ธงไชย แมคอินไตย์ ชื่อเล่น เบิร์ด ( เกิด 8 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ) เป็นนักร้อง นักแสดง ชาวไทย ได้รับขนานนามว่าเป็น “ ซูเปอร์สตาร์ เมืองไทย ” [ 1 ] [ 2 ] แรกเข้าวงการบันเทิงเป็นนักแสดงสมทบ ต่อมาได้รับบทพระเอก โดยภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาที่สุดเรื่อง ด้วยรักคือรัก ( พ.ศ. 2528 ) [ 3 ] ส่วนละครที่สร้างชื่อเสียงที่สุดของเขาคือบทโกโบริในละคร คู่กรรม ( พ.ศ. 2533 ) [ 4 ] ด้านวงการเพลงซึ่งเป็นอาชีพหลักเขาเริ่มต้นจากการประกวดร้องเพลงของสยามกลการ ต่อมาเป็นนักร้องในสังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ซึ่งประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศไทย [ 5 ] มียอดจำหน่ายอยู่ในระดับแนวหน้าของทวีปเอเชียยอดรวมกว่า 25 ล้านชุด [ 6 ] ธงไชยมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงยาวนานไม่ต่ำกว่า 30 ปีในวงการบันเทิง [ 7 ] มีสตูดิโออัลบั้มเดี่ยวที่มียอดจำหน่ายเกินล้านตลับมากที่สุด 7 ชุด [ 8 ] โดยอัลบั้ม ชุดรับแขก มียอดจำหน่ายมากกว่า 5 ล้านชุด สูงที่สุดในประเทศไทย [ 9 ] [ 10 ] และการแสดงคอนเสิร์ตของเขามียอดผู้ชมรวมจากการจำหน่ายบัตรของต้นสังกัดสูงที่สุด [ 11 ] จากชื่อเสียงที่ยาวนานทำให้สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และสมาคมนักข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทยได้ให้ฉายาธงไชยว่า “ ดาวค้างกรุ ” ( พ.ศ. 2548 ) [ 12 ] และ “ ป๋าพันปี ” ( พ.ศ. 2550 ) [ 13 ] และส่วนหนึ่งจากการสำรวจความนิยมพบว่าเขามีภาพลักษณ์สำคัญคือ ความกตัญญู ความสามารถในการร้องเพลง การพัฒนาตนเอง ความสามารถในการให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม และการเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นต้น [ 14 ]
ธงไชย แมคอินไตย์ เกิดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2501 [ 15 ] ที่ย่านสลัมบางแค ( เดิมเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอภาษีเจริญหรือ เขตภาษีเจริญ ในปัจจุบัน ) ฝั่ง ธนบุรี จังหวัดธนบุรี มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “ อัลเบิร์ต แมคอินไตย์ ” ( Albert McIntyre ) หรือเรียกชื่อเล่นว่า “ เบิร์ด ” เป็นบุตรคนที่ 9 ในจำนวนพี่น้อง 10 คน ของเจมส์ ( จิมมี่ ) แมคอินไตย์ แพทย์ทหาร ลูกครึ่งสกอต-มอญ และอุดม แมคอินไตย์ ครอบครัวของเขาค่อนข้างยากจน ในวัยเด็กธงไชยช่วยเหลือครอบครัวโดยการช่วยพับถุง ขายเรียงเบอร์ เก็บกระป๋องนมขาย และเย็บงอบ เป็นต้น นอกจากนั้นยังหารายได้จากการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กที่สลัมบางแคซึ่งมีรายได้ 5 ถึง 10 บาท แล้วแต่จะบริจาค [ 16 ] โดยธงไชยเล่าถึงแง่คิดชีวิตวัยรุ่นตอนที่อาศัยอยู่สลัมบางแคว่า “ สอนและให้เราสอบผ่านให้ได้ทุกวัน การเรียนรู้และการแบ่งแยกความคิดไปในทางที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างพร้อม คนเราจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับตัวเราเท่านั้น ” [ 17 ] เขาชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ได้เข้าร่วมประกวดในเวทีงานวัดต่าง ๆ และเคยได้รางวัล โดยฝึกร้องและสอนกันเองในครอบครัว [ 18 ] จากฝีมือการเล่นดนตรีของพี่น้อง 7 คน จึงรวมตัวเล่นดนตรีมีชื่อวงว่า “ มองดูเลี่ยน ” [ 16 ]

ธงไชยศึกษาระดับประถมศึกษาที่ โรงเรียนวัดนิมมานรดี ระหว่างนั้นก็รับเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือครูในกิจกรรมร้องรำทำเพลงต่าง ๆ เสมอ และเป็นคนร่าเริง กล้าแสดงออก ต่อมา ศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนปัญญาวรคุณ เป็นเชียร์ลีดเดอร์รุ่นแรกของโรงเรียน [ 19 ] เขาสำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส. ) สาขาการจัดการ ที่ วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี [ 20 ] ทั้งนี้ภายหลังจากเขาเข้าวงการบันเทิง และประสบความสำเร็จในอาชีพ ในปี พ.ศ. 2545 ธงไชยได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ [ 21 ] [ ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้ ] คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์ จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี สำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรีสากล และในปีการศึกษา 2563 มีรายชื่อได้รับปริญญาศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ( ดนตรีคีตศิลป์สากลศึกษา ) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยมีหมายกำหนดการรับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในเดือนมีนาคม 2565 [ 22 ]
ระหว่างที่ธงไชยทำงานอยู่แผนกต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ เขายังทำงานเสริมอื่น ๆ เช่น ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา รวมถึงเป็นพนักงานเปิดประตูในดิสโก้เธคชื่อ ฟามิงโก ในโรงแรมแอมบาสเดอร์ [ 16 ] ที่ซึ่งเขาพบกับผู้จัดละคร วรายุฑ มิลินทจินดา ซึ่งเป็นแขกของโรงแรม เขาร้องเต้นสร้างความบันเทิงให้กับแขกจนวรายุฑชักชวนให้มาเล่นละครเรื่อง น้ำตาลไหม้ ( พ.ศ. 2526 ) โดยมี อดุลย์ ดุลยรัตน์ เป็นผู้ช่วยสอน ละครเรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกของธงไชย ซึ่งเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้แสดงสมทบชายยอดเยี่ยม รางวัลเมขลา ส่งผลให้ธงไชยเป็นที่รู้จักและมีการกล่าวขานในฐานะนักแสดงหน้าใหม่ที่มีความสามารถ ต่อมาเขาได้ร่วมงานละครเวทีกับ ภัทราวดี มีชูธน หนึ่งในนั้นคือคอนเสิร์ตคืนหนึ่งกับภัทราวดี ( พ.ศ. 2527 ) เขาแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกใน บ้านสีดอกรัก ( พ.ศ. 2527 ) [ 16 ]
