โลโก้บริษัทสวย ๆ: โลโก้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง 25 แบรนด์และประวัติของโลโก้

Reading: โลโก้บริษัทสวย ๆ: โลโก้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง 25 แบรนด์และประวัติของโลโก้

โลโก้มีบทบาทอย่างมากต่อการเติบโตและความก้าวหน้าของบริษัท ปัจจุบันนี้ผู้คนเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาซื้อมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการหรือตาม นอกเหนือจากคุณภาพแล้วลูกค้ายังให้ความสำคัญกับแง่มุมอื่น ๆ ของธุรกิจอีกด้วย เช่น ความรับผิดชอบต่อสังคม, ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, และความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาแบรนด์ต่าง ๆ มักมีสัญลักษณ์หรือโลโก้หล ายแบบ ซึ่งเมื่อร วมเข้าด้วยกันแล้วสัญลักษณ์ดังกล่าวจะสร้างภาพที่แสดงถึงประวัติความเป็นมาของบริษัท และสะท้อนถึงธรรมเนียม, ค่านิยม, รวมถึงสิ่งที่บริษัทนำเสนอแก่ผู้บริโภค หากคุณเห็นภาพ โลโก้ที่มีชื่อเสี ยง คุณจะเห็นว่าภาพเหล่านั้นไปกระตุ้นสิ่งที่อยู่ในจิตใจของคุณ ตัวอย่างเช่น “ เส้นโค้งสีทอง ” บนโลโก้ของ McDonald ทำให้คุณนึกถึงชีสเบอร์เกอร์ที่ชุ่มฉ่ำและไอศกรีม McFlurry ที่มีความหวาน หรือเมื่อเห็นสัญลักษณ์ของ BMW จิตใจคุณจะสร้างภาพรถหรูที่แสดงถึงสถานะทางสังคมของเจ้าของรถ นอกจากนี้โลโก้ยังเป็นตัวกำหนดความคิดเห็นของคุณที่มีต่อธุรกิจและผลิตภัณฑ์อีกด้วย เราพยายามเลือกโลโก้บริษัท 25 โลโก้ที่ดีที่สุดด้วยตนเอง ตอนแรกก็ดูเหมือนเป็นเรื่องยากครับ เพราะโลโก้สวย ๆ นั้นมีจำนวนเยอะมาก แต่สุดท้ายก็ทำได้ น่าเสียดายที่บางโลโก้เราก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ออกแบบ แต่บางโลโก้ที่เราได้เลือกมาก็เป็นโลโก้ที่ออกแบบโดยนักออกแบบหลายคน ส่วนบางแบรนด์ก็มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้หลายครั้งมาก เราจึงต้องขอเน้นที่การออกแบบครั้งสำคัญเท่านั้น เราหวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปภาพสวย ๆ และใช้แรงบันดาลใจที่คุณได้รับในการสร้างงานศิลปะของคุณเองนะครับ

Nike

ตำนาน Nike นั้นเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทนำเข้าที่ชื่อว่า Blue Ribbon Sports โดยในปี 2514 แบรนด์ได้ตัดสินใจขยายการผลิตในส่วนของรองเท้ากีฬา ทำให้กลายเป็นแบรนด์ Nike ที่เรารู้จักกันจนถึงทุกวันนี้ เชื่อไหมครับว่าฟิลิป ไนต์ผู้ก่อตั้ง Nike ไม่ค่อยชอบสัญลักษณ์ “ swoosh ” บนโลโก้ที่เป็นโด่งดังจนถึงปัจจุบันนี้เท่าไหร่นัก เราเองก็แทบไม่อยากเชื่อเลย ตราไนกี้ถูกออกแบบโดนแคโรลิน เดวิดสัน ซึ่งได้ค่าจ้างเพียง 35 ดอลลาร์เท่านั้น โดยเดวิดสันได้รับแรงบันดาลใจมาจากเทพธิดากรีกที่ชื่อว่าไนกี้ เธอต้องการถ่ายทอดการเคลื่อนไหวที่มีความรวดเร็วของเทพีไนกี้ลงไปในโลโก้ ในปี 2521 ทางบริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้โดยการใช้แบบอักษรที่มีความหนาขึ้นและขยับตำแหน่งของ swoosh เล็กน้อย ใครเล่าจะคิดว่ารูปทรงที่แปลกประหลาดจะกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์กราฟิกที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในโลก ! เมื่อเวลาผ่านไปสัญลักษณ์ lap ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นจนไม่ต้องใส่ชื่อบริษัทลงในโลโก้อีกแล้ว ออกแบบโลโก้ราคา 35 ดอลลาร์ แล้วได้ถึงข นาดนี้ เจ๋งไหมล่ะครับ ?

