wandering man, It’s not wander trip # One Short
rate : PG
pair : Chris X Tom
Contact me Twitter : hypertext transfer protocol : //twitter.com/Kmbhp
Facebook : hypertext transfer protocol : //www.facebook.com/kakamew.boo
* ฟิคเรื่องนี้ ถูกแต่งขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิง ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้บุคคล ดารา นักแสดงที่ถูกกล่าวถึงเสียหาย หรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแต่อย่างใด ทั้งสถานที่ ระยะเวลา และบุคคลต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งเเละสื่อที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิง เเละไม่สามรถนำมายึดเป็นหลักความจริงใดๆได้ทั้งสิ้น *
Have fun ?
…………………………………………………………………………………
‘ ชีวิต ’ กับ ‘ หนัง ’ ต่างกันอยู่หน่อย ตรงที่หนังมีตอนจบ แม้จะเป็นภาคต่อ ในขณะที่ชีวิต กลับเป็นภาคต่อ ที่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่สิ้นสุด
หลายครั้งที่เรื่องธรรมดาของหนังชีวิต คือ การไม่มีตอนอวสาน …..
.
.
.
.
07 : 36 p.m .
“ บริการฝากข้อความเสียง กรุณาฝากข้อความไว้หลังได้ยินเสียงสัญญาณ ตื๊ด …. ”
“ ฮัลโหล ทอม เป็นยังไงบ้าง ? เอ่อ …. ถ้าได้รับข้อความแล้ว ช่วยโทรกลับหน่อยนะ บาย รักนะ ”
เมื่อจบประโยคที่พูดไปร่างสูงก็ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมมากนัก มือหยาบเพียงขยับเลื่อนลงเล็กน้อย วางโทรศัพท์ของตนลงที่พื้นที่ว่างของโซฟาข้างตัว
ซักอาทิตย์หนึ่ง ก็ว่านานแล้ว …. แต่นี่มันตั้ง 2 อาทิตย์กว่าที่ อีกฝ่ายไม่ได้ติดต่อมาเลย อย่าว่าแต่โทรเลยเผลอๆจะไม่เห็นข้อความที่ฝากไว้ด้วยซ้ำ
“ ฮื่อ ~~~ ” เสียงทุ้มพ่นลมหายใจออกเหนื่อยหน่าย เอนหลังพิงพนักโซฟานุ่ม เงยหน้ามองเพดานห้องว่างๆที่ไม่มีอะไรน่าสนอกสนใจเลยซักนิด
‘ ทำอะไรอยู่ ? ’ ‘ กินข้าวหรือยัง ? ’ ‘ จะกลับเมื่อไหร่ ? ’ และ ‘ คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า ? ’ คือ คำถามที่ ณ ตอนนี้ คริสต้องการคำตอบจากคนรักมากที่สุด ถ้าแค่เพียงได้คุยกันบ้างซักประโยค เขาคงสดชื่นกว่านี้มากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
*****
08:22 a.m .
“ ฮ้าว ~~~ ” เสียงทุ้มอ้าปากหาวหวอด หลังจากลุกขึ้นนั่งบนเตียงแบบมีสติได้แล้ว นึกขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้เขามีงานช่วงบ่าย
บิดขี้เกียจอีก 2-3 ที ขยี้ตาหน่อย ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมาตรวจเช็คดู เผื่อว่าจะมีข้อความ หรือ สายที่ไม่ได้รับ บันทึกเอาไว้บ้าง
ข้อความเข้า : 0
สายที่ไม่ได้รับ : 0
“ โอเค ไม่มีสินะ ” เสียงทุ้มบอกกับตัวเองเรียบๆ ถอนหายใจอีกเฮือกแล้วหยัดตัวลุกขึ้นจากเตียงไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน
‘ นี่อาจจะยังเช้าไป หรือ ไม่กำลังทำงานอยู่ก็ได้นี่น้า ….. ใช่ ไม่มีอะไรให้กังวลหรอก ’
ดวงตาสีฟ้ามองดูเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกระหว่างที่แปรงฟันไปด้วย จนกระทั่งแปรงฟันเสร็จแล้วจึงเก็บแปรงเข้าไปวางในชั้นสแตนเลสสีเงินวาว ก่อนจะออกจากห้องน้ำถึงได้เหลือบมองมันหน่อยหนึ่ง และรู้สึกโหวงเหวงคนเดียวในใจว่า แปรงสีฟันที่วางอยู่อันเดียวโดดๆนี่มันดูเหงาชอบกล
*****
12:52 p.m .
