ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก และเป็นสถาบันที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะไปเรียนมากที่สุด

“University of Cambridge”

จะต้องเป็นรายชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงแน่นอน แต่ที่ผ่านมาเราอาจจะได้ยินแค่เรื่องชื่อเสียงและความมีคุณภาพของนักศึกษาที่นี่ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ถึงเรื่องราวต่างๆ ในรั้วสถาบันแห่งนี้มากนัก วันนี้

พี่วุฒิ

ได้รวบรวม 10 เรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับมหา’ลัยเคมบริดจ์ให้น้องๆ ชาว

Dek-D.com

ได้รู้จักกันมากขึ้น มีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาอ่านกันเลยครับ 

ก่อตั้งโดยอาจารย์และนิสิตจากมหา’ลัย

อ๊อกซ์ฟอร์ด 

 

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร เป็นมหาวิทยาลัยระดับโลกที่มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งเป็นสถาบันเก่าแก่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ทำการเปิดสอนมาแล้วมากกว่า 800 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1209 แต่กว่าจะก่อตั้งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่างเช่นทุกวันนี้ แรกเริ่มเลยก็ไม่ได้ง่ายนัก

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก่อตั้งโดยกลุ่มคณาจารย์และนิสิตจาก “มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด” สถาบันระดับโลกที่เป็นเป็นทั้งสถาบันพี่น้องและเป็นคู่แข่งในปัจจุบัน และเหตุผลที่คนจากอ๊อกซ์ฟอร์ดมาก่อตั้งเคมบริดจ์นั้นเกิดจากความขัดแย้งระหว่างอาจารย์ของอ๊อกซ์ฟอร์ดกับชาวเมืองอ๊อกซ์ฟอร์ดในสมัยนั้น ด้วยสาเหตุที่ว่ามีโสเภณีคนหนึ่งถูกฆาตกรรม แต่ทางเมืองอ๊อกซ์ฟอร์ดได้ตัดสินแขวนคออาจารย์ของมหา ’ ลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดแทน จึงทำให้หลายคนไม่พอใจอย่างมากที่เข้ามาก้าวก่ายตัดสิน ทั้งที่ควรจะเป็นหน้าที่ในการจัดการของสถาบันมากกว่า และนี่จึงเป็นเหตุผลที่คณาจารย์และนิสิตได้แยกตัวออกไปจากอ๊อกซ์ฟอร์ดและได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มาจนถึงวันนี้

มี

ระบบคอลเลจ

ดูแลนักศึกษาที่ดีที่สุด

 