Coca-Cola

คุณคงไม่รู้แน่ ๆ ว่าสัญลักษณ์ของ Coca-Cola ถูกออกแบบโดยนักบัญชีธรรมดาที่ชื่อแฟรงก์ โรบินสัน สิ่งที่โดดเด่นของสัญลักษณ์นี้ก็คือตัวอักษรที่เขียนติดกันที่มีความหรูหราและลื่นไหลซึ่งมักใช้กันในเอกสารและการติดต่อสื่อสารในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในปี 2433 แบรนด์ตัดสินใจที่จะทำให้โลโก้มีความซับซ้อนมากขึ้นด้วยการตกแต่งด้วยเส้นโค้งและม้วนเกลียวที่มีความสลับซับซ้อน ม้วนเกลียวที่อยู่ตรงตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ “ C ” ดูคล้ายกับผลเชอร์รี่แสนอร่อยที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ แต่โลโก้ที่ออกแบบใหม่นี้ก็ไม่ได้ถูกใช้นานนัก ปัจจุบันนี้เราจะเห็นโลโก้โค้กแบบเดิมที่โรบินสันออกแบบไว้บนขวด Coca-Cola เห็นได้ว่าบางครั้งอะไรก็สู้การออกแบบเดิม ๆ ไม่ได้ !

Ford

คุณรู้หรือไม่ว่า Ford Motor เป็นบริษัทยานยนต์แห่งที่สามที่ก่อตั้งโดยเฮนรี่ ฟอร์ดบุคคลในตำนาน ? ธุรกิจแรกของฟอร์ดไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนธุรกิจที่สอง ฟอร์ดละทิ้งธุรกิจของเขาตามความต้องการของตนเอง ( ซึ่งต่อมากลายเป็นที่รู้จักในนามบริษัท Cadillac ) สัญลักษณ์ดั้งเดิมของ Ford Motor เป็นไอคอนรูปวงกลมที่มีการตกแต่งซับซ้อนและมีชื่อบริษัทอยู่ในโลโก้ด้วย จากนั้นในปี 2470 มีการเปิดตัว Ford Model A ทางแบรนด์จึงต้องการเปลี่ยนเอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ จึงได้กลายมาเป็นมาเป็นโลโก้วงรีสีน้ำเงินที่แสดงถึงความมีสไตล์และมีรสนิยมดีจนถึงทุกวันนี้

Apple

โลโก้แรกของแบรนด์ Apple คือโลโก้อันหรูหราที่ออกแบบโดยโรนัลด์ เวนย์ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple โดยแนวคิดในการออกแบบโลโก้คือการที่นิวตันค้นพบกฎแรงโน้มถ่วง นอกจากในโลโก้จะมีชื่อบริษัทอยู่แล้ว ( Apple Computer Co. ) ยังมีข้อความยาวที่เขียนว่า “ Newton…a mind forever voyaging through strange seas of thought…alone. ” อีกด้วย แต่สตีฟ จ็อบส์ไม่ชอบการออกแบบโลโก้นี้จึงต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เขาคิดว่าโลโก้นี้ “ ไม่ค่อยสวย ” นัก จากนั้นในปี 2520 ร็อบ จานอฟฟ์จึงได้ออกแบบโลโก้รูปแอปเปิ้ลที่มีสีสันสดใสและย่อชื่อบริษัทจนเหลือแค่คำว่า “ Apple ” โลโก้ใหม่นี้มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคที่มีอายุน้อยและต้องการให้ตัวโลโก้ถ่ายทอดคุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถสร้างสีสันได้ คุณอาจสงสัยว่าทำไมโลโก้ของ Apple จึงมีรอยกัด ฟังดูคำตอบแล้วอาจจะตลกนะครับ เพราะเขาแค่ทำให้มันไม่เหมือนลูกเชอร์รี่เท่านั้นเอง ในปี 2527 มีการเปิดตัว Apple Macintosh บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจึงเห็นว่าสัญลักษณ์แอปเปิ้ลมีชื่อเสียงมากพอแล้ว จึงมีการนำชื่อบริษัทออกจากตราโลโก้ ดังนั้นตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมาบริษัท Apple จึงเลือกใช้โลโก้เดิม เพียงแต่เปลี่ยนแสงและเงาของโลโก้เท่านั้น

Pepsi

ย้อนกลับไปในปี 2436 คาเลบ แบรดแฮมคงไม่นึกไม่ฝันว่าโลโก้ที่เขาออกแบบจะมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงศตวรรษที่ 20 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมสมัยใหม่ ในปี 2505 มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโลโก้ครั้งแรกโดยนำคำว่า “ โคล่า ” ออกไป จึงเหลือเพียงคำว่า “ เป๊ปซี่ ” ที่เป็นไอคอนวงกลมสีแดง, ขาว, และน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่อยู่บนฝาขวดเป๊บซี่ จากนั้นในช่วงระหว่างปี 2514 ถึงปี 2548 ทางแบรนด์ยังคงใช้โลโก้ที่มีความเรียบง่าย โดยทุกครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนโลโก้จะมีการออกแบบให้มีความเป็นมินิมอลมากขึ้น บอกได้เลยว่าโลโก้เป๊บซี่ที่มีอยู่ตอนนี้เป็นโลโก้ที่สมบูรณ์แบบมาก