‘ ภาพล่าสุด ของทอม ฮิดเดิลสตัน หลังเสร็จงานจากกองถ่าย โบกมือทักทายและถ่ายรูปกับแฟนคลับ ’
คริสกลอกตาอ่านหัวข้อข่าวเร็วๆ ก่อนจะเลื่อนเมาส์ลงเพื่อดูรูปจากหัวข้อข่าวอย่างตื่นเต้นปนดีใจ แผ่นหลังหนาที่นั่งหยัดตรงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะค้อมลงเล็กน้อยอย่างจดจ่อ
ด้านล่างปรากฏรูปร่างบางที่แสนคุ้นตา ในชุดเสื้อยืดสีฟ้ากับแจ็คเก็ตหนังสีดำที่เจ้าตัวมักจะพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ กำลังยืนถ่ายรูปกับแฟนคลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม สนุกสนาน และภาพอื่นๆกว่า 10 รูปจากทั้งหมดนั้นก็มีส่วนประกอบไม่ต่างกันนัก คือ ทอม, แฟนคลับ, และ สีหน้ายิ้มแย้ม
“ ฮ่ะๆๆ ” คริสเผลอหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าร่างบางในรูปทำหน้าตาทะเล้น ตอนที่ถ่ายรูป ซึ่งมันก็น่ารักเอามากๆ บอกตามตรง เขาน่ะ อิจฉาแฟนคลับพวกนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ ถ้างานเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้านซักทีสิ ดื้อเอ้ย ! ” บ่นอีกฝ่ายอยู่คนเดียว แล้วก็เผลอยิ้มออกมาคนเดียวอีกรอบ คริสเอี้ยวตัวไปหยิบเครื่องมือสื่อสารสีดำสนิทของตนขึ้นมา ก่อนจะทำสิ่งเดิมที่ทำซ้ำๆมากว่า 2 อาทิตย์แล้ว
“ บริการฝากข้อความเสียง กรุณาฝากข้อความไว้หลังได้ยินเสียงสัญญาณ ตื๊ด …. ”
“ เฮ้ ทอม งานเสร็จแล้วใช่มั้ย ? ฉันไม่ได้เร่งนะ คือ ฉันก็แค่แบบ เอิ่ม เห็นในข่าวนะ อืม ใช่ นั่นแหละ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็…อย่าเที่ยวเพลินล่ะ 2 อาทิตย์มันนานนะจะบอกให้ รีบกลับได้แล้ว บาย ”
เสียงทุ้มตะกุกตะกัก แม้จะเป็นเพียงแค่การฝากข้อความเสียง ที่ไม่ได้พูดคุยกับเจ้าของโทรศัพท์ แต่เขาก็อดไม่ได้จะประหม่า คริสไม่อยากจะเร่งให้ทอมไม่สบายใจหรือลำบากใจเลย ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากมีความอดทนกว่านี้อยู่เหมือนกัน
*****
10 : 17 p.m .