ธงไชยมีความสามารถด้านการร้องเพลง เขาได้รับทาบทามให้ไปร้องเพลงในรายการสดของ นันทวัน เมฆใหญ่ ขณะเดียวกันธงไชยลองสมัครประกวดร้องเพลงเวทีสยามกลการในปี พ.ศ. 2527 เป็นจุดเริ่มต้นด้านเพลงที่สำคัญ [ 23 ] การประกวดครั้งนั้นเขาได้รับรางวัลในการประกวด 3 รางวัล รวมรางวัลนักร้องดีเด่นประเภทเพลงไทยสากลจากเพลง “ ชีวิตละคร ” ทำให้ได้เซ็นสัญญากับสยามกลการ เรวัต พุทธินันทน์ ผู้ก่อตั้งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่เห็นพรสวรรค์ของธงไชยได้เข้าพบคุณหญิง พรทิพย์ ณรงค์เดช อดีตประธานสยามกลการ เพื่อเจรจาขอดึงตัวมาเป็นศิลปินของแกรมมี่ เป็นจุดเริ่มต้นอาชีพนักร้องของธงไชยในสังกัด จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ [ 16 ] ระหว่างที่รออัลบั้มเสร็จเป็นระยะเวลา 2 ปี เขารับบทพระเอกภาพยนตร์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2528 เรื่อง ด้วยรักคือรัก คู่กับ อัญชลี จงคดีกิจ และกำกับโดย หม่อมเจ้าทิพยฉัตร ฉัตรชัย [ 24 ] [ 25 ] ทำให้คู่พระ-นางกลายเป็นคู่ขวัญคลาสสิกคู่หนึ่ง [ 26 ] [ 27 ] และในปีเดียวกัน ยังร่วมแสดงในละครเรื่อง บ้านสอยดาว และ พลับพลึงสีชมพู เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2529 ธงไชยได้รับเลือกให้เป็นพิธีกร นางสาวไทย รอบตัดสิน ปี 2529–2530 และเขายังเป็นพิธีกรคู่แรกในรายการถ่ายทอดสด 7 สีคอนเสิร์ต คู่กับ มยุรา ธนะบุตร ซึ่งกลายเป็นพิธีกรคู่ขวัญ [ 28 ] ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้ดำเนินรายการดีเด่นชาย รางวัลเมขลา ประจำปี พ.ศ. 2529 [ 29 ] ในปีเดียวกันเขาออกอัลบั้มแรก หาดทราย สายลม สองเรา โดยเพลง “ ผ่านมา ผ่านไป ” เป็นซิงเกิลแรกที่เขาเข้าบันทึกเสียง [ 16 ] สำหรับซิงเกิลแรกที่เผยแพร่คือ “ ด้วยรักและผูกพัน “ “ ฝากฟ้าทะเลฝัน ” [ 30 ] “ บันทึกหน้าสุดท้าย “ เป็นต้น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง จากความสำเร็จของอัลบั้มดังกล่าวได้มีการนำเพลงดังในอัลบั้มไปใช้ประกอบในภาพยนตร์ ด้วยรักและผูกพัน ที่ถ่ายทำในต่างประเทศ จากความสำเร็จเหล่านี้ เขาจึงลาออกจากงานประจำและก้าวสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว โดยมี พรพิชิต พัฒนถาบุตร เป็นผู้จัดการส่วนตัว [ 31 ] นอกจากนี้ เขามีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มแรกชื่อว่า “ คอนเสิร์ต สุดชีวิต ธงไชย ” และในปีนั้นยังมีการจัด คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 1 ถือเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกของแกรมมี่ [ 16 ]

อัลบั้ม สบาย สบาย [แก้ ]

ในปี พ.ศ. 2530 ธงไชยมีอัลบั้มดังชื่อ สบาย สบาย ซึ่งต้นสังกัดจัดให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี [ 32 ] โดยมีเพลงเด่น เช่น เพลง “ สบาย สบาย ” “ เหมือนเป็นคนอื่น ” และ “ ฝากใจไว้ ” โดยเพลง “ สบาย สบาย ” ที่ทำให้เขาดังข้ามประเทศ [ 33 ] มีการนำลิขสิทธิ์เพลงไปแปลงหลายภาษาเช่น ภาษาจีน ภาษาฝรั่งเศส [ 34 ] เป็นต้น และในปีดังกล่าวเขาได้รับรางวัลศิลปินดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ ( สยช. ) เพลง “ สบาย สบาย ” นี้ยังมีการนำไปใช้ประกอบภาพยนตร์ หลังคาแดง ซึ่งธงไชยร่วมแสดงนำ [ 35 ] [ ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้ ] เขาจัด คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 2 ในช่วงกลางปี พ.ศ. 2530 และปลายปี เขาออกอัลบั้ม รับขวัญวันใหม่ โดยมีเพลงเด่นคือ “ หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ ” และ “ ขอบใจจริง ๆ ” เป็นต้น เขามีคอนเสิร์ตใหญ่สองครั้งในช่วงต้นปีถัดมา คือ คอนเสิร์ตเกาเหลาธงไชย ( ไม่งอก ) และคอนเสิร์ต เบิร์ด เปิ๊ด-สะ-ก๊าด และออกอัลบั้มพิเศษชื่อ ธงไชย แมคอินไตย์ พ.ศ. 2501 และอัลบั้ม ส.ค.ส. โดยมีเพลงเด่น เช่น เพลง “ จับมือกันไว้ ” ซึ่งเป็นเพลงเด่นประจำการแสดง คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ [ 36 ] และเขามี คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 3 ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2532
ในปี พ.ศ. 2533 ซึ่งเป็นยุคที่เกิดกระแสเบิร์ดฟีเวอร์ [ 37 ] [ 38 ] ธงไชยรับบทโกโบริในละคร คู่กรรม ถือเป็นละครฉบับที่ประสบความสำเร็จสูงสุดอันดับ 1 ของไทยตลอดกาล ด้วยเรตติง 40 [ 39 ] [ 40 ] ละครเรื่องนี้ทำให้ธงไชยได้รับรางวัลใหญ่สองรางวัล คือ รางวัลนักแสดงนำชายดีเด่น จากงานประกาศผลรางวัลเมขลา ครั้งที่ 10 และรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผล รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 5 ในปีเดียวกันธงไชยได้ออกอัลบั้ม บูมเมอแรง ซึ่งต้นสังกัดจัดให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี [ 41 ] และเป็นลำดับ 3 ของอัลบั้มที่ดีที่สุดของทศวรรษ โดยเป็นศิลปินคนแรกของแกรมมี่ที่มียอดจำหน่ายมากกว่า 2 ล้านตลับ [ 42 ] [ 9 ] และเขามีการจัดคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มมนุษย์บูมเมอแรง ต่อด้วยการทัวร์คอนเสิร์ตที่ใช้ชื่อว่ามนุษย์บูมเมอแรง และมี คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 4 ใน พ.ศ. 2533 จากความสำเร็จจากอัลบั้มดังกล่าว เขาได้รับรางวัลพิเศษอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มอบโดยบริษัทไทยน้ำทิพย์ [ 43 ] และหนังสือพิมพ์ เอกชน ยกให้เป็นศิลปินที่ได้รับประกาศเกียรติคุณมากที่สุด [ 18 ] ในคอนเสิร์ตสายใจไทย ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป่าทรัมเป็ตเพลง “ คู่กัด ” โดยมีธงไชยเป็นผู้ร่วมขับร้อง [ 44 ]