Mercedes-Benz

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โลโก้ของ Mercedes-Benz ( ซึ่งเมื่อก่อนเป็นที่รู้จักกันในนาม Daimler Motors Corporation ) เป็นโลโก้ไอคอนรูปวงรีที่มีคำว่า “ Mercedes ” คุณรู้ไหมครับว่าเหตุใดแบรนด์จึงมีชื่อว่า “ Mercedes ” ? ที่มาของชื่อ Mercedes นั้นเป็นชื่อลูกสาวแสนสวยของกอตต์ลีบ เดมเลอร์ผู้ก่อตั้งครับ จากนั้น 7 ปีต่อมาซึ่งก็คือเมื่อปี 2452 เดมเลอร์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสองอันคือรูปดาวสามแฉกและดาวสี่แฉก และสัญลักษณ์นี้ได้ถูกเลือกให้เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของบริษัท ตั้งแต่ปี 2453 รถยนต์ Mercedes-Benz ทุกรุ่นจึงมีสัญลักษณ์ดาวสามแฉกติดอยู่ที่รถ ต่อมาในปี 2469 มีการนำสัญลักษณ์ดาวมาใส่ในวงกลมและปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากขึ้น เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงระหว่างปี 2459 และ 2464 มีการเพิ่มวงกลมอีกวงหนึ่งและมีคำว่า “ Mercedes ” อยู่ในขอบด้านใน โดยสัญลักษณ์ที่เรารู้จักกันมาถึงทุกวันนี้ได้ถูกออกแบบมาให้มีความคลึงกันกับสัญลักษณ์ที่ออกแบบเมื่อปี 2464 จากนั้นเมื่อปี 2469 บริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่สองบริษัทซึ่งก็คือ DMG และ Benz & Cie ได้รวมตัวกัน จึงทำให้เกิดบริษัท Mercedes-Benz ขึ้นมา ดังนั้นสัญลักษณ์ใหม่จึงเป็นการผสมผสานกันระหว่างโลโก้เก่าสองอันคือดาวสามแฉกของ DMG และพวงมาลาที่อยู่ในโลโก้ของของ Benz โดยชื่อ “ Mercedes ” และ “ Benz ” ถูกเขียนอยู่ในขอบด้านในของโลโก้ จากนั้นเมื่อโลโก้อันสวยงามนี้ถูกใช้งานมาจนถึงปี 2539 ทางบริษัทจึงต้องการกลับมาใช้โลโก้มินิมอลแบบโลโก้ของ DMG เมื่อปี 2464 เราดีใจนะครับที่ทางบริษัทเลือกทำแบบนี้

McDonald’s

ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจบริษัทแมคโดนัลด์เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ” McDonald ’ s Famous Barbeque ” ในปี 2483 เหล่าคนรักเบอร์เกอร์จะเห็นโลโก้ชื่อบริษัทที่มีคำว่า “ Famous ” ที่มีขีดสองเส้น ในปี 2491 ทางบริษัทได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น “ McDonald ’ s Famous Hamburgers ” และมีการเปลี่ยนโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ ในช่วงระหว่างปี 2491 ถึง 2496 บริษัทได้เลือกใช้พ่อครัว Speedee ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่มีความสนุกสนานมาเป็นมาสคอต จากนั้นในปี 2503 แมคโดนัลด์ได้เปิดตัวสัญลักษณ์ “ เส้นโค้งสีทอง ” ที่เป็นรูปตัวอักษร “ M ” ซึ่งออกแบบขึ้นโดยสแตนลีย์ เมสตัน อาร์ชส์ ทำให้สัญลักษณ์นี้เป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามการเดินทางของตราสัญลักษณ์แมคโดนัลด์ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ในปี 2511 ทางบริษัทได้ทำให้ตัวอักษร “ M ” มีความเรียบง่ายมากขึ้นและใส่คำว่า “ McDonald ’ s ” สีดำลงไป จากนั้นในปี 2526 แมคโดนัลด์ได้ออกแบบโลโก้ที่รู้จักกันมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็คือตัวหนังสือสีขาวและตัวอักษร “ M ” สีทองบนพื้นหลังสีแดง จากนั้นในปี 2546 มีกา รตัดสินใจที่จะ เพิ่มสโลแกน “ one ’ meter lovin ’ it ” ใต้ตัวอักษร “ M ” ต่อมาในปี 2549 ทางบริษัทตัดสินใจตัดรายละเอียดอื่น ๆ ออกและเลือกใช้ตัวอักษรสีทองเพียงอย่างเดียว

