดอลล่าสหรัฐ และไม่ว่าใครที่ได้เห็น ก็คงต้องตื่นตะลึงในความงามของห้องนี้ไม่มากก็น้อยแน่นอน
ค่าเข้าชม พระราชวังแคทเธอรีน คือ 700 รูเบิ้ลสำหรับผู้ใหญ่ และ 350 รูเบิ้ลสำหรับนักเรียน เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.ในเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม และตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น.ในเดือนเมษายนถึงตุลาคม
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 4. โบสถ์แห่งหยดเลือด (SAVIOR ON THE SPILLED BLOOD CHURCH)
อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ก็คือการไปชม โบสถ์แห่งหยดเลือด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซีย จากรูปถ่ายอย่างเดียว โบสถ์แห่งหยดเลือด ก็สวยสะกดตาแล้ว ดังนั้นจึงควรค่าแก่การไปชมด้วยตาตัวเองสักครั้ง โบสถ์ก่อตั้งขึ้นในยุคสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 เพื่อระลึกถึงพระบิดาของพระองค์ซึ่งถูกปลงพระชนม์ในปีค.ศ. 1881 ตรงบริเวณที่ตั้งของโบสถ์ในปัจจุบัน
ใครที่อยากได้วิวมุมสวยๆ ของโบสถ์ทรงสวยแปลกตาแห่งนี้ก็ขอแนะนำให้ไปนั่งเรือล่อง คลองกริโบเอดอฟ (Griboedov Canal) และเข้าไปชมด้านในโบสถ์ที่มีกระจกสีประดับอัญมณีที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลกเลยทีเดียว ว่ากันว่าการตกแต่งอันวิจิตรของที่นี่เกิดงบประมาณไปถึงหนึ่งล้านรูเบิ้ล และโบสถ์นี้ใช้เวลาสร้างถึง 24 ปีจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์
ค่าเข้าชม โบสถ์แห่งหยดเลือด สำหรับผู้ใหญ่คือ 250 รูเบิ้ล ส่วนนักเรียนนักศึกษาเสีย 50 รูเบิ้ล เปิดให้เข้าชมทุกวันยกเว้นวันพุธตั้งแต่เวลา 10.30-18.00 น. ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนถึง 30 กันยายน โบสถ์เปิดจนถึงเวลา 22.30 น .
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
Read more: The MMS Institute Thailand
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 5. ป้อมปีเตอร์และพอล (PETER AND PAUL FORTRESS)
ป้อมปีเตอร์และพอล เป็นทั้งสุสาน โบสถ์ และคุกในคราวเดียวกัน ป้อมแห่งนี้คือสถานที่เที่ยวดาวเด่นบนแม่น้ำเนวาในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเป็นส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การเมืองของรัสเซีย (The Museum of Political History of Russia) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลป้อมแห่งนี้และบริเวณรอบๆ ยกเว้น โรงกษาปณ์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (Saint Petersburg Mint) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับป้อม
บริเวณตรงส่วนกลางของป้อมคือที่ตั้งของ วิหารปีเตอร์และพอล (Peter and Paul Cathedral) ซึ่งมีหอระฆังสูง 402 ฟุตอยู่ด้านบน โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1712-1733 ถูกใช้เป็นสถานที่ฝังศพของซาร์รัสเซียทุกพระองค์ยกเว้นพระเจ้าปีเตอร์ที่ 2 และอิวานที่ 6 และยังเชื่อมกับสุสาน Grand Ducal Mausoleum ซึ่งขยายจากโบสถ์ในระหว่างปีค.ศ. 1896-1908 และใช้เป็นสถานที่ฝังศพสมาชิกราชวงศ์โรมานอฟที่ไม่ได้ครองราชย์ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถูกฝังอยู่ในวิหาร
นักท่องเที่ยวยังสามารถไปชมคุก Trubetskoy Bastion Prison ที่เคยคุมขังนักโทษการเมืองตั้งแต่ปีค.ศ. 1872-1921 ไปเดินดูห้องขัง 69 ห้อง และดูว่านักโทษนั้นใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างไร และมีนักโทษกี่คนที่ถูกประหารชีวิตในที่สุด
ใกล้ๆ กันกับคุกคือ โรงกษาปต์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งยังคงมีการใช้งานอยู่และเปิดให้คนเข้าชม ใครที่มาถึงป้อมก่อนเที่ยงสามารถชมการยิงปืนใหญ่ประจำวันทางกำแพงทิศใต้ที่มองเห็นวิวแม่น้ำเนวาได้ด้วย