จะว่าไปแล้วการอยู่คนเดียวก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน ตรงที่ไม่ต้องมาคอยกลัวว่าอีกฝ่ายจะรอถ้าเขากลับดึก ไม่ต้องฟังเสียงบ่นกระเง้าจะงอด เมาจนหัวราน้ำเท่าไหร่ก็ได้ ไม่ต้องง้อใคร ที่ไม่พอใจเวลาเขาออกไปดื่มกับเพื่อนๆ ไม่ต้องรู้สึกผิดกับความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้เท่าไหร่
….. หรือ อีกนัยหนึ่ง คือ ไม่ต้องอยากกลับบ้าน เพราะไม่มีใครรอยู่
ร่างสูงเดินเตร็ดเตร่อยู่บนถนนแถบชานเมืองอย่างเรื่อยเฉื่อย ถึงแม้จะดูแปลกแยกจากคนเดินถนนธรรมดาอยู่ไม่น้อย ด้วยส่วนสูงและช่วงไหล่กว้างบึกบึน แต่คงเพราะความมืดของท้องฟ้า ผนวกกับผู้คนที่พลุกพล่าน เขาจึงไม่เป็นที่สังเกตเท่าไหร่
มือใหญ่ขยับหมวกแก๊ปที่ตนสวมอยู่หน่อยหนึ่งให้มันเข้ารูปแล้วแน่นขึ้น ปกปิดเรือนผมสีทองสว่างของตนก่อนจะออกเดินต่อไปเรื่อยๆ สายตาเลื่อนลอย มองดูร้านค้าและสถานบันเทิง คละเคล้ากับแสงไฟวาวระยับตัดกับสีท้องฟ้ายามค่ำคืน ทั้งๆที่มีโอกาสเต็มที่ แต่ก็แปลกดี ที่เขาไม่อยากเที่ยวซักเท่าไหร่
“ ฮู่ว ” ปากหยักพ่นลมหายใจออกมา เกิดเป็นกลุ่มควันขาวสีจางที่ลอยฟุ้งอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆหายไป เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว และคริสก็แอบรู้สึกว่าปีนี้จะต้องหนาวกว่าปีก่อนๆแน่ แล้วยิ่งกับคนที่เป็นภูมิแพ้ ป่วยง่าย คงลำบากไม่น้อยเลยสำหรับปีนี้
คนเป็นภูมิแพ้ ป่วยง่าย ทางนู้น …. คงรู้ตัวนะ ว่าต้องใส่เสื้ออุ่นๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ปากหยักยกยิ้มนิด ๆ ก้มหน้าลง ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ไม่ลังเลเลยซักนิดที่จะทำสิ่งเดิม
“ บริการฝากข้อความเสียง กรุณาฝากข้อความไว้หลังได้ยินเสียงสัญญาณ ตื๊ด …. ”
“ สวัสดีอีกรอบ ฉันรู้ว่าฝากข้อความไปแล้วเมื่อเช้า พอดีตอนนี้ฉันพึ่งนึกอะไรออก ก็เลยโทรมาอีกรอบ ทางนั้นหนาวหรือเปล่า ? นิวยอร์กชักหนาวแล้วล่ะ ใส่เสื้ออุ่นๆ แล้วก็ถ้าเกิดป่วยขึ้นมาก็อย่าลืมหายากินให้ตรงเวลาด้วยรู้มั้ย ? อืม …. ไม่มีอะไรแล้วล่ะ บาย ”
คริสกดวางสาย เม้มปากเข้าไปอย่างอดทนอดกลั้น นี่ไม่ใช่เวลามาฟุ้งซ่านเลย เขาควรรีบกลับบ้าน อาบน้ำนอน หรือ ไม่ก็ฝากข้อความถึงทอมอีกซักรอบ
*****
01 : 47 a.m .