Levi’s

ปัจจุบันนี้สัญลักษณ์ของ Levi มีสองแบบคือโลโก้ตัวหนังสือสีขาวและแดงแบบมินิมอลและโลโก้ที่มีรูปม้าสองตัว โลโก้ที่เป็นรูปม้าสามารถพบเห็นได้จากป้ายกางเกงยีนส์ Levi เพื่อแสดงให้เห็นว่ากางเกงมีคุณภาพสูงและมีความทนทาน โลโก้สีแดงถูกออกแบบขึ้นเมื่อปี 2483 เนื่องจากต้องการให้โลโก้มีความโดดเด่นมากกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ จากนั้นในปี 2512 Levi ได้ออกแบบโลโก้ขึ้นมาอีกอันหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายปีกค้างคาวซึ่งออกแบบโดย Walter Landor & Associates แต่แฟน ๆ ของแบรนด์ต่างก็ชอบโลโก้เดิมพอ ๆ กับโลโก้ทั้งใหม่ทั้งสองแบบ โลโก้ของ Levi จึงเปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่ที่มีความแข็งแกร่ง คุณคิดเหมือนกันไหมครับ ?

Burger King

Burger King เป็นธุรกิจอาหารจานด่วนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยสามารถสร้างภาพลักษณ์แบรนด์อย่างชาญฉลาดและพิถีพิถัน แม้ว่า McDonald ’ s อาจเป็นแบรนด์เดียวที่เหนือกว่า Burger King ในเรื่องนี้ แต่การแพ้คู่แข่งอย่างMcDonald ’ s นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าขายหน้าแม้แต่น้อย ในอดีตโลโก้ของ Burger King เป็นรูปกษัตริย์ ( Burger King สมชื่อเลยครับ ) นั่งอยู่บนเบอร์เกอร์อย่างภาคภูมิใจ แม้ว่าโลโก้นี้จะถูกใช้ในโฆษนาอยู่บ้าง แต่ก็มีการใช้งานที่ไม่นานนัก ในปี 2512 รูปกษัตริย์ก็ถูกแทนที่ด้วยขนมปังเบอร์เกอร์สองแผ่นและมีการใช้งานมาเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง จนในปี 2541 มีการปรับเปลี่ยนโลโก้เล็กน้อยด้วยการเพิ่มวงสีน้ำเงินและเพิ่มเอฟเฟกต์สามมิติ

Google

ประวัติความเป็นมาของการออกแบบโลโก้ Google เพิ่งเริ่มขึ้นเมื่อไม่นานมานี้คือเมื่อปี 2540 ตราสัญลักษณ์ของ Google เดิมนั้นออกแบบขึ้นจากโปรแกรม GIMP โดยเซอร์เกย์ บรินผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท การเพิ่มเครื่องหมายอัศเจรีย์เข้าไปในโลโก้นั้นเป็นเพราะว่า Google ต้องการเลียนแบบโลโก้ของ Yahoo ! แต่ต่อมาก็คิดได้ว่าแบรนด์ที่ทรงพลังอย่าง Google ไม่ควรลอกเลียนแบบโลโก้ของแบรนด์อื่น รูธ เคดาร์จึงนำเครื่องหมายอัศเจรีย์ออกเมื่อปี 2543 โดยโลโกขององค์กรมีการปรับเปลี่ยนและได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง Google ได้เปิดตัวโลโก้ใหม่ล่าสุดเมื่อปี 2553 ฝันอยากมีโลโก้ของตัวเองใช่หรือไม่ ? ใส่ชื่อบริษัทข้างล่างและเริ่มสร้างแบรนด์ได้เลย !

Warner Bros.

ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์คงจะรู้จัก Warner Bros. และโลโก้รูปโล่เป็นอย่างดี ประวัติความเป็นมาของโลโก้นั้นย้อนไปเมื่อปี 2466 โดยโลโก้แรกนั้นใช้ตัวย่อว่า “ WB ” อยู่ในโล่ โดยส่วนบนของโลโก้มีภาพของสตูดิโอถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ ในปี 2472 ทางบริษัทได้ตัดสินใจเปลี่ยนรูปภาพเป็นคำว่า “ Warner Bros. Pictures Inc. ” ต่อมาในปี 2479-2480 มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ให้เป็นสไตล์มินิมอลตามยุคสมัย จึงมีการนำข้อความทั้งหมดออกจากโลโก้ ในปี 2480 มีการปรับรูปโล่ให้เป็นสามมิติ จากนั้นปี 2491 เริ่มมีภาพยนตร์สีครั้งแรก จึงมีการทำโลโก้สีขึ้นมา ช่วงระหว่างปี 2491 ถึง 2510 โล่เป็นสีฟ้าและสีเหลือง ส่วนตัวอักษร “ WB ” มีสีทอง ในปี 2510 บริษัท WB มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เนื่องจากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทผลิตภาพยนตร์ Seven Arts จึงมีการปรับเปลี่ยนโลโก้รูปโล่ให้เรียบง่ายมากยิ่งขึ้นและเป็นรูปทรงมากขึ้น อีกทั้งมีชื่อ Seven Arts อยู่ใต้โลโก้ สามปีต่อมาซึ่งก็คือปี 2513 Warner Bros และ Seven Arts ถูกซื้อโดยบริษัท Kinney National Company จึงทำให้มีคำว่า “ A Kinney National Company ” ปรากฏอยู่บนโลโก้ จากนั้นในปี 2515 Warner Bros. มีการใช้โลโก้เดิมของปี 2491 ในช่วงเวลาสั้น ๆ และในปีเดียวกันนี้ซอล บาสซึ่งเป็นนักออกแบบก็ได้ออกแบบโลโก้ใหม่ที่ใช้งานมาจนถึงปี 2527 โลโก้ที่ออกแบบใหม่นี้ตัว “ W ” มีความเรียบง่ายกว่าโลโก้รุ่นก่อน ๆ โดยตัว “ W ” มีลักษณะคล้ายเล้นสามเส้นที่แยกออกจากกัน ในปี 2527 บริษัทได้เปลี่ยนมาใช้โลโก้สีฟ้าและสีเหลืองเหมือนเมื่อปี 2491 แต่มีการเพิ่มสีสันให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ในช่วงไม่กี่ปี่ที่ผ่านมานี้มีการปรับเปลี่ยนโลโก้เล็กน้อย เช่น การเพิ่มแสงเงาและลูกเล่นให้กับโลโก้

IBM

โลโก้ของ IBM ถือกำเนิดขึ้นในปี 2467 เมื่อบริษัท Computing-Tabulating-Recording Company เปลี่ยนชื่อมาเป็นบริษัท “ International Business Machines ” ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนชื่อจึงมีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปโดยปริยาย โลโก้ของ CTR ในปี 2454 เป็นโลโก้ที่มีลวดลายซับซ้อน ส่วนโลโก้ใหม่นั้นเป็นโลโก้ที่มีคำว่า “ International Business Machines ” เรียงตัวเป็นรูปลูกโลก จากนั้นในปี 2490 ทางบริษัทมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น จึงมีการเปลี่ยนโลโก้เป็นคำว่า “ IBM ” ที่เป็นสไตล์มินิมอล ต่อมาในปี 2499 ดีไซน์เนอร์พอล แรนด์ปรับเปลี่ยนให้ตัวอักษรในโลโก้มีความหนักแน่นขึ้นเพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นแบรนด์ระดับสูงและมีชื่อเสียง ในปี 2515 ทางแบรนด์มีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ครั้งใหญ่อีกครั้ง แรนด์จึงมีการปรับเปลี่ยนโลโก้อีกครั้ง โดยมีการเพิ่มเส้นขวางลงไปในตัวอักษรเพื่อสื่อถึงความเร็ว, ความมีประสิทธิภาพ, และความมีชีวิตชีวา

NASA

โลโก้แรกของ NASA ถูกออกแบบขึ้นเมื่อปี 2501 ในขณะนั้น National Advisory Committee on Aeronautics ถูกเปลี่ยนมาเป็นองค์กร NASA โดย NASA มีโลโก้อยู่สามแบบคือโลโก้แบบสัญลักษณ์ ( หรือที่เรียกว่า “ Meatball ” ), โลโก้ตัวอักษร ( หรือที่เรียกว่า “ Worm ” ), และสแตมป์ที่ได้รับการรับรองจากประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์และต่อมาประธานาธิบดีเคนเนดีได้ปรับเปลี่ยนด้วยตนเอง

Microsoft

โลโก้เดิมของ Microsoft ถูกออกแบบขึ้นในปี 2518 และถูกนำมาใช้จนถึงปี 2522 ในปี 2523 บริษัทคอมพิวเตอร์ต้องการใช้ตราสัญลักษณ์ที่มีความเรียบง่ายและมีสไตล์ จึงเลือกใช้สัญลักษณ์ที่มีคำว่า “ Microsoft ” เพียงอย่างเดียว ในปี 2525 มีการออกแบบตัวอักษร “ O ” ในโลโก้ของ Microsoft ให้มีความสวยงามและดูสะดุดตามากยิ่งขึ้น แฟน ๆ ของแบรนด์ชอบโลโก้ใหม่มาก ดังนั้นเมื่อมีการยกเลิกใช้เมื่อปี 2530 จึงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย จากนั้นสก็อต เบคเกอร์ได้ออกแบบโลโก้แบบ Packman โดยมีเส้นขวางอยู่ที่ตัวอักษร “ O ” และ “ S ” ซึ่งสื่อถึงความรวดเร็วและการเจริญเติบโตของแบรนด์ ซึ่งช่วงปลายยุค 90 และต้นยุค 90 เป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอทีแห่งนี้ อีกทั้งมีโลโก้ที่ติดอันดับในการออกแบบกราฟิกลำดับต้น ๆ อีกด้วย