ในปี พ.ศ. 2534 ธงไชยประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาถึงอัลบั้มชุดที่ 6 อัลบั้ม พริกขี้หนู มียอดจำหน่าย 3 ล้านตลับ [ 45 ] สื่อบันเทิงยกให้เป็นปรากฏการณ์ “ เบิร์ดฟีเวอร์ ” อีกครั้ง [ 16 ] [ 38 ] และได้รับขนานนามเป็น “ อัลบั้มแห่งทศวรรษ ” [ 46 ] [ 9 ] มีเพลงเด่นคือ “ พริกขี้หนู ” “ ขออุ้มหน่อย ” “ ไม่อาจหยั่งรู้ ” “ ฝากไว้ ” เป็นต้น ในปีเดียวกันเขายังมี คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 5 โดยใช้ชื่อตอน ความสุข ความทรงจำ ไม่มีที่สิ้นสุด จำนวน 29 รอบ จำนวนผู้ชม 58,000 คน [ 47 ] ปลายปี พ.ศ. 2536 เขากลับมาแสดงละคร วันนี้ที่รอคอย รับบท เจ้าซัน และเจ้าชายศิขรนโรดม ซึ่งเป็นละครที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องของเขา [ 48 ] เขาได้รับรางวัลดารานำชายดีเด่น จากประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 8 ต้นปี พ.ศ. 2537 เขาออกอัลบั้ม ธ ธง โดยมีเพลงเด่นคือ “ เธอผู้ไม่แพ้ ” “ เหนื่อยไหม ” เป็นต้น เพลง “ เหนื่อยไหม ” ได้รางวัลประพันธ์คำร้องยอดเยี่ยมจากงานประกาศผลรางวัลพระพิฆเนศทอง ธงไชยจัดคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม “ คอนเสิร์ต ธ.ธง กับ เธอ ( นั่นแหละ ) ” และ คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 6 โดยใช้ชื่อตอนว่าอยากเห็นท้องฟ้าเป็นอย่างในฝัน ในปี พ.ศ. 2538 ธงไชยกลับมารับบทบาท โกโบริ อีกครั้งในภาพยนตร์ คู่กรรม ภาพยนตร์นั้นสร้างสถิติภาพยนตร์ที่มีผู้เข้าชมสูงสุดใน 3 วันแรกของการเปิดตัวในยุคนั้น [ 49 ] [ ต้องการแหล่งอ้างอิงดีกว่านี้ ] โดยธงไชยได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผล รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ประจำปี พ.ศ. 2538 และในปีเดียวกันธงไชยได้รับเลือกให้ร้องเพลง “ golden Stars ” ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ปี พ.ศ. 2538 จัดที่ สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี [ 50 ]
พระธงไชยและมารดาในพิธีอุปสมบท 8 ธันวาคม 2540 หลังจากถ่ายทำละคร นิรมิต แล้วเสร็จ ธงไชยอุปสมบทในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2540 เป็นการบวชทดแทนคุณ ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ประทานผ้าไตร และ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ประทานเครื่องอัตถบริขาร โดยธงไชยได้รับฉายาว่า “ อภิชโย ” แปลว่า “ ผู้มีชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ” [ 51 ] และจำวัด ณ จังหวัดเชียงใหม่ [ 52 ] วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2544 อุดม แมคอินไตย์ มารดา เสียชีวิตที่จังหวัดเชียงราย มีพิธีพระราชทานเพลิงศพวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมเจ้านาย 3 พระองค์ พระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ [ 53 ] หลังจากนั้นในปี 2541–2544 ธงไชยมีผลงานเพลงต่อเนื่องอีก 4 อัลบั้มที่ทำยอดขายเกินล้านชุด [ 54 ] ได้แก่ ธงไชย เซอร์วิส ( 2541 ) มีเพลงเด่นคือ “ ซ่อมได้ ” “ บอกว่าอย่าน่ารัก ” “ ก็เลิกกันแล้ว ” “ ถ่านไฟเก่า ” เป็นต้น พร้อมกับอัลบั้มพิเศษ ธงไชย เซอร์วิสพิเศษ และละคร ความทรงจำใหม่ หัวใจเดิม และมีคอนเสิร์ต อัลบั้ม ตู้เพลงสามัญประจำบ้าน ( 2542 ) มีเพลงเด่นคือ “ ลองซิจ๊ะ ” “ กลับไม่ได้ไปไม่ถึง ” “ ผิดตรงไหน ” “ ทำไมต้องเธอ ” เป็นต้น และปี พ.ศ. 2543 มี คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 7, อัลบั้มพิเศษ 100 เพลงรักไม่รู้จบ ปลายปี พ.ศ. 2544 ธงไชยอัดอัลบั้ม สไมล์คลับ ซึ่งต้นสังกัดจัดให้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแห่งปี [ 55 ] มีเพลงเด่นคือ “ เล่าสู่กันฟัง ” “ คนไม่มีแฟน ” และ “ คู่แท้ ” เป็นต้น โดยเพลง “ เล่าสู่กันฟัง ” ได้รับรางวัลจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลเพลงยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัล สีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 14 รางวัลมิวสิกวิดีโอศิลปินชายยอดนิยม จากงานประกาศผล รางวัลแชนแนลวีไทยแลนด์มิวสิกวิดีโออวอร์ดส ครั้งที่ 1 เป็นต้น พร้อมกับการจัดคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มเบิร์ดสไมล์คลับ และจากผลสำรวจสุดยอดแห่งความประทับใจ ปี พ.ศ. 2544 ของเอแบคโพล [ 56 ] และผลสำรวจที่สุดแห่งปีของ สวนดุสิตโพล พบว่าเขาอยู่ในลำดับแรกของนักร้องชายไทยที่ประทับใจที่สุด [ 57 ]
ธงไชย ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ปี พ.ศ. 2545 ในปี พ.ศ. 2545 ธงไชยได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์ สำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านดนตรีสากล และประสบความสำเร็จในอาชีพ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี [ 21 ] ช่วงปลายปี พ.ศ. 2545 ถึงปี 2546 เขาออกอัลบั้ม ชุดรับแขก ซึ่งสร้างสถิติยอดจำหน่ายเทปสูงสุดของไทยกว่า 5 ล้านตลับ เป็นนักร้องไทยคนแรกที่สร้างสถิตินี้ [ 9 ] [ 10 ] นอกจากนั้นวีซีดีมียอดจำหน่าย 3 ล้านชุด [ 43 ] อัลบั้มดังกล่าวสร้างประวัติการณ์ Break Record สู่ 3 ล้านชุดในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน โดยมีเพลงเด่นคือ “ แฟนจ๋า ” ซึ่งแต่งโดย โจอี้ บอย และ “ มาทำไม ” ร่วมร้องกับ จินตหรา พูนลาภ เป็นต้น จากการสำรวจความนิยมของคนกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2545 ของ กรุงเทพโพลล์ พบว่าเพลงยอดนิยม คือ เพลง “ แฟนจ๋า ” รองลงมาคือเพลง “ มาทำไม ” [ 58 ] ความสำเร็จดังกล่าวจึงมีการจัดทำอัลบั้มพิเศษ แฟนจ๋า..สนิทกันแล้วจ้ะ และมีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม ฟ.แฟน และฟ.แฟน FUN FAIR และในปีดังกล่าวยังมีคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 8 เขาได้รับรางวัลจากหลายสำนัก เช่น แฮมเบอร์เกอร์อวอร์ดส์, ท็อปอวอร์ด, แชนแนลวีไทยแลนด์มิวสิกวิดีโออะวอดส์ เป็นต้น ในปี พ.ศ. 2547 เขาได้รับคัดเลือกให้ไปโชว์เพลงแฟนจ๋าที่งานประกาศผลรางวัลที่ต่างประเทศ พร้อมได้รางวัลศิลปินยอดนิยมประเทศไทย ( Favorite Artist Thailand ) จากงาน เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส ครั้งที่ 3 ณ ประเทศสิงคโปร์ [ 59 ]