‘ การนอนไม่หลับ ทำให้มนุษย์ฟุ้งซ่าน ’ ในทางกลับกัน ‘ อาการฟุ้งซ่าน ก็ทำให้มนุษย์นอนไม่หลับ ’
ทั้งหมด คือ ข้อสรุป ที่คริสพึ่งตระหนักได้เดี๋ยวนี้เองว่า ไม่มีความจริงข้อไหนจะถูกต้องไปกว่าที่กล่าวมา ร่างสูงในชุดเสื้อกล้ามสีเทากับกางเกงนอนได้แต่พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง หรือไม่ก็เงยหน้ามองเพดานมืดๆที่ว่างเปล่า อย่างนี้มากว่าชั่วโมงแล้ว และมันกำลังจะทำให้หัวเขาระเบิด
คริสรู้สึกในหัวมันมีเรื่องให้ทบทวนเยอะแยะไปหมด ทั้งเรื่องที่ผ่านมาแล้ว และ ที่กำลังจะเกิดขึ้น หลายอย่างแว่บเข้ามาและผ่านไปอย่างรวดเร็วซะจนเขาจับต้นชนปลายไม่ถูก เหมือนเวลาที่ทอมแย่งรีโมทโทรทัศน์เขาไปเปลี่ยนช่องอย่างไรอย่างนั้น
เขาคิดถึงเพลงช้า … บทละครเชคสเปียร์ … แฮมเล็ต … การ์ตูนดิสนีย์ เรื่อง เมาคลี ลูกหมาป่า … สีเขียว สีดำ … เสื้อยืดสีฟ้า … ชาเอิร์ล เกรย์ …. เขากำลังคิดถึงอะไรอยู่นะ ?
‘ อ๋อ ใช่ …… ทอม ฮิดเดิลสตัน ’
คริสถอนหายใจอีกรอบ พลิกตัวมองดูพื้นที่ว่างข้างตัว หลายครั้งที่เขานอนไม่หลับ เขามักจินตนาการว่าถ้าทอมอยู่ตรงนี้ด้วย จะตัวจะพูดว่าอะไรนะ ? มือใหญ่ดึงโทรศัพท์ที่ชาร์จอยู่หัวเตียงออก และ ไม่ต้องถามเลยว่าเขากำลังจะทำอะไร
“ บริการฝากข้อความเสียง กรุณาฝากข้อความไว้หลังได้ยินเสียงสัญญาณ ตื๊ด …. ”
“ อืม …. ขอโทษนะ ฉันรู้ว่านี่มันดึกแล้ว แต่ว่า ฉันนอนไม่หลับเลยทอม และฉันจะดีใจมากถ้าทอมโทรกลับมา หรือ ฝากข้อความไว้ซักหน่อย ฉันจะไปละ ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก บาย ”
คืนนั้น จะเรียกว่าไม่ได้นอนทั้งคืนก็คงจะไม่ผิดนัก เรื่องมากมายที่เข้ามาในสมองทำให้คริสข่มตาหลับไม่ได้ แต่ก็ลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหวเหมือนกัน ประโยคหนึ่งที่เขาเคยพูดกับทอมเมื่อนานมาแล้วแว่บเข้ามา
‘ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หรือ อยู่ห่างกันบ้างก็ได้ ’
นั่นคือ ประโยคที่คริสพูดกับทอมหลังจากที่ทั้งคู่ตกลงปลงใจจะคบกัน ตอนนั้นอีกฝ่ายไม่ได้ตอบรับออกมาเป็นคำพูดจริงจังนัก มีแค่ปากบางที่ระบายยิ้มนิดๆและเรือนผมสีน้ำตาลที่พยักหน้าลงหน่อยหนึ่ง
มันก็แปลกอีกนั่นแหละ ที่ตอนนั้น คริสมองว่าประโยคที่พูดไปเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ ด้วยหน้าที่การงานและอาชีพของพวกเขา มันไม่เข้าท่าเลยที่ยึดใครคนใดคนหนึ่งไว้ตลอดเวลา แต่ ณ ตอนนี้ เขากลับรู้สึกอยากกลับคำ ที่เคยพูดไว้เหลือเกิน
*****
“ เอาล่ะ … คัท ! วันนี้พอแค่นี้ล่ะ ขอบคุณมาก ” เสียงผู้กำกับที่เฝ้าหน้าจอมอนิเตอร์ประกาศออกมา ทุกคนหันไปมองตามและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะร้องเฮออกมาเสียงดังพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ โอเค เลิกกองแล้วๆ นักแสดงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องด้านซ้ายได้เลยนะคะ ส่วนพวกเอ็กตร้าเชิญทางขวานะคะ ” หญิงสาวร่างบาง ผู้ช่วยผู้กำกับบอกกับนักแสดงทุกคน ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนคงจะพร้อมใจทำตามอย่างว่าง่าย เว้นเสียแต่คนหนึ่ง … .