Adidas

อาดี แดซเลอร์เป็นชายที่มีความสามารถมากมาย เขาเป็นคนที่คิดค้นให้มีการเพิ่มแถบสามเส้นลงบนรองเท้า Adidas เพื่อทำให้รองเท้ามีความโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ Adidas ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบโลโก้อยู่หลายปี ( โดยสิ่งที่ปรับเปลี่ยนมีเพียงรูปแบบของลายเส้นเท่านั้น ) ในยุค 60 อาดี แดซเลอร์และเคธภรรยาของเขาได้ออกแบบโลโก้ใหม่ที่เป็นรูปใบไม้สามแฉก ในปี 2540 ผู้ผลิตรองเท้าสัญชาติเยอรมันแห่งนี้ได้มีการเปิดตัวโลโก้ใหม่ขององค์กรซึ่งเป็นรูปภูเขาที่ลาดชันที่มีเส้นขวางสามเส้น โดยภูเขาจะสื่อถึงความท้าทายและเป้าหมายที่บริษัทต้องฝ่าฝันไปให้ได้

Starbucks

ในปี 2514 ทางบริษัทต้องการหาเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผู้บริหารของบริษัทจึงนำแรงบันดาลใจมาจากงานแกะสลักไม้ในศตวรรษที่ 14 โดยใช้รูปไซเรน ( นางเงือก ) ที่มีสองหางซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ เทอร์รี่ เฮกเลอร์ได้ออกแบบรูปนางเงือกเปลือยสวมมงกุฎ ( เป็นที่น่าสังเกตว่าในอดีตนั้นบริษัทกาแฟแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Starbucks Coffee, Tea, and Spices ) ต่อมาเฮกเลอร์ได้เพิ่มรายละเอียดลงไปในโลโก้มากยิ่งขึ้น โดยโลโก้ที่ปรับเปลี่ยนในครั้งแรกได้ถูกนำมาใช้เมื่อปี 2530 จากนั้นเมื่อบริษัท II Giornale และ Starbucks ได้รวมเข้าด้วยกันในปี 2535 เฮกเลอร์ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้สตาร์บัคอีกครั้ง โดยนางเงือกมีรอยยิ้มที่ลึกลับ ส่วนหางของนางเงือกก็ถูกทำให้โดดเด่นน้อยลง ในปี 2554 ทางทีมนักออกแบบได้ร่วมกันปรับเปลี่ยนโลโก้อีกครั้ง โดยมีการนำวงกลมวงนอกออก และเปลี่ยนพื้นหลังจากสีดำเป็นสีเขียวสว่างมากขึ้น การออกแบบอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า 40 ปีนี้ ทำให้สัญลักษณ์นางเงือกเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แม้แต่เป็นผู้ที่ชอบดื่มชายังรู้จักโลโก้แบรนด์นี้ด้วยซ้ำ

Volkswagen

จุดเริ่มต้นของโลโก้เริ่มจากการที่บริษัท Porsche ได้จัดการประกวดหาโลโก้สำหรับรถ Volkswagen รุ่นใหม่ ซึ่งผู้ที่ชนะการประกวดคือ Franz Reimspiess ซึ่งเป็นนักออกแบบ โดยเขามีผลงานในการยกระดับเครื่องยนต์ของรถรุ่น Beetle มาแล้วในช่วงยุค 30 โลโก้แบบเดิมเป็นสัญลักษณ์ตัว “ VW ” สีดำและสีขาวและมีเครื่องหมายสวัสติกะที่สะท้อนของระบบการปกครองของฮิตเลอร์ในขณะนั้น ส่วนโลโก้อันที่สองไม่มีการใช้ตราสวัสติกะ ทำให้โลโก้ดูเหมือนรูปพวงมาลัยรถมากกว่ารูปพัด หลังจากช่วงสงครามโลกครั้งที่สองผู้ผลิตรถยนต์ได้ถูกยึดครองโดยชาวอังกฤษ จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Beetle และมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ โดยยังมีการใช้ตัวย่อ VW อยู่ แต่มีการนำวงกลมออกเนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์ของชาวนาซี ทว่าผู้บริหารชาวอังกฤษไม่สามารถหาผู้ซื้อโรงงาน Volkswagen ได้ จึงมีการส่งคืนบริษัทให้กับรัฐบาลเยอรมัน จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไปแบรนด์ยานยนต์แห่งนี้ก็ได้เลิกใช้โลโก้สีขาวดำ และเปลี่ยนมาใช้โลโก้สีฟ้าและสีเทาอ่อนแทน