คอนเสิร์ต เบิร์ดซน เบิร์ด-เสก ปี 2547 ในปี พ.ศ. 2547 เขาออกอัลบั้มพิเศษ เบิร์ด-เสก โดยมียอดจำหน่ายสูงสุดแห่งปีมากกว่า 2 ล้านชุด แกรมมี่จัดให้เป็น “ อัลบั้มพิเศษที่ดีที่สุดแห่งยุค ” [ 60 ] โดยมีเพลงดัง คือ “ อมพระมาพูด “ ร้องคู่กับนักร้องแนวร็อก เสกสรรค์ ศุขพิมาย [ 61 ] พ.ศ. 2547 ผลสำรวจของเอแบคโพลพบว่าเขาเป็นนักร้องชายที่ประชาชนชื่นชอบที่สุด และกรุงเทพโพลพบว่าเป็นนักร้องนักแสดงที่ชื่นชอบและยึดเป็นแบบอย่างมากที่สุด [ 62 ] ในปี พ.ศ. 2548 มีอัลบั้ม วอลุม วัน ซึ่งมีเพลงดังคือเพลง “ โอ้ละหนอ … My Love ” และเพลง “ ไม่แข่งยิ่งแพ้ ” เขาได้รับรางวัลนักร้องยอดเยี่ยมของท็อปอวอร์ด, Oops ! Awards ; ศิลปินไทยแห่งปีของเฉลิมไทยอวอร์ด มิวสิกวิดีโอเพลง “ โอ้ละหนอ … My Love ” ได้รับรางวัลมิวสิกวีดีโอยอดเยี่ยมแห่งปี FAT award และรางวัลมิวสิกวิดีโอยอดนิยมของมิวสิกวิดีโออวอร์ดส [ 63 ] และจากผลสำรวจเอแบคโพล เพลงโอ้ละหนอ … My Love เป็นเพลงยอดเยี่ยมแห่งปี [ 64 ] ธงไชยมีคอนเสิร์ตใหญ่ volume 1 คอนเสิร์ต โอ้ละหนอ … My Love และจากผลสำรวจของเอแบคโพลและสวนดุสิตโพลพบว่าเขาเป็นนักร้องชายที่ประชาชนชื่นชอบที่สุดอีกปี [ 64 ] ในปี พ.ศ. 2549 ออกอัลบั้ม ธงไชย วิลเลจ ซึ่งมีเพลงเด่นคือ “ เถียงกันทำไม ” อัลบั้มพิเศษ เบิร์ดเปิดฟลอร์ 3 อัลบั้ม ปีนั้น หนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น ยกให้ธงไชยเป็นหนึ่งในคนไทย 35 คนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในรอบ 35 ปี [ 65 ] อีกทั้งหนังสือพิมพ์ สยามรัฐ ยกให้ธงไชยเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของไทย ปี พ.ศ. 2549 โดยเป็นอันดับ 26 จากทุกสาขาอาชีพ และเป็นอันดับ 1 ประเภทนักร้องนักแสดง [ 66 ] เขาได้รางวัลพิเศษศิลปินสร้างสรรค์ Inspiration Award ของ เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส ครั้และรางวัลศิลปินที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งปีของ Virgin Hitz Awards และเกียรติบัตรศิลปินชายยอดนิยมแห่งปีของ Thailand Top Chart [ 67 ]
ในปี พ.ศ. 2550 มีจัดคอนเสิร์ตเบิร์ดเปิดฟลอร์ และปลายปีมีอัลบั้ม ซิมพลีย์ เบิร์ด ซึ่งมีเพลงเด่นคือ “ ช่วยรับที “ “ มีแต่คิดถึง “ และเพลง “ น้ำตา “ เป็นต้น เพลง “ น้ำตา ” แต่งโดย อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข ได้รางวัลเพลงยอดเยี่ยมของสีสันอะวอร์ดส์ ขณะที่เพลง “ มีแต่คิดถึง ” ซึ่งแต่งโดย นิติพงษ์ ห่อนาค ได้รางวัลชมเชยการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย ในปี พ.ศ. 2551 ธงไชยแสดง คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 9 ตอน MAGIC MEMORIES อัศจรรย์แห่งความทรงจำ สิ่งเหล่านี้คือความเป็นเรา … ตลอดไป มีจำนวนผู้ชมทุกรอบ 120,000 คน จาก 12 รอบการแสดง [ 47 ] ในปี พ.ศ. 2552 ธงไชยได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สองครั้ง คือ “ โครงการเที่ยวไทยครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก ” และ “ โครงการ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ” โดยเขาขับร้องเพลง “ ไปเที่ยวกัน ” ประกอบสื่อภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ [ 68 ] และมีซิงเกิลพิเศษ “ จะได้ไม่ลืมกัน “ ประกอบภาพยนตร์ ความจำสั้น แต่รักฉันยาว และในปีดังกล่าวเขามีคอนเสิร์ต ธงไชย แฟนซี แฟนซน … ร้อง เต้น เล่น แต่งตัว จำนวน 4 รอบการแสดง ในปี พ.ศ. 2553 ธงไชยออกอัลบั้ม อาสาสนุก ซึ่งเป็นอัลบั้มใหม่ในรอบ 3 ปี มียอดจำหน่ายและยอดดาวน์โหลดสูงที่สุด [ 69 ] [ 70 ] โดยมีเพลงเด่นคือ “ อยู่คนเดียว ” “ อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใคร … เข้าใจไหม ” “ ทูมัชโซมัชเวรีมัช “ และ “ เรามาซิง ” โดยสองเพลงหลังมีการซื้อลิขสิทธิเพลงดังกล่าวไปแปลงเป็นภาษาญี่ปุ่น [ 71 ] ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 เขายังมีคอนเสิร์ตใหญ่ คอนเสิร์ตเบิร์ดอาสาสนุก ที่จัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี เป็นหนึ่งในคอนเสิร์ตสุดร้อนแรงแห่งปี [ 72 ] และหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ได้รับการตอบรับสูงสุดแห่งปี [ 73 ]
ธงไชยในงานแถลงข่าวการ์ตูนเบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ ปี 2553 ปีนั้นธงไชยยังได้รับเลือกเป็นต้นแบบตัวละครการ์ตูน แอนิเมชัน เรื่อง เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ และเขายังเป็นผู้พากย์เสียง “ พี่เบิร์ด ” และร้องเพลงประกอบเพลงเบิร์ดแลนด์แดนมหัศจรรย์ [ 74 ] และในปีเดียวกันเขาได้รับเลือกให้ร้องเพลงพิเศษ เพลง “ Thai for Japan ” ภาษาญี่ปุ่น ให้แก่ผู้ประสบภัย แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 [ 75 ] ในปี พ.ศ. 2555 เขาแสดง คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 10 ตอน วันของเรา Young อยู่ ฉลองครบรอบ 25 ปีเบิร์ดเบิร์ดโชว์ จำหน่ายบัตรต่อเนื่องในคราวเดียวกว่า 100,000 คน [ 76 ] [ 77 ] ในปี พ.ศ. 2556 มี คอนเสิร์ตขนนกกับดอกไม้ ครั้งที่ 2 ตอน Secret Garden
ในปี พ.ศ. 2556 ธงไชยได้รับเชิญเป็น “ ทูตมิตรภาพ ” ( International Friendship Ambassador ) ไปร่วมงานเทศกาล Sapporo Snow Festival ครั้งที่ 64 ณ นคร ซัปโปโระ จังหวัดฮกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ภายในงานมีรูปปั้นหิมะของเขาขนาดเท่าตัวจริงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพที่ดีของทั้งสองประเทศ การสำรวจในญี่ปุ่นยังพบว่าเขาเป็นศิลปินไทยที่คนญี่ปุ่นรู้จักมากที่สุด [ 78 ] ในปีเดียวกัน เขาได้รับเชิญร่วมงานเทศกาลดนตรีอาเซียน-ญี่ปุ่น ( ASEAN-Japan Music Fair ) ณ กรุงโตเกียว [ 79 ] [ 80 ] นอกจากนี้องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่นเชิญเขาไปถ่ายแบบที่ โอกินาวา โยโกฮามา และ ฟุคุโอกะ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวญี่ปุ่น [ 81 ] [ 82 ] ในปี พ.ศ. 2557 ธงไชยได้รับรางวัล Special Award from JNTO ของ Japan Tourism Award in Thailand สำหรับบุคคลที่มีบทบาทสำคัญต่อภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวญี่ปุ่น [ 83 ] [ 84 ] และปีดังกล่าวเขาถ่ายทำละคร กลกิโมโน [ 85 ] [ 86 ] ในปี พ.ศ. 2558 มีคอนเสิร์ตขนนกกับดอกไม้ ครั้งที่ 3 ตอน The Original Returns [ 87 ] ซึ่งจีเอ็มเอ็มแกรมมี่จัดกิจกรรม FUN & FRIENDSHIP EXPERIENCE [ 88 ] เป็นโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและสานสัมพันธ์ไทยพม่า ซึ่งเขาได้รับการต้อนรับจากชาวพม่าจำนวนมาก [ 89 ] และในปี พ.ศ. 2559 ธงไชยมี คอนเสิร์ต รวมวง THONGCHAI concert และมีโครงการพิเศษภาพยนตร์สั้น รักคำเดียว ภารกิจคลุกฝุ่น [ 90 ] [ 91 ]