ป้อมปีเตอร์และพอล เปิดให้เข้าชมทุกวันพฤหัสถึงวันอังคาร เวลา 10.00-16.00 น. ปิดทุกวันพุธ ค่าเข้าชมอยู่ที่ 750 รูเบิ้ลสำหรับผู้ใหญ่ และ 400 รูเบิ้ลสำหรับนักเรียนนักศึกษา
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 6. อาสนวิหารนักบุญไอแซค (ST. ISAAC’S CATHEDRAL)
บริเวณริมแม่น้ำเนวาแถวพาเลซสแควร์คือที่ตั้งของ อาสนวิหารนักบุญไอแซค แม้ที่นี่จะถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงต่างๆ ของปี แต่ส่วนใหญ่แล้วถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ปีค.ศ. 1931 เมื่อรัฐบาลโซเวียตประกาศสถานะให้เป็นพิพิธภัณฑ์ อาสนวิหารนักบุญไอแซค มีความโดดเด่นด้วยโดมสีทอง และการตกแต่งอย่างละเอียดสวยงาม นักท่องเที่ยวยังสามารถขึ้นไปบนโดมเพื่อชมวิวรอบทิศของเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และแม่น้ำเนวาได้ด้วย
แบบการสร้าง มหาวิหารนักบุญเซนต์ไอแซค เริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 1818 แต่การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1858 ซึ่งในช่วงการก่อสร้างก็มีการตกแต่งเสริมเพิ่มเข้ามา และส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือแผ่นทอง 100 กิโลกรัมที่ใช้ปิดตัวโดมซึ่งสูงถึง 21.8 เมตร เหนือฟากฟ้าของเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 7. สถานีรถไฟใต้ดินในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (ST. PETERSBURG METRO)
เมื่อการก่อสร้างระบบรถไฟใต้ดินในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ. 1955 ก็ได้มีการให้ความสำคัญกับความสวยงามพอๆ กับความสะดวกสบาย ปัจจุบันนี้เจ็ดสถานีแรก ( สถานีที่แปดเปิดในปีค.ศ. 1956 ) ก็ยังคงดึงดูดผู้คนให้มาชมมากพอๆ กับการใช้โดยสารเลยก็ว่าได้ รถไฟใต้ดินในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มีสถานีรถไฟใต้ดินที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยสถานีที่ลึกที่สุดคือสถานี Admiralteyskaya วัดความลึกได้ 86 เมตรจากระดับพื้นดิน แม้ว่าจะมีการพัฒนาขยายสถานีเพิ่มมากขึ้นในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา แต่การตั้งใจแวะเที่ยวชมความงามของสถานีสำคัญต่างๆ ในสายสีแดงก็ยังคงเป็นกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวในเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อยู่ดี
สถานีรถไฟใต้ดินสำคัญๆ ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (สายสีแดง)
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เที่ยวเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก | 8. เรือลาดตระเวนออโรร่า (CRUISER AURORA)
เรือลาดตระเวนรัสเซียออโรร่า คือหนึ่งในเรือลาดตระเวนชั้นพัลลดาสามลำของกองทัพเรือจักรวรรดิรัสเซียในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ที่ใช้ในสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น มีเพียงเรือออโรร่าเท่านั้นที่รอดมาจากสงคราม เรือลำนี้ยังเคยใช้ยิงส่งสัญญาณการโจมตีพระราชวังฤดูหนาวในปีค.ศ. 1917 ด้วย
ปัจจุบันเรือออโรร่าได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำอยู่ที่ชายฝั่งริมแม่น้ำเนวา เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเรือ เรื่องราวการต่อสู้ของเรือ และบทบาทของเรือในช่วงการปฏิวัติในเดือนตุลาคม เรือออโรร่า คือเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพเรือรัสเซีย และยังคงมีลูกเรือประจำการคอยปฏิบัติงานอยู่ด้วย
เรือออโรร่า เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-18.00 น. ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร มีค่าเข้าชม 600 รูเบิ้ลสำหรับผู้ใหญ่ และ 400 รูเบิ้ลสำหรับนักเรียนนักศึกษา
ค้นหาที่พักราคาดีที่สุดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
Read more: France national football team
This post is besides available in : english