Visa

โลโก้ของ VISA ถูกออกแบบมาในปีเดียวกับการก่อตั้งบริษัท โดยโลโก้แบบเดิมนั้นมีชื่อแบรนด์ที่แบ่งออกเป็นสองบรรทัด โดยตัวอักษรสองตัวบนมีสีฟ้า ส่วนตัวอักษรสองตัวล่างมีสีเหลือง ในปี 2549 ทางบริษัทต้องการเปลี่ยนแบบตัวอักษรให้โดดเด่นและเป็นที่น่าจดจำมากขึ้น ในปี 2557 มีการนำสีเหลืองออกจากโลโก้ ทำให้โลโก้เหลือสีเพียงสีเดียว ปัจจุบันนี้เราจึงได้เห็นโลโก้ของ VISA บนผลิตภัณฑ์และโฆษนาต่าง ๆ

Shell

โลโก้ของแบรนด์เชลล์เป็นรูปหอยทะเล โดยวิวัฒนาการของโลโก้นั้นเริ่มจากโลโก้ที่ออกแบบอย่างซับซ้อนและพัฒนาจนกลายมาเป็นโลโก้แบบเรียบง่าย ในช่วงปี 2443 โลโก้ของแบรนด์เชลล์เป็นสีขาวดำ จากนั้นเกือบ 50 ปีต่อมาในปี 2491 มีการเพิ่มสีแดงและสีเหลืองลงในโลโก้ และใช้โลโก้นี้เรื่อยมาอยู่หลายทศววรต แต่มีการเปลี่ยนตำแหน่งชื่อบริษัทไปมา จนกระทั่งในปี 2542 ทางบริษัทได้ตัดสินใจนำชื่อบริษัทออกและใช้เพียงโลโก้ธรรมดาเท่านั้น

LEGO

โลโก้แรกถือกำเนิดขึ้นในปี 2475 เป็นโลโก้สไตล์มินิมอลที่มีเพียงชื่อบริษัทเท่านั้น โดยมีการเพิ่มคำว่า Billund ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของโอเล เคิร์ก คริสเทียนเซ่นผู้ก่อตั้งบริษัทไว้บนโลโก้ด้วย ในปี 2479 ทางบริษัทผู้ผลิตของเล่นได้เพิ่มสีสันลงไปในโลโก้ ทำให้โลโก้มีลักษณะคล้ายกับของเล่นที่ดูสะดุดตา ในปี 2493 มีการนำคำว่า “ LEGO ” ใส่ลงไปในวงกลมและเพิ่มคำ “ Billund Danmark ” ลงไป จากนั้นอีกสามปีถัดมาในปี 2496 บริษัท LEGO ได้ออกแบบโลโก้ใหม่โดยเป็นตัวอักษรหนาสีขาวบนพื้นหลังสีแดง ต่อมาในปี 2499 มีการเพิ่มคำว่า “ System ” ใต้ชื่อแบรนด์ ส่วนคำว่า “ LEGO ” มีการเพิ่มขอบสีดำเพื่อทำให้ดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น ในปี 2516 ทางบริษัทต้องการความเรียบง่ายจึงมีการนำคำว่า “ System ” ออก และเพิ่มเส้นขอบสีเหลืองเข้าไป โลโก้ที่เรารู้จักกันทุกวันนี้เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2541 และยังเป็นแบรนด์ที่สร้างความสนุกสนานให้กับเด็กทั่วโลก

Hewlett-Packard Company (HP)

คุณเชื่อหรือไม่ว่าโลโก้ของแบรนด์ Hewlett-Packard ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเลยตั้งแต่ปี 2482 ? ในปี 2554 ทางบริษัทต้องการให้โลโก้มีดูมีชีวิตชีวามากขึ้น จึงมีไอเดียว่าจะลากเส้นทแยงมุมผ่านตัวอักษร “ H ” และ “ P ” แต่แนวคิดนี้ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานจริง ( ซึ่งก็เป็นเรื่องดีแล้ว ) จากนั้นในปี 2559 จึงได้มีการปรับเปลี่ยนตัวอักษร “ H ” และ “ P ” ให้มีความโค้งมนมากขึ้นและใช้พื้นหลังสีฟ้า

Gap

ในช่วงระหว่างปี 2512 ถึงปี 2529 แบรนด์เครื่องแต่งกายที่มีชื่อเสียงแบรนด์นี้ใช้เพียงโลโก้ที่มีชื่อของแบรนด์เท่านั้น การออกแบบโลโก้ที่มีเฉพาะตัวอักษรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่โลโก้ของแบรนด์นี้ที่มีคำว่า “ GAP ” อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินนั้นเป็นโลโก้ที่ออกแบบมาค่อนข้างดี เนื่องจากมีทั้งความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ ในปี 2553 ทางบริษัทพยายามที่จะปรับเปลี่ยนโลโก้ ทำให้มีเสียงวิจารณ์ในโลกออนไลน์มากมาย ทางบริษัทจึงรับฟังเสียงของผู้บริโภคและกลับไปใช้โลโก้เดิม