ธงไชยในละคร ในสวนฝัน ผสานใจภักดิ์จงรักนฤบดี ปี พ.ศ. 2562 ในปี พ.ศ. 2560 ธงไชยเป็นดารารับเชิญในละครพิเศษ “ เราเกิดในรัชกาลที่ 9 เดอะซีรีส์ ” โดยรับบทแพทย์อาสา [ 92 ] และเป็นนักร้องรับเชิญในงานแสดงดนตรี “ แผ่นดินของเรา ” [ 93 ] และในวันที่ 26 ตุลาคม ปีนั้น เขาได้เข้าร่วม พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ถวายพระเพลิงในฐานะพลเรือนผู้มีตำแหน่งเฝ้าฯ นับเป็นศิลปินเพียงไม่กี่คน [ 94 ]
ในปี พ.ศ. 2561 ต้นปีธงไชยมีโปรเจ็กต์พิเศษ ชื่อว่า เบิร์ดมินิมาราธอน [ 95 ] โดยทำงานร่วมกับ 8 ศิลปินรุ่นใหม่ [ 96 ] และในปีดังกล่าวเขาได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งปี สำหรับศิลปินที่เป็นที่สุดตลอดกาล รางวัล Joox Icon Award จากงาน JOOX Thailand Music Awards พ.ศ. 2561 [ 97 ]

ในปี พ.ศ. 2562 เขามี คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ครั้งที่ 11 ในตอน “ DREAM JOURNEY ” ( ดรีม เจอร์นี่ย์ ) ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งจัดต่อเนื่องจากปี 2561 [ 98 ] [ 99 ] รวมแล้วจำนวน 7 รอบ [ 100 ] และในปีเดียวกันมี คอนเสิร์ต Singing Bird จำนวน 3 รอบ [ 101 ] ซึ่งจัดที่รอยัลพารากอน ฮอลล์ นอกจากนั้นในช่วงกลางปี พ.ศ. 2562 เขาได้รับเชิญให้ร่วมแสดงละคร “ ในสวนฝัน ผสานใจภักดิ์จงรักนฤบดี ” ณ ท้องสนามหลวง ใน พระราชพิธี​บรม​ราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว [ 102 ] เขาถวายงานร้องเพลง “ ลาวคำหอม ” [ 103 ] พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ร่วมร้องเพลง “ จิตอาสา ” ซึ่งเป็นบทเพลงพิเศษจัดทำโดย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีเนื้อหาเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันทำความดี ด้วยการเป็นจิตอาสา เพื่อพัฒนาสังคมและประเทศชาติ สานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว [ 104 ] ธันวาคม พ.ส. 2562 เขาเป็นแขกรับเชิญพิเศษในคอนเสิร์ตการกุศล “ 7HD Charity Concert รักคือการให้ ” ซึ่งรับบทโกโบริ จากละคร “ คู่กรรม ” ที่เคยแสดง [ 105 ]
ธงไชยใช้สิทธิเลือกตั้ง ปี 2556 ธงไชยเป็นตัวอย่างศิลปินในการใช้สิทธิเลือกตั้งต่าง ๆ และในปี พ.ศ. 2554 ได้รับเลือกจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง [ 106 ] [ 107 ] โดยเขาไปเลือกตั้งเกือบทุกครั้ง [ 108 ] และเขาช่วยเหลือในการรณรงค์ต่าง ๆ เช่น เป็นพรีเซ็นเตอร์โครงการ รณรงค์ลดการแพร่เชื้อทางเดินหายใจ ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ( พ.ศ. 2545 ) พรีเซนเตอร์ธรรมอาสาพาประชาชนไทยทุกหมู่เหล่าเข้าวัดปฏิบัติภาวนา ( พ.ศ. 2546 ) [ 109 ] พรีเซ็นเตอร์กิตติมศักดิ์ จากเครือข่ายคนรักน้องหมาในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา รณรงค์อุดหนุน “ ดอกป๊อปปี้ “ ช่วยครอบครัวทหารผ่านศึก ของมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี [ 110 ] ศิลปินจิตอาสา ในภาพยนตร์โฆษณาของมูลนิธิรามาธิบดี ภายใต้แนวคิด “ คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด ” [ 111 ] เป็นต้น นอกจากนั้นธงไชยมีบทบาทในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. หลายครั้ง เช่น ในปี พ.ศ. 2548 ได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์โครงการ “ เที่ยวที่ไหนไม่สุขใจเท่าบ้านเรา ” ซึ่งนำเสนอในช่วงหลังเกิดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย [ 112 ] ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้รับเลือกเป็นพรีเซ็นเตอร์ ททท. “ โครงการเที่ยวไทยครึกครื้นเศรษฐกิจไทยคึกคัก ” [ 113 ] สร้างการรับรู้ให้กับคนไทยถึง 99 % จากการเปิดเผยของ ททท. [ 114 ] [ 115 ], “ โครงการ 12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน ” [ 116 ] [ 117 ] [ 118 ] นอกจากนั้นเขาเป็นผู้ขับร้องเพลงประกอบภาพยนตร์โฆษณา ททท. “ ไปเที่ยวกัน ” ( พ.ศ. 2552 ) ในปี 2553 เพลง “ ร้องไห้ทำไม ” ในอัลบั้ม ชุดรับแขก ยังได้รับคัดเลือกให้ทำคำร้องใหม่เป็น ภาษาจีนกลาง เพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย โดยเผยแพร่ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 [ 119 ] ต่อมาใน พ.ศ. 2554 ททท. เผยแพร่มิวสิควีดีโอภาษาจีนกลางในเพลง “ Why the tear ” โดยธงไชยเป็นผู้ร้อง เพื่อนำไปเผยแพร่ในหลายประเทศเอเชีย [ 120 ] ปลายปี พ.ศ. 2562 เขาได้รับคัดเลือกให้เป็น “ KOL ” ( Key Opinion Leader ) หรือ Influencer Marketing ทางด้านไฟฟ้าจากพลังงานที่สะอาด จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน [ 121 ] อีกทั้งเป็นผู้ขับร้องบทเพลง “ แสงของดวงตะวัน ” ซึ่งใช้ประกอบโครงการ [ 122 ] นอกจากนั้นธงไชยมีการถ่ายทำรายการ “ ไฟจากฟ้า ” 4 ตอน [ 123 ] ผลจากการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ในโครงการ “ ไฟ จาก ฟ้า พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ ” ทำให้โครงการดังกล่าวได้รับรางวัล Thailand Influencer Awards 2019 ในสาขา Best Influencer Campaign of the class และรางวัล Best Game Changer in Influencer Marketing [ 124 ] โดยวีดีโอต่าง ๆ มีการเข้าถึงกว่า 21 ล้านวิว และผ่านเมนูเพจ ช่องวัน และเพลงแสงของดวงตะวันมีการชมกว่า 32 ล้านครั้ง [ 121 ] [ 125 ]
ธงไชยมีบทบาทในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมผ่านผลงานของเขา ซึ่งผลงานเพลงของเขาที่มีชื่อเสียงที่สุดคืออัลบั้ม ชุดรับแขก เป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้ดนตรี 4 ภาคของไทย บุษบา ดาวเรือง ผู้บริหารแกรมมี่ กล่าวว่า “ ธงไชยทำได้ดีมากคือความเป็นไทย คนที่ไปดูแบบเบิร์ดเบิร์ดที่เขาเล่น ลิเก แล้วบอกว่า เขาคือสะพานสายรุ้งที่พาศิลปวัฒนธรรมไทยไปสู่คนรุ่นใหม่ ” [ 126 ] จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เลือกเขาเป็นต้นแบบการ์ตูนแอนมิชั่นเรื่อง เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ พร้อมทั้งใส่เสียงพากย์และบทเพลงของเขาลงในการ์ตูนดังกล่าว [ 127 ] และมีการจัดทำตอนพิเศษ “ ส่งเสริมคุณค่าของวัฒนธรรมไทย ” [ 128 ]