“ ทอม ! ทำไมยังไม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก ” ลุค ผู้จัดการของดาราชื่อดังถามกึ่งดุ คนที่ถูกเรียกชื่อเพียงหัวเราะนิดๆ
Read more: Wikipedia
“ คนเยอะจะตาย ขอฉันนั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนแล้วกัน ” ปากบางยิ้ม ตบที่พื้นหญ้าข้างตัวนิดหน่อยเป็นเชิงชวนให้ลุคมานั่งด้วย ลุคถอนหายใจแล้วส่ายหน้าอย่างไม่ร่วมด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ขัดขวางการกระทำของทอม
“ ถ่ายซ่อมวันนี้เสร็จแล้ว เราจะย้ายไปถ่ายอีกเมืองเลยใช่มั้ย ? ” ทอมเอ่ยถามออกมาหลังจากนั่งเงียบมันพักหนึ่ง ลุคครางอืมเหมือนกำลังคิดคิดอะไรอยู่ ก่อนจะตอบ
“ อืม … น่าจะอย่างนั้นแหละมั้ง ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วนี่ ส่วนที่จะย้ายไปอีกเมืองนึง ก็ต้องอยู่ถ่ายกันนานเชียวแหละ ” คุณผู้จัดการว่าพลาง ปิดกระเป๋าหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“ ที่ว่านานนี่ นานขนาดไหน ? ” ทอมถาม โดยที่ไม่ได้หันไปมองลุค
“ ก็เกือบเดือนเลย นี่ ที่ถามแบบนี้ ใจคอจะไม่อ่านตารางเวลาเลยหรือไง ? ” ลุคบ่นอย่างมาจริงจังนัก เปิดประเป๋าใบเดิมแล้วหยิบสมุดตารางเวลาส่งให้ทอม มือบางรับมาถือไว้แต่ไม่ได้เปิดอ่านหรอก
“ เดือนนึงนี่นานเหมือนกันเนอะ ” เสียงเพราะตั้งข้อสังเกตขึ้นมาประโยคหนึ่งแล้วเงียบหายไป ลุคถอนหายใจ ยืนมองแผ่นหลังเรียบที่นั่งอยู่ด้านหน้าอย่างครุ่นคิด ในฐานะผู้จัดการ เขาไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้ว แต่ในฐานะเพื่อน เขาก็พอรู้อยู่ว่าควรจะพูดอะไร
“ แต่มันก็ไม่ใช่ซีนของเราทั้งหมดนี่ เอาอย่างนี้มั้ย ? ให้ฉันไปคุยกับผู้กำกับดู ว่าเราจะกลับกันก่อน แล้วพอถึงซีนที่ทอมต้องเล่น เราก็ค่อยบินมาอีกที แบบนี้น่าจะดีกว่านะ ว่าไง ? ” ลุคเสนอ ทอมส่ายหน้าและยิ้มออกมาอ่อนๆ
“ อย่าดีกว่า มันวุ่นวาย แล้วก็ดูน่าเกลียดด้วย คนอื่นอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ได้สิ ” ร่างบางหันมาให้เหตุผลของเขาบ้าง ลุคเม้มปาก ปฏิเสธไม่ได้ว่าทอมพูดถูก
“ ในเมื่อเก็บกระเป๋ามาอยู่กันได้ตั้งนานขนาดนี้แล้ว จะทำครึ่งๆกลางๆได้ยังไง ” ดวงตาวาวประกายสีเขียวฉายแววสดใส ปากบางยิ้มออกมาอย่างทะเล้น ลุคแค่พยักหน้ารับ แม้จะไม่สบายใจอยู่ แต่เมื่อทอมตัดสินใจแล้ว เขาก็ไม่อยากขัด