Canon

บอกได้เลยว่ามีแค่แฟนพันธุ์แท้ของ Canon เท่านั้นที่รู้ว่าโลโก้แรกของ Canon นั้นใช้คำว่า Kwannon ซึ่งหมายถึงเจ้าแม่กวนอิมที่เป็นที่นับถือของชาวพุทธ ( ในช่วงแรกนั้นแบรนด์ของ Canon เป็นที่รู้จักในนาม Seiki Kogaku Kenyudho ) นอกจากนี้ชื่อนี้ยังถูกใช้เป็นชื่อกล้องรุ่นแรกของ Canon อีกด้วย หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2478 ทางบริษัทถ่ายภาพของญี่ปุ่นได้ขยายการผลิตและปรับเปลี่ยนเอกลักษณ์ของแบรนด์ เป็นผลให้ในปี 2499 จึงมีโลโก้สีแดงให้เราได้รู้จักกันจนถึงทุกวันนี้

BMW

BMW แบรนด์ยานยนต์ในตำนาน ( Bayerische Motoren Werke GmbH ) เป็นบริษัทที่เกิดจากการรวบรวมกิจการในปี 2459 ของผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานสองรายได้แก่ Rapp Motorenwerke และ Flugmaschinenfabrik ซึ่งมีกุสตาฟ ออตโตเป็นเจ้าของบริษัท โดยโลโก้แรกของ BMW เป็นสัญลักษณ์วงกลมของบริษัท Rapp-Motorenwerke ซึ่งเป็นรูปม้าและธงบาวาเรียนสีขาวและฟ้า จากนั้นโลโก้ BMW ได้เปลี่ยนมาเป็นช่องตารางสีขาวสองช่องและสีฟ้าสองช่องที่อยู่ภายในวงกลมสีดำ ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สองบริษัทไม่ต้องผลิตอุปกรณ์เพื่อจุดประสงค์ทางการทหารอีกแล้ว จึงมุ่งที่การผลิตยานยนต์แทน คุณจะเห็นได้ว่าโลโก้ BMW รุ่นปัจจุบันมีลักษณะเหมือนโลโก้ในปี 2460 เลยทีเดียวครับ น่าทึ่งใช่ไหมล่ะ ทางบริษัทไม่ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้เดิมมากนัก แต่เปลี่ยนโลโก้ให้เป็นรูปแบบ 3D ในปี 2543 เพื่อให้โลโก้ดูน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้นเอง

Audi

โลโก้แรกที่ Audi ใช้จนถึงปี 2475 นั้นได้แรงบันดาลใจจากศิลปะอาร์ทนูโวที่มีความสง่างาม ในปี 2475 Audi ได้รวมกิจการเข้ากับผู้ผลิตยานยนต์อีกสามราย ได้แก่ DKW, Horch และ Wanderer เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่สำคัญครั้งนี้ทำให้มีการออกแบบโลโก้ใหม่เป็นวงกลมซ้อนกันสี่วงดังที่เรารู้จักกันจนถึงทุกวันนี้ วงกลมทั้งหมดแสดงถึงบริษัทสี่บริษัทที่ถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Auto Union AG จนกระทั่งในปี 2508 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น Audi และถูกซื้อไปโดยโฟล์คสวาเกนกรุ๊ป จากนั้นในปี 2552 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี บริษัท Audi จึงได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ให้มีความประณีตและสวยงามยิ่งขึ้น อยากเห็นโลโก้เจ๋ง ๆ อีกมากมาย เข้าไปที่ลิงก์นี้เลย

เป็นผู้เชี่ยวชาญการตลาดเนื้อหาที่ Logaster รู้ทุกธุรกิจทุกอย่างตั้งแต่หนึ่งถึงร้อยและเต็มใจแบ่งปันความรู้ของเธอกับคนอื่น หลงใหลเกี่ยวกับเรื่องราวความสำเร็จของแบรนด์ดังมากมาย การสัมภาษณ์ลูกค้าหลักของ Logaster

ตั้งชื่อแบรนด์ฟรี 50+ รายชื่อ

สัญลักษณ์โลโก้อาดิดาส

ขนาดไฟล์ภาพมาตราฐานสำหรับเว็บไซต์ โซเซียลมีเดีย งานพิมพ์ และงานชนิดอื่นๆ

โลโก้บริษัทสวย ๆ: โลโก้แบรนด์ที่มีชื่อเสียง 25 แบรนด์และประวัติของโลโก้

แพ็คเกจเอกลักษณ์ของแบรนด์เต็มรูปแบบ

ใช้เครื่องมือสร้างโลโก้ของ Logaster เพื่อเปิดตัวบริษัทของคุณอย่างรวดเร็ว พิมพ์ชื่อธุรกิจของคุณและรับแพ็คเกจการสร้างแบรนด์อย่างมืออาชีพภายใน 60 วินาที ! ลองใช้ของเราดู – ง่ายมาก !