ในปี พ.ศ. 2534 หนังสือพิมพ์ เอกชน ยกให้ธงไชยเป็นศิลปินที่ “ แบบอย่างดีและกตัญญูที่สุด ” [ 18 ] โดยธงไชยได้รับ “ รางวัลลูกกตัญญู ” จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ [ 129 ] ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 มหาวิทยาลัยรามคำแหง สำรวจความคิดเห็นต่อเขาพบว่า ภาพลักษณ์ที่ทำให้เขายังครองความเป็นซูเปอร์สตาร์ลำดับแรกคือความกตัญญู [ 14 ] และในปี พ.ศ. 2550 เขาได้รับ “ รางวัลยอดกตัญญู ” จาก กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ ชมรมลูกกตัญญู เป็นต้น หลังจากมารดาอุดมเสียชีวิต หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประทานพระเมตตาด้วยเห็นว่าธงไชยเป็นคนมีความกตัญญูอย่างแท้จริง ทรงกรุณารับเขาเป็นเสมือนบุตรบุญธรรม [ 130 ] ในปี พ.ศ. 2554 ธงไชยได้รับรางวัลศิลปินคุณธรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย จากสภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย [ 131 ] ในปี พ.ศ. 2555 ได้รับประทานโล่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จัดโดยสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และในปีเดียวกันได้รับรางวัลบุคคลที่มีหัวใจโพธิสัตว์ ซึ่งทำประโยชน์เพื่อสังคม โดย ศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้ง เสถียรธรรมสถาน [ 132 ] ในปี พ.ศ. 2556 ได้รับประทานโล่รางวัล คนดี คิดดี สังคมดี ตามรอยพระยุคลบาท โดยสมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์ฯ [ 133 ] และในปีเดียวกันได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติบุคคลซึ่งเป็นเพชรน้ำงามที่สุด งาน ดาราเดลี่ เดอะ เกรท อวอร์ดส์ ครั้งที่ 2 สำหรับศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด เป็นแบบอย่างที่ดีของคนในวงการบันเทิงของประชาชน ในปี พ.ศ. 2557 ได้รับรางวัลเกียรติยศศิลปินผู้ทรงคุณค่าต่อวงการบันเทิงและทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ จากงานมอบ รางวัลดาวเมขลา [ 134 ] เป็นต้น
ธงไชย ร้องเพลงของขวัญจากก้อนดินในงานกาชาดคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 43 ธงไชยได้รับเลือกให้ขับร้องเพลงเนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เสมอ โดยเฉพาะการขับร้องเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เช่น เพลง “ ต้นไม้ของพ่อ “ “ ของขวัญจากก้อนดิน “ “ รูปที่มีทุกบ้าน “ “ พระราชาผู้ทรงธรรม “ “ ตามรอยพระราชา ” “ ในหลวงในดวงใจ “ และ ” เหตุผลของพ่อ “ เป็นต้น [ 135 ] และเขาได้รับเลือกขับร้องบทเพลงถวายพระบรมวงศานุวงศ์ เช่น เพลง “ คือสายใย ” [ 136 ] เพลง “ ส่งนางฟ้ากลับสวรรค์ ” เนื่องในงาน พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ [ 137 ] เพลง “ สายใยแผ่นดิน “ บทเพลงเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และเพลง “ รัตนราชกุมารี ” ในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุ 5 รอบ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ [ 138 ] วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เขาขับร้องเพลงไทยเดิม “ ลาวคำหอม ” ในงานแสดงมหรสพสมโภชละคร “ ในสวนฝัน ผสานใจภักดิ์จงรักนฤบดี ” ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ท้องสนามหลวง [ 139 ] เป็นต้น เขายังได้รับเลือกให้ขับร้องเพลงเพื่อใช้ในโอกาสสำคัญ เช่น เพลงสำหรับผู้อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ “ ฝากส่งใจไป ” [ 140 ] เพลงให้กำลังใจผู้ประสบภัยสึนามิ เพลง “ อีกไม่นาน ” [ 141 ] เป็นต้น และยังได้รับเกียรติให้ร้องเพลงประจำ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เพลง “ เจ้าฟ้ามหาจักรี ” และเพลง “ บัวสวรรค์ ” [ 142 ] และบทเพลงภาษาอื่น เช่น ภาษายาวีในเพลง “ ซัมไปกันฮาตี ” ( Sampaikan Hati ) เพื่อให้กำลังใจแก่ชาวไทยจังหวัดชายแดนภาคใต้ [ 143 ] เพลงภาษาญี่ปุ่น บทเพลง “ Thai for Japan ” เพลงเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัย แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิใหญ่ในโทโฮะกุ ประเทศญี่ปุ่น [ 144 ] ภาษาจีนกลางเพื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทย [ 120 ] เป็นต้น เขาได้รับรางวัลชมเชยการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จากผลการประกวดเพลง ( เพชรในเพลง ) โดยกรมศิลปากร ( ศก. ) เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2552 ในบทเพลง “ ไปเที่ยวกัน ” ซึ่งเป็นเพลงประกอบโฆษณาของ ททท. [ 145 ] รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย ประเภทไทยสากลชาย ในบทเพลง “ ตามรอยพระราชา ” เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2555 [ 146 ] และรางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย ประเภทการขับร้องเพลงไทยสากลชาย ในบทเพลง “ ให้โลกได้เห็น ( น้ำใจคนไทย ) ” เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2564 [ 147 ] นอกจากนั้นเขาได้รับรางวัลศิลปินผู้ส่งเสริมภาษาไทยดีเด่น จากงานประกาศผลรางวัลประกายเพชร จัดโดยมูลนิธิเพชรภาษา เป็นต้น นอกจากนั้นจากผลสำรวจโพลมหาชนในปี พ.ศ. 2559 พบว่าเขาเป็นดาราที่ใช้ภาษาไทยดีเยี่ยมในลำดับแรก [ 148 ] เป็นต้น
ภาพลักษณ์ของเขาจากผลสำรวจของรามคำแหงโพล ปี พ.ศ. 2545 ที่สำคัญอีกด้านคือการให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม [ 14 ] และในปี พ.ศ. 2556 จากสรุปผลงานคอนเสิร์ตของธงไชย เขาเป็นผู้ให้ความบันเทิงตั้งแต่อดีตจนถึงบัดนั้นทำให้ได้รับความนิยมอย่างยาวนาน [ 47 ] ความสามารถของจับกลุ่มคนฟังได้กว้างตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ [ 149 ] ในปี พ.ศ. 2557 เขามีรายชื่อเข้าชิงรางวัลระดับโลก World Music Awards 2014 สาขา World ‘s Best Entertainer [ 150 ] งานเปิดแสดงคอนเสิร์ตของเขามีผู้ชมการแสดงเต็มทุกรอบ [ 151 ] ตั้งแต่ พ.ศ. 2529 เขามีคอนเสิร์ตใหญ่ คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ ทั้งหมด 11 ครั้ง 162 รอบการแสดง โดยเฉพาะ คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดครั้งที่ 9 มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดคอนเสิร์ตจาก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปลี่ยนเป็น อิมแพ็ค เมืองทองธานี ทำให้คอนเสิร์ตครั้งนั้นมียอดผู้ชมเกิน 1 แสนคน เป็นสถิติสูงสุดของนักร้องไทย [ 38 ] นอกจากนั้นเขามี คอนเสิร์ตเต็มรูปแบบอื่น ๆ สลับกันไปในแต่ละปี