“ ชีพจรลงเท้าขนาดนี้ ทางนั้นจะงอนเอานะ จะไม่ให้ฉันไปคุยกับผู้กำกับจริงๆเหรอ ? ” ลุคแกล้งกระเซ้าแหย่ ทอมหัวเราะออกมา เป็นที่รู้กันว่า ‘ ทางนั้น ’ ที่ว่านั่น คือ ใคร
“ เลิกแซวเลยๆ นอกเรื่องแล้ว ลุค ” ทอมบอกแล้วตีแขนผู้จัดการที่เป็นทั้งเพื่อนของตนเบาๆ ลุคหัวเราะร่า ก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าอีกรอบแล้วส่งให้ทอม
“ เอ้า ! ฉันให้คนไปซ่อมมาให้แล้ว นานไปหน่อยนะ ขอโทษที ” ในมือเรียวได้รูปนั้น ปรากฏเครื่องมือสื่อสารขนาดเกือบๆ 5 นิ้ว ในสภาพที่หน้าร้าวเป็นทางยาว และฝาด้านหลังก็ถลอกเป็นรอย
“ อืม ขอบคุณนะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้วุ่นวาย ” ทอมยิ้มให้ลุค
“ ไม่เป็นไร คราวหน้า คราวหลังก็อย่าโยนมันลงมาจากบันไดอีกล่ะ ” ลุคเหน็บ ทำเอาทอมหัวเราะขำออกมาอีกรอบ
“ ฉันไม่ได้โยน มันลื่นหลุดมือต่างหาก ” ทอมเถียงพลางพยายามเปิดโทรศัพท์ ถึงหน้าจอมันจะร้าวเป็นทาง แต่ก็นับว่าโชคดีจริงๆที่หลังจากเอาไปซ่อมมันก็ยังใช้ได้อยู่
ข้อความเข้า : 49 ข้อความ
สายที่ไม่ได้รับ : 26 สาย
ดวงตาสีเขียวเบิกกว้าง และอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ และหลังจากตรวจดูอีกรอบดีแล้วถึงได้รู้ว่ากว่า 90 % ของข้อความเสียงและสายที่ไม่ได้รับคือ แฟนของเขาเอง ‘ คริส ’
“ หะ ! ! ! ” เสียงหวานเผลออุทานออกมาอย่างตกใจ ลุคหันมาทางทอมก่อนจะถามอย่างเป็นห่วง
“ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ทอม ? ” ลุคถาม แต่เมื่อเหลือบไปเห็น คุณผู้จัดการที่รู้งานจึงขอเลี่ยงออกมาตามมารยาท
“ อ๋อ อื่ม งั้นเล่นโทรศัพท์ไปพลางๆก่อนนะ ฉันจะไปดูทางนู้นซักหน่อย ” ลุคหลบฉากออกไปในที่สุด ทอมถึงได้เริ่มเลื่อนลงและกดฟังข้อความเสียงทั้งหมด
“ ถึงโรงแรมแล้วโทรหาฉันด้วยนะ บาย ”
“ ฮัลโหลๆๆ เจ้าชายนิทราตื่นได้แล้ว ไปถึงโรงแรมดึกเหรอ ? ช่างเถอะ ถ้าได้รับข้อความแล้วโทรกลับด้วยนะ ”
“ โทรศัพท์แบตหมดหรือยังไง ? ทำไมไม่โทรกลับ เหอะ โกรธแล้วนะโว้ย ”
“ โอเค ช่างมันเถอะ ไม่โกรธก็ได้ ทำอะไรอยู่ ? ทำไมไม่รับสายฉัน ทอม ”
“ โทมัส วิลเลี่ยม ฮิดเดิลสตัน …. เปล่า ไม่มีอะไรหรอก ฉันคิดถึงทอมนะ ”
และอีกกว่า 10 ข้อความเสียงที่ทอมพึ่งจะได้เปิดฟังเมื่อกี้ ไม่มีเสียงอะไรออกมาจากปากบางเลยแม้ซักคำ ร่างเพรียวเพียงนั่งเงียบๆ และฟังข้อความเสียงพวกนั้นซ้ำไปซ้ำมาด้วยความรู้สึกที่สั่นไหวจนกระทั่งมาถึงข้อความสุดท้ายที่ทำให้หัวใจของทอมแทบดับวูบ