ก่อนอื่นเลย น้องๆ ต้องรู้ไว้ว่า มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ประกอบไปด้วย College ต่างๆ มารวมกันถึง 31 แห่ง โดยเราจะเรียกว่า ‘Collegiate System หรือระบบ College’ ถ้าน้องๆ เคยดูภาพยนตร์ Harry Potter มาก่อน ก็อาจจะนึกภาพออก โดยเปรียบ College เหมือนกับ House ในหนังเรื่องนี้ แต่ College จะมีการดูแลที่เข้มงวดมากกว่าทั้งเรื่องกฎ กติกา มารยาท โดยแต่ละแห่งจะมีกติกาที่แตกต่างกันไป ซึ่งระบบคอลเลจนี้ ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดก็ใช้ระบบนี้เช่นเดียวกัน
น้องๆ อาจจะสงสัยว่า College มันสำคัญอย่างไรคะพี่ ? มันสำคัญเพราะว่า College จะคอยดูแลเรา ให้บริการด้านความเป็นอยู่ ที่พัก สาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงกิจกรรมการกีฬา หรือสันทนาการ เป็นต้น โดยแต่ละ College จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละที่ และความมีชื่อเสียงของแต่ละ College ด้วย บางที่ก็มีมาหลายร้อยปี บางที่ก็เพิ่งจะมีแค่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่ละ College ก็จะมีอาจารย์ Tutor/ Supervisor ที่คอยดูแลนักศึกษาต่างหาก เรียกได้ว่าเหมือนเป็นผู้ปกครองของเหล่านักศึกษาก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องเรียน เรื่องหนังสือเดินทางหมดอายุ หรือเรื่องทุนการศึกษา นักศึกษาก็สามารถปรึกษา College ได้ครับ
และอย่างที่พี่บอกไปว่าแต่ละคนจะมี College เป็นของตัวเอง โดยใน 1 College จะมีนักศึกษาจากหลายคณะ หลายสาขามาอยู่ด้วยกัน แต่เวลาเราไปเรียน เราก็จะไปเรียนที่คณะของมหาวิทยาลัยครับ กล่าวคือ ‘เราจะมีเพื่อนที่อยู่ College เดียวกันแต่เรียนต่างคณะ แล้วในคณะของเรา จะมีเพื่อนที่มาจากต่าง College แต่ทุกคนล้วนแล้วขึ้นชื่อว่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เหมือนกัน’ ดังนั้น เวลาเราสมัครเรียน เราต้องสมัครทั้ง 2 ส่วนคือ สมัครเรียนของคณะและสมัครเข้า College และถ้าได้รับใบตอบรับจากทั้ง 2 ที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะถือว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยครับ
และคอลเลจที่เก่าแก่ที่สุดของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ก็คือ “ปีเตอร์เฮ้าส์ (Peterhouse)” และในมหาวิทยาลัยยังมีคอลเลจที่รับเฉพาะผู้หญิงถึง 3 แห่งอีกด้วย ได้แก่ Lucy Cavendish, Newnham และ Murray Edwards

มี

ห้องสมุด

มากกว่า 100 แห่ง

 

ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์มีหอสมุดเหมือนกับหลายๆ สถาบัน แต่ที่มีความพิเศษก็คือ หอสมุดกลางของมหาวิทยาลัย หรือที่หลายคนเรียกว่า “UL (University Library)” มีหนังสือให้อ่านมากกว่า 8 ล้านเล่ม และนักศึกษาสามารถขอถ่ายเอกสารหนังสือที่ตีพิมพ์ในอังกฤษและไอร์แลนด์ได้แบบฟรีๆ และนอกจากหอสมุดหลักของมหาวิทยาลัยแล้ว ยังมีห้องสมุดยิบย่อยของแต่ละคณะ แต่ละ College อีกด้วย รวมๆ แล้วมีมากกว่า 100 แห่ง เลยทีเดียว ตัวอย่างของห้องสมุดที่มีชื่อเสียงจากเคมบริดจ์ เช่น ห้องสมุดเรน ( Wren Library ), ห้องสมุดคอลเลจทรินีตี้ ( Trinity college library ) ที่สวยติดอันดับโลก, ห้องสมุดวินนี่เดอะพูห์, ห้องสมุดส่วนตัวของเซอร์ไอแซก นิวตัน และห้องสมุดของวิลเลียม เชกสเปียร์ กวีเอกของโลก เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตาม ห้องสมุดบางใน College ก็จะมีลักษณะเหมือนห้องทั่วไป แต่ในขณะเดียวกัน College ที่มีชื่อเสียงมากๆ และได้รับงบประมาณเยอะๆ ห้องสมุดของ College จะมีความยิ่งใหญ่ หรูหรา หนังสือมากมายและก็เป็นตึกใหญ่ๆ หลายชั้น และข้อดีของการมีเพื่อนต่าง College ที่อยู่คณะเดียวกัน ก็ทำให้หลายคนมีโอกาสข้ามไปใช้ห้องสมุดต่าง College ได้เช่นกัน จึงทำให้นักศึกษาหลายคนและรวมไปถึงคนที่อยากเรียนที่เคมบริดจ์ ต่างชื่นชอบระบบ College มากนั่นเองครับ

Read more: Swansea City A.F.C.