หลังเข้าวงการบันเทิงและประสบความสำเร็จอย่างสูงกอปรกับเป็นชายโสด เขาจึงได้รับวิจารณ์จากสื่อทั้งในแง่บวก และลบ เป็นเหตุให้เขาพยายามเก็บตัวเงียบ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ผู้บริหารแกรมมี่ เคยกล่าวว่า “ เขากลายเป็นคนสาธารณะแล้ว เขาไม่มีชีวิตส่วนตัว การประพฤติปฏิบัติตัวของเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อได้ทั้งในแง่บวกและลบเสมอ ซึ่งในแง่ลบตัวเองพอจะทนได้ แต่เป็นห่วงแม่ เพราะแม่จะกังวล สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเก็บตัวเงียบ เงียบเพื่อไม่ให้เป็นข่าวใดๆ เลย ” [ 152 ] ในวงการบันเทิงเขาผู้จัดการ พรพิชิต พัฒนถาบุตรเป็นผู้ดูแลเรื่องส่วนตัวทุกเรื่อง [ 31 ] และมี บุษบา ดาวเรือง เป็นผู้ดูแลงานของเขามาตลอด [ 153 ] [ 154 ] สำหรับการใช้จ่าย มีเจ้าหน้าที่ของแกรมมี่ช่วยทำบัญชี โดยพรพิชิต ผู้จัดการส่วนตัวเล่าว่า “ ถ้าอยู่เมืองไทย เขาไม่ค่อยมีเวลาและโอกาสที่จะไปไหนตามลำพัง จนบางทีเขาก็ตามสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ทัน เขาไม่เคยเดินซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า นอกจากเวลาไปเมืองนอก ” [ 155 ]
ธงไชยเป็นคนมองโลกในแง่ดี ตั้งใจทำงาน ตรงต่อเวลา และหมั่นพัฒนาตนเองอยู่เสมอ [ 156 ] ธงไชยทุ่มเทให้กับการทำงานเป็นหลัก โดยเขาเคยกล่าวว่า “ ความสุขของเขาอยู่ที่งาน ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง หรือการโชว์คอนเสิร์ต ” [ 157 ] สัญญา คุณากร กล่าวถึงธงไชยว่า “ เป็นคนตรงต่อเวลามาก ให้เกียรติคนทำงานทุกคน เคารพตนเองพยายามเพิ่มทักษะในการทำงาน ” [ 158 ] เขามีห้องส่วนตัวสำหรับทำงาน และห้องซ้อมคอนเสิร์ตภายในอาคารแกรมมี่ [ 159 ] โดยเขาใช้เวลาซ้อมเต้นไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ชั่วโมงในช่วงมีคอนเสิร์ต [ 160 ]
ธงไชยและครอบครัวร่วมกันทำบุญทุกเทศกาล เช่น ทำบุญปีใหม่ ทำบุญสงกรานต์ รวมถึงการทำบุญให้มารดา ทำบุญวันเกิดมารดา ทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตของมารดา เป็นต้น [ 161 ] และธงไชยเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนการศึกษาให้หลาน [ 162 ] และเขาให้เงินเดือนกับพี่ของเขาทุกคน [ 163 ] เขาสร้างบ้านที่จังหวัดเชียงรายให้มารดาของเขา ซึ่งปลูกข้าวกินเองที่นั่น [ 164 ] ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม กล่าวถึงเขาว่า “ เขานำเงินที่ได้ไปสร้างบ้านเป็นงานหลัก เขาซื้อบ้านใบไม้ซึ่งมีเรือนไม้เรือนไทยสำหรับแม่ เขามีบ้านศรีราชา มีบ้านที่เชียงราย มีบ้านที่สวิส เป็นต้น ว่างเมื่อไหร่เขาจะพาแม่ไปเที่ยวตามบ้านที่ตัวเองปลูก และยังเผื่อแผ่ให้พี่ๆ น้องๆ ด้วย ” [ 152 ] หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ซึ่งเขานับถืออย่างสูง และเรียกว่า “ ท่านพ่อ ” จึงเป็นที่มาของคำเรียกขานธงไชยว่า “ ชายเบิร์ด ” ทรงรับธงไชยเป็นบุตรบุญธรรม [ 165 ]
ปี พ.ศ. 2534 ธงไชยได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น ตริตาภรณ์ช้างเผือก ( ต.ช. ) สำหรับพระราชทานแก่ให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ทางราชการ [ 166 ] ปี พ.ศ. 2548 รับพระราชทานเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ ( ร.ง.ภ. ) สำหรับพระราชทานแก่ให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือผู้ประสบธรณีพิบัติภัย “ สึนามิ ” [ 167 ] ปี พ.ศ. 2555 รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 1 จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี [ 168 ] ปี พ.ศ. 2555 รับประทานโล่ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา จาก สมเด็จพระวันรัต ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระสังฆราช [ 169 ] และรับประทานโล่ คนดี คิดดี สังคมดี ตามรอยพระยุคลบาท [ 170 ] [ 171 ]
เขาได้รางวัลเมขลาด้านผู้ดำเนินรายการดีเด่นชาย จากการเป็นพิธีกร 7 สีคอนเสิร์ต ปี พ.ศ. 2529 [ 172 ] เขาได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขาทีมพากย์การ์ตูนดีเด่นร่วมกับทีมงาน เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ ปี พ.ศ. 2555 [ 173 ]
ธงไชยแสดงภาพยนตร์ไทยทั้งหมด 7 เรื่อง โดยบทบาทสำคัญในการก้าวสู่การเป็นพระเอกภาพยนตร์อย่างเต็มตัว ในปี พ.ศ. 2528 จาก ภาพยนตร์ เรื่อง ด้วยรักคือรัก ส่วนด้านละครเรื่องแรกเขาเริ่มจากบทบาทนักแสดงสมทบในละครน้ำตาลไหม้ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลผู้แสดงสมทบยอดเยี่ยม สำหรับบทบาทพระเอกละครที่สร้างชื่อเสียงที่สุด ในปี พ.ศ. 2533 ละคร คู่กรรม ออกอากาศทาง ช่อง 7 สร้างประวัติศาตร์ละครที่มีเรตติ้งสูงสุดของไทย เรตติง 40 [ 39 ] จากการสวมบทบาทเป็น “ โกโบริ ” ทำให้เขาได้รับรางวัลใหญ่ในยุคนั้นทั้ง 2 รางวัล คือ รางวัลนักแสดงนำชายดีเด่น จากงานประกาศผลรางวัลเมขลา ครั้งที่ 10 และรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 5 และในปี พ.ศ. 2536 เขากลับมาเล่นละครอีกครั้งในละคร วันนี้ที่รอคอย ซึ่งเป็นละครสร้างชื่อเสียงอีกเรื่องหนึ่งของเขาในบทบาท เจ้าซัน เขาได้รับรางวัลดารานำชายดีเด่น จากประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 8 และในปี พ.ศ. 2538 เขากลับมารับบทบาท โกโบริ อีกครั้งในภาพยนตร์คู่กรรม ซึ่งเป็นอีกปรากฏการณ์ที่นักแสดงกลับมารับบทบาทเดียวกันถึง 2 ครั้ง เขาได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี ประจำปี พ.ศ. 2538 [ 174 ] เป็นต้น