“ อืม …. ขอโทษนะ ฉันรู้ว่านี่มันดึกแล้ว แต่ว่า ฉันนอนไม่หลับเลยทอม และฉันจะดีใจมากถ้าทอมโทรกลับมา หรือ ฝากข้อความไว้ซักหน่อย ฉันจะไปละ ช่างเถอะ ไม่มีอะไรหรอก บาย ”
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่หยุดน้ำใสๆเริ่มก่อตัวขึ้นที่ดวงตาวาวใส พวกมันร้อยเรียงกันเป็นแนวเส้นยาวที่แก้มของเขาอย่างห้ามไม่ได้ เสียงใสสะอื้นเบาๆ ปากบางเม้มเข้าพยายามจะหลบซ่อนสุ่มเสียงอันไม่พึงประสงค์ของตนให้พ้นจากสายตาคนรอบตัว
“ ฮัลโหล คริส …. โถ่ คริส รับสายสิ รับสายๆๆๆ ” เหมือนแกล้งกัน คราวนี้เป็นคริสเองที่ไม่ได้รับสายของทอม มันก็คงจะเป็นเรื่องธรรมดาอย่างนี้ ที่เมื่อไม่มีคนรับสาย เสียงอัตโนมัติก็จะดังขึ้นแทน
“ บริการฝากข้อความเสียง กรุณาฝากข้อความไว้หลังได้ยินเสียงสัญญาณ ตื๊ด …. ”
“ คริส ! นี่ฉันเองนะ ขอโทษจริงๆที่ไม่ได้ตอบข้อความเลย คือ ฉันทำโทรศัพท์ตก เลยต้องเอาไปซ่อมตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาเลย ฉันขอโทษนะคริส ขอโทษ ฮึ่ก … ฮึ่ก …. ฉัน ฉัน ชอบเราอยู่ด้วยกันมากกว่า อย่าไปเลยนะ ”
“ ฉันอาจจะขอมากไป แต่ถ้านายเมตตาหลังจากได้รับข้อความแล้ว โทรกลับฉันหน่อยนะ คริส ฉัน … ขอร้อง ”
จบประโยคของทอม สัญญาณบันทึกเสียงอัตโนมัติก็ดับลงพร้อมกับระบบวางสายที่ทำงานปะติดปะต่อกัน ร่างบางได้แต่นั่งนิ่งไม่ได้ขยับ ร้องไห้ และ ก้มหน้าซ่อนน้ำตาของตนเอาไว้เงียบๆคนเดียว
กว่า 20 นาทีที่ผ่านไป ไม่มีสัญญาณใดตอบกลับจากโทรศัพท์ของทอม ร่างบางร้อนรน กระวนกระวายใจ แต่ก็รู้ซึ้งและสำนึกผิดดีว่า คริสคงจะรู้สึกแย่กว่าตนเป็นร้อยเท่า กับช่วงเวลา 2 อาทิตย์กว่าๆที่ผ่านมา คริสคงเป็นห่วงแต่เรื่องของเขามาตลอดเลย
คำพูดสุดท้ายของข้อความที่คริสฝากไว้ยังดังก้องอยู่ในหัวเขาไม่ยอมหยุด เหมือนแผ่นเสียงตกร่องที่จะเล่นซ้ำๆแค่เพลงท่อนเดิม
‘ จะไปแล้ว…. ’
“ ไม่คริส อย่าไปเลย ” เสียงหวานพูดออกมาแผ่วเบา แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ยิน แต่ทอมก็อยากให้คริสรู้สึกและเข้าใจสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ในหัวของทอมมีแต่ประโยคและคำพูดมากมาย ที่ไม่รู้ว่าเมื่อบอกอีกฝ่าย เขาจะเห็นใจหรือเปล่า
.