เคมบริดจ์เป็น

มหา’ลัยตลก


 

พอพูดถึงมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่มีการแข่งขันทางการเรียนสูงแบบเคมบริดจ์ น้องๆ อาจจะคิดว่าที่นี่คงเอาแต่เรียนอย่างเดียว หลายคนคงเป็นเด็กเนิร์ดใช่มั้ยครับ แต่จริงๆ แล้วที่นี่ยังมีชมรมละครตลกของมหาวิทยาลัย ชื่อว่า “The Footlights” ที่เป็นแหล่งตัดสายสะดือนักแสดงตลกชื่อดังของโลกหลายต่อหลายคน เช่น อีริค ไอเดิล จากคณะตลกในตำนานของอังกฤษอย่าง Monty Python หรือแม้แต่นักเขียนนวนิยายชื่อดังระดับโลกอย่าง ดักลาส อดัมส์ เจ้าของผลงานนิยายที่ถูกนำมาแปลหลายภาษา เรื่อง “ The Hitchhiker ’ s Guide to the Galaxy ” ก็เคยเป็นศิษย์เก่าของชมรมตลกของมหาวิทยาลัยเช่นกัน

ศิษย์เก่า

ที่มีชื่อเสียงหลากหลายศาสตร์


 


Cr. BRIAN RANDLE/MIRRORPIX/GETTY IMAGES
 

เป็น

โลเกชั่น

ถ่ายหนังชั้นเลิศ 


 


ภาพจากภาพยนตร์ The Theory of Everything
  ด้วยความที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ยิ่งใหญ่และมีความเก่าแก่ และมีความคลาสสิกมาก จึงไม่น่าใช่เรื่องแปลกที่เรามักจะพบว่ามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ถูกใช้อ้างอิงเป็นสถานที่โผล่ในนวนิยาย วรรณกรรม วรรณคดี รายการโทรทัศน์ และละครอีกมากมาย และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น The Chronicles of Narnia: The Voyage of Dawn Treader ( อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ตอน ผจญภัยโพ้นทะเล ) และภาพยนตร์โรแมนติกอย่าง The Theory of Everything ( ทฤษฎีรักนิรันดร ) เป็นต้น
จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่แค่เป็นสถานที่ถ่ายหนังถ่ายละครหรอกครับ ความจริงแล้วแค่ครั้งนึงในชีวิต ถึงเราอาจจะไม่ได้ไปเรียนที่เคมบริดจ์ แต่ขอไปถ่ายรูปกับสถานที่จริงก็รู้สึกดีใจแล้ว เพราะมหาวิทยาลัยเค้าสวยมากจริงๆ ครับ > <

ได้รับ

รางวัลโนเบล

มากที่สุดในโลก


 

ถ้าถามว่าอะไรคือตัวชี้วัดว่าแต่ละสถาบันมีคุณภาพ และมีชื่อเสียงทำให้เป็นที่ยอมรับของคนในวงกว้าง นอกจากการจัดอันดับระบบการศึกษาแล้ว หลายๆ มหาวิทยาลัยก็ใช้รางวัลที่ได้รับ เป็นหน้าเป็นตาให้กับมหาวิทยาลัย และหนึ่งในรางวัลที่ดีที่สุดในโลกอย่าง “ รางวัลโนเบล ” ก็สามารถเป็นตัวบอกถึงคุณภาพของบุคลากรของแต่ละสถาบันได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดในโลกมากกว่า 90 รางวัล ในหลากหลายสาขาวิชา เช่น Abdus Salam รางวัลโนเบล จากทฤษฎี Electroweak, Alan Hodgkin โนเบลด้านการแพทย์, Maurice Wilkins โนเบล เรื่องโครงสร้างดีเอ็นเอ, Frederick Sanger โนเบล เรื่องโครงสร้างโมเลกุล เป็นต้น

“Sub Fusc” 

ชุดนักศึกษาอันทรงเกียรติ 


 