ธงไชย ในงานรับรางวัลสีสันต์อวิร์ด ปี 2551 ก่อนเข้าวงการเพลง ธงไชยเคยได้รับรางวัล “ นักร้องดีเด่น ” และรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการอีก 2 รางวัล จากการเข้าร่วมประกวดร้องเพลงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย สยามกลการ และเมื่อเข้าวงการเพลงเขามีอัลบั้มเต็ม 16 อัลบั้ม และอัลบั้มพิเศษต่าง ๆ รวมแล้วมียอดจำหน่ายมากกว่า 25 ล้านชุด และมียอดจำหน่ายสูงสุดตลอดกาลติดระดับแนวหน้าของเอเชีย [ 6 ] โดยอัลบั้มที่สร้างชื่อเสียงที่สุด ในปี พ.ศ. 2533 อัลบั้ม บูมเมอแรง สร้างประวัติศาสตร์ยอดจำหน่ายมากกว่า 2 ล้านตลับแรกของศิลปินชาย และต่อเนื่องด้วยการทำลายสถิติของเขาเองในปี พ.ศ. 2534 อัลบั้ม พริกขี้หนู ยอดจำหน่าย 3 ล้านตลับ ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นอัลบั้มแห่งทศวรรษ [ 46 ] ในปี พ.ศ. 2545 อัลบั้ม ชุดรับแขก มียอดจำหน่ายซีดีเพลงสูงสุดของไทย รวมวีซีดีคอนเสิร์ตแล้วมียอดจำหน่ายกว่า 8 ล้านชุด [ 43 ] รางวัลนักร้องยอดนิยมจากสื่อบันเทิงต่าง ๆ เช่น จากสมาคมนักข่าวบันเทิง งาน สตาร์เอนเตอร์เทนเมนต์อวอร์ดส ธงไชยได้รับ 2 รางวัล, สยามดารา สตาร์ส อวอร์ดส์ 2 รางวัล, ท็อปอวอร์ด ได้ 6 รางวัล จากสมาคมนักข่าวบันเทิง เป็นต้น รางวัลพิเศษต่าง ๆ รางวัล Favorite Artist Thailand ณ ประเทศสิงคโปร์ จากผลรางวัล เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส ครั้งที่ 3 รางวัลศิลปินไทยแห่งปี เว็บไซต์ พันทิป.คอม รางวัลพิเศษ Inspiration Award จาก เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส รางวัล GRAND INSPIRATION จาก Seed award [ 175 ] เป็นต้น และเกียรติบัตร Male Artist of The Year จาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ( สนช. ) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี [ 176 ] รางวัล Hottest Male Artist และรางวัล SEED Hall of fame รางวัลนักร้องชายแห่งปี จากรายการ ไนน์เอ็นเตอร์เทน [ 177 ] รางวัลเกียรติยศ Lifetime Achievement Award สำหรับุคคลที่มีผลงานโดดเด่น และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่สังคม จากงานประกวด เคพีเอ็น อวอร์ด [ 178 ] รางวัลเกียรติยศแห่งปี Joox Icon Award จากงาน JOOX Thailand Music Awards พ.ศ. 2561 [ 179 ] เป็นต้น
ธงไชย รับรางวัลประเภทคอนเสิร์ต “ คอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ สำหรับรางวัลประเภทมิวสิกวิดีโอ อัลบั้ม คอนเสิร์ต เขาได้ แชนแนลวีไทยแลนด์ หลายรางวัล เช่น รางวัลมิวสิกวีดีโอศิลปินชายยอดนิยม ในเพลง “ เล่าสู่กันฟัง “ “ แฟนจ๋า “ “ โอ้หละหนอ My love ” “ ทูมัชโซมัชเวรีมัช “ เป็นต้น โดยเพลง “ แฟนจ๋า ” และ “ โอ้หละหนอ My love ” ได้รับรางวัลมิวสิกวีดีโอยอดเยี่ยมด้วย จากแชนแนลวีไทยแลนด์และจากคลื่นวิทยุ FAT radio receiver 104.5 และเพลง “ รูปที่มีทุกบ้าน “ ได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ สาขามิวสิควิดีโอดีเด่น [ 180 ] เป็นต้น สำหรับ รางวัลประเภทอัลบั้ม เช่น รางวัลอัลบั้มเพลงป๊อบยอดเยี่ยม ชุดรับแขก จากนิตยสาร แฮมเบอร์เกอร์ [ 181 ] สำหรับรางวัลประเภทคอนเสิร์ต รางวัลพิเศษไทยประดิษฐ์จากคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ดโชว์ จากแชนแนลวีไทยแลนด์ เป็นต้น สำหรับรางวัลประเภทผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ เช่น รางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในเพลง “ สบาย สบาย ” จากภาพยนตร์ หลังคาแดง ในงาน รางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ และเพลง “ เธอคนเดียว ” จากภาพยนตร์ คู่กรรม รางวัลพระสุรัสวดี เพลงสร้างสรรค์พิเศษเพลง “ ต้นไม้ของพ่อ “ จากผลรางวัลพระพิฆเนศทอง รางวัลเพลงนำละครดีเด่น เพลง “ นิรมิต ” จากละคร นิรมิต งานประกาศผลรางวัลเมขลา รางวัลเพลงยอดเยี่ยม ซึ่งได้รับจากนิตยสาร สีสันต์ ในเพลง “ เล่าสู่กันฟัง “ และ “ น้ำตา “ สำหรับเพลง “ จะได้ไม่ลืมกัน “ ประกอบภาพยนตร์ ความจำสั้น แต่รักฉันยาว ได้รับรางวัลเพลงประกอบจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี จากผลรางวัล เฉลิมไทยอวอร์ด และรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จาก รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ รางวัลเพลงเต้นตายเพลง “ ทูมัชโซมัชเวรีมัช “ จากรายการ Bang Channel [ 182 ] รางวัลเพลงยอดนิยมเพลง “ อย่าทำอย่างนี้ไม่ว่ากับใครเข้าใจไหม “ จาก Intensive Watch [ 183 ] [ 184 ] รางวัลท็อปดาวโหลดเพลง “ คนแพ้ที่ไม่มีน้ำตา “ [ 185 ] [ 186 ] เป็นต้น
สมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทยได้ให้ฉายากับธงไชย คือ “ ดาวค้างกรุ ” ในปี พ.ศ. 2548 และ “ ป๋าพันปี ” ในปี พ.ศ. 2550 เนื่องจากไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปียังคงดังทนดังนานเหมือนเดิม เป็นที่เชิดหน้าชูตาให้กับวงการบันเทิง [ 12 ] [ 13 ] นอกจากนั้นสื่อมวลชนยังให้สมญาณามกับเขาอีกมากมาย เช่น ซุปเปอร์สตาร์ตลอดกาล [ 187 ] ดาวค้างฟ้าขวัญใจมวลชน [ 188 ] เป็นต้น โดยธงไชยได้รับรางวัลที่สะท้อนทางด้านภาพลักษณ์หลายรางวัล เช่น จากนิตยสาร ทีวีพูล 5 รางวัล เช่น รางวัลศิลปินในดวงใจ รางวัลขวัญใจประชาชน และเขาได้รับรางวัลสตาร์ไอดอล เป็นต้น และเขาได้รับรางวัลจากนิตยสาร In Magazine รางวัลดาวค้างฟ้าชายแห่งปี 3 ครั้ง และได้รับรางวัลพิเศษที่สุดในดวงใจศิลปิน จากผลรางวัลพิเศษ Gmember 2 รางวัล [ 189 ] เป็นต้น
ธงไชย ณ ลานดารา ปี 2553 รอยฝ่ามือของ ธงไชย ปี พ.ศ. 2553 ธงไชยประทับฝ่ามือลานเกียรติยศดาราไทย ดวงที่ 100 เพื่อเป็นอนุสรณ์ถาวรและแหล่งเรียนรู้สาธารณะ จัดโดย หอภาพยนตร์ ( องค์การมหาชน ) โดยร่วมประทับรอยพิมพ์มือ-พิมพ์เท้า ณ ลานดารา ซึ่งเป็นบริเวณสำหรับให้ดาราภาพยนตร์ไทยยอดนิยมทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้ประทับรอยพิมพ์มือ-พิมพ์เท้าไว้เป็นอนุสรณ์ [ 190 ] โดม สุขวงศ์ ผู้อำนวยการหอภาพยนตร์ องค์การมหาชน เปิดเผยว่า “ ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ คือธงไชยอยู่ในใจของคนไทยทุกคนทุกวัย สร้างความสุขให้กับทุกบ้าน การที่เขามาที่นี่ก็เป็นการนำเอาความสุขมาประทับรอยจารึกไว้ เราจะรักษาสืบไปอาจจะเป็น 100 ปีข้างหน้า จะเป็นตำนาน เป็นความทรงจำอย่างหนึ่ง เป็นประวัติศาสตร์ เป็นจดหมายเหตุอย่างหนึ่ง ” [ 191 ]

Read more: Willem Dafoe