.
.
.
‘ ขอโทษ …. ที่ฉันเป็นแค่นักเดินทาง เรื่องราววันข้างหน้าจะยังไง ? ความรักของพวกเราจะไปรอดหรือเปล่า หลังจากวันนี้ ? ’
‘ ฉันก็ไม่รู้หรอก ’
‘ เพราะฉันมันก็แค่นักเดินทางคนหนึ่ง แต่ฉันไม่อยากอยู่ลำพังไปตลอด ฉันไม่อยากตัวคนเดียวไปจนตาย เป็นไปได้ ฉันเลือกที่จะไม่แยกจากนายเลย แม้แต่วินาทีเดียว ’
‘ แต่ฉันก็เป็นแค่นักเดินทาง หนทางข้างหน้ามันยังยาวและไกลมาก จะเป็นไปได้มั้ย ? ถ้าเราสองคนจะได้ก้าวไปเห็นโลกกว้างด้วยกัน ? ’
‘ คริส …. ได้โปรดเข้าใจฉัน ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะกลับไปพบนายอีกครั้ง อย่าไปจากฉัน เดินทางไปกับฉันนะ แม้ฉันจะเป็นเหมือนคนที่ไร้ซึ่งบ้านให้กลับไปหา แต่กับนาย ….. นายคือบ้านของฉันเสมอ ’
‘ ถ้าฉันขอให้เราไปด้วยกัน ขอให้เดินทางไปด้วยกันจนตลอดชีวิตนี้ ’
‘ จะตกลงหรือเปล่า ? ’
.
.
.
.
****
………………………………………………………………………………………………..
spill the beans ?
กลับมาแล้วหลังจากที่หายไปนานแสนนาน แม้จะเป็นแค่วันช็อตแต่เราก็หวังว่าทุกคนจะสนุกกับมันนะคะ ตอนเขียนก็มีตะกุกตะกักบ้าง แก้ใหม่บ้าง แต่ก็สนุกมากๆเลย
แรงบันดาลใจอันเนื่องมาจากคุณท่านงานเยอะโพดๆ ไปโผ่ลที่นู่นทีที่นี่ที ก็เลยอยากจะเขียนฟิคอารมณ์นี้ขึ้นมา มันก็เท่านั้นแหละค่ะ
ที่จริงเราเขียนตอนจบอีกแบบเอาไว้ด้วย แต่ตัดออก เพราะรู้สึกว่ามันเลอะเทอะ จะว่าไปเป็นตอนจบแบบปลายเปิดอย่างนี้ ให้คนไปคิดต่อก็ท่าจะดีเหมือนกันค่ะ
แล้วก็ช่วงนี้ อาจจะไม่ได้มาอัพบ่อยเหมือนเดิมนะคะ เพราะอาทิตย์หน้าเราก็จะสอบไฟนอลแล้ว ช่วยอดทนไปจนกว่าจะผ่านช่วงนี้ไปด้วยนะคะ ฮึ้ด ฮึ้ดด ฮึ้ดดด
ส่วน ILU กับ W ’ S ขออนุญาตดองไว้จนกว่าจะสอบเสร็จนะคะ ที่จริงก็อยากเขียนมากเลย แต่มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาปะติดปะต่อ เราอยากให้ออกมาดีที่สุดจริงๆค่ะ
ตอนนี้ยังสามารถไปลงชื่อรวมเล่ม BLT กับ ILU ได้อยู่นะคะ คือ ไปลงได้ตลอดเลยจนกว่าจะประกาศยกเลิก ไปลงชื่อกันเยอะๆน้า
ด้วยรักและไฟลนตูด
Kamew ( อะไรซักอย่าง ) ของท่าน