ที่เคมบริดจ์จะเรียกชุดนักศึกษาว่า “Sub Fusc” ส่วนใหญ่มักจะใส่ในงานสำคัญต่างๆ โดยชุดของแต่ละคนก็จะบ่งบอกถึงระดับของการศึกษาที่ตัวเองกำลังเรียนอยู่หรืออาจจะเป็นเรื่องของทุนการศึกษาด้วย สำหรับผู้ชายจะใส่สูทสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวข้างใน และโบว์หูกระต่ายสีขาว และสำหรับผู้หญิงจะใส่กระโปรงสีดำ เนคไทสีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาว และความยาวของชุดคลุมและลักษณะของผ้าก็สามารถบ่งบอกถึงสถานะของนักศึกษาได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น นักศึกษาที่ไม่มีทุนการศึกษา จะใส่ชุดคลุมสั้น ส่วนบัณฑิต DPhil จะใส่ชุดคลุมยาว
จริงๆ แล้วที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดก็มีชุด Sub Fusc เช่นกัน แต่ต่างกันที่เคมบริดจ์จะไม่มีความเคร่งคัดเท่าที่อ๊อกซ์ฟอร์ด อย่างเช่นในตอนสอบก็ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนี้มา แต่ถ้าเป็นที่อ๊อกซ์ฟอร์ดจะบังคับนักศึกษาให้ใส่มาสอบด้วย และโดยส่วนใหญ่แล้ว นักศึกษาเคมบริดจ์จะใส่ Sub Fusc ในพิธีสำคัญๆ หรืองานที่จัดใน Formal Hall ของมหาวิทยาลัย

Formal Hall

สุดคลาสสิก

 

ถ้าพูดถึง ‘Formal Hall’ หลายคนอาจจะนึกถึงฮอลล์สำหรับจัดพิธีสำคัญของ Hogwarts ในเรื่อง Harry Potter ก็ได้ เพราะ Formal Hall เป็นฮอลล์ประจำ College ที่ใช้จัดพิธีสำคัญๆ และมีความสวยงามที่สุดและคลาสสิคมากๆ ซึ่งบาง College จะใช้ฮอลล์นี้ในการรับประทานอาหารทุกคืน โดยเหล่านักศึกษาจะต้องแต่งกายสุภาพหรืออาจใส่ชุด Sub Fusc เพื่อเข้ามาใน Formal Hall แห่งนี้ แต่ก็มีบาง College ที่ใช้ฮอลล์แค่ 2-3 ครั้งต่อเทอมเพียงเท่านั้น

ประเพณีพายเรือ

เคมบริดจ์-อ๊อกซ์ฟอร์ด


 

ถึงแม้ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ถูกจับมาเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยๆ หลายคนเลยอาจมองว่ามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดนั้นเป็นคู่แข่งกัน แต่ในความจริงแล้วทั้งสองมหาวิทยาลัยนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่เสมอ และในทุกๆ ปีก็จะมีการจัด การแข่งขันพายเรือประเพณีของอ๊อกซ์บริดจ์ ( คล้ายๆ กับฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ) อย่างปีล่าสุดก็เพิ่งจัดไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งการพายเรือฝ่ายชาย ถูกจัดเป็นครั้งที่ 164 และสำหรับการแข่งขันพายเรือหญิง ถูกจัดพร้อมกันเป็นครั้งที่ 77 การแข่งขันพายเรือระหว่างสองสถาบันบันนี้ แข่งที่แม่น้ำเทมส์ ใจกลางกรุงลอนดอน โดยมีระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร และมีผู้ชมการแข่งขันตลอดแม่น้ำมากกว่า 250,000 คนเลยครับ เยอะมากกกก !

 อย่างที่บอกไปว่า มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นั้นเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพและมีชื่อเสียงมากๆ จึงไม่แปลกใจที่ใครต่อหลายคนใฝ่ฝันอยากจะมาเรียนที่นี่ ถ้าน้องๆ คนไหนอยากจะเรียนต่อที่นี่จริงๆ ก็ต้องใช้ความพยายามมากๆ และด้วยความที่เราเป็นคนต่างชาติ ก็อาจจะต้องพยายามมากกว่าคนอื่นหลายเท่า แต่พี่เชื่อว่า ถ้าน้องๆ ตั้งใจจริง ก็คงไม่มีอะไรเกินความสามารถของน้องๆ แน่นอน 

Source: