Reading: ควีน – วิกิพีเดีย
ในปี 1968 นักศึกษาจาก ราชวิทยาลัยลอนดอน ( อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน ) ไบรอัน เมย์ กับเพื่อนร่วมชั้น โรเจอร์ เทย์เลอร์ และ ทิม สตัฟเฟิล ฟอร์มวงเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า Smile ขึ้นมาเพื่อเล่นในคลับเล็ก ๆ ในลอนดอน [ 1 ] ในเวลาต่อมา พวกเขาได้พบกับนักศึกษาศิลปะชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียจาก เอลลิ่ง อาร์ต คอลเลจ ผู้มีนามว่า ( ฟารุก หรือ “ เฟรดดี ” บัลซารา ) หลังจากการลาออกของ สตัฟเฟิล ทั้งสามชักชวนกันฟอร์มวงใหม่ขึ้นมา โดยมีมือเบสอย่าง จอห์น ดีคอน มาสมทบในภายหลัง โดยใช้ชื่อว่า “ ควีน ” จากการแนะนำของเฟรดดี้ ( ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลเป็น เมอร์คิวรี่ ) และคงไว้ซึ่งสมาชิกชุดเดิมนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดมา ด้วยความที่จบจากมหาวิทยาลัยศิลปะมา เฟรดดีจึงออกแบบตราประจำวงด้วยตัวเอง โดยได้ใช้สัตว์เพื่อแทนราศีเกิดของสมาชิกวง สิงโต ( แทน ราศีสิงห์ ) แทนดีคอนและเทย์เลอร์ [ 2 ] ปู ( แทน ราศีกรกฎ ) แทนเมย์ และนางฟ้าสองตน ( แทน ราศีกันย์ ) แทนเฟรดดี [ 3 ] ในปี 1973 พวกเขาออก อัลบั้มเปิดตัว ที่มีชื่อเดียวกันกับวง และประสบความสำเร็จในระดับเล็ก ๆ ด้วยดนตรีร็อกแนวใหม่ที่มีส่วนผสมของดนตรีบลูส์, แกลมร็อก, ฮาร์ดร็อก, เฮวี่ ไซเคเดลิก และโปรเกรสซีฟ ร็อก ผสานเข้ากับการประสานเสียงอันหนาแน่นแบบดนตรีคลาสสิก [ 4 ]
ในปี 1974 ด้วยการเข็นอัลบั้ม Queen II และมีเพลง “ Seven Seas of Rhye “ เป็นเพลงแรกของวงที่ติดอันดับในชาร์ตซิงเกิลอังกฤษ [ 5 ] ในปีเดียวกันควีนได้ออกอัลบั้ม Sheer Heart Attack ออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยได้มีเพลง “ Killer Queen “ ที่ทำให้วงเป็นที่รู้จักในวงกว้างเป็นครั้งแรก โดยสามารถขึ้นไปสู่ 20 อันดับแรกของชาร์ตอังกฤษและอเมริกา [ 6 ] [ 7 ] ในปี 1975 ควีนได้ออกอัลบั้ม A Night at the Opera ส่งผลให้วงมีความเป็นที่ชื่อเสียงและถูกกล่าวขานว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดอัลบั้มแห่งวงการดนตรีร็อก มีเพลง “ Bohemian Rhapsody “ เป็นที่รู้จัก เพลงดังกล่าวขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ต UK Single ติดต่อกันถึงเก้าสัปดาห์ [ 8 ] [ 9 ] [ 10 ] และขึ้นอันดับหนึ่งของบิลบอร์ดชาร์ต ฮอต 100 ในสหรัฐอเมริกาและในอีกหลายประเทศทั่วโลก อัลบั้มนี้ยังได้รับการจารึกชื่อจากนิตยสาร Rolling Stone ให้อยู่ในอันดับ 11 ใน 500 อัลบั้มยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล [ 11 ] ด้วยงานดนตรีที่สร้างมิติใหม่ให้กับวงการร็อก กับการเรียบเรียงเสียงประสานอันสุดยอด และการนำเอาดนตรีคลาสสิกอย่างโอเปร่า มาผสมผสานเข้ากับเพลงบัลลาด ดนตรีฮาร์ดร็อก และอีกหลายแนว จนกลายเป็นแนวเพลงใหม่ที่เรียกกันว่า “ โอเปร่าร็อก ” [ 12 ] ในปี 1976 ควีนเปิดตัวอัลบั้ม A Day at the Races พร้อมกับเพลงฮิตอย่าง “ Somebody to Love “ [ 13 ] [ 14 ] และ “ Tie Your Mother Down “
ในปี 1977 ควีนกลับมาประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดอีกครั้ง กับอัลบั้ม News of the World มีเพลงฮิตสองเพลงออกเป็นซิงเกิลร่วมกันอย่าง “ We Will Rock You “ และ “ We Are the Champions “ ที่ต่อมากลายเป็นผลงานเพลงอมตะของวงควีนจนเป็นที่รู้จักกันมากมาย [ 15 ] [ 16 ] โดยทั้งสองเพลงต่างก็ถูกใช้มานับไม่ถ้วนทั้งในงานกีฬาและโฆษณา อัลบั้มนี้สามารถทำยอดขายในสหรัฐอเมริกาได้มากถึงสี่ล้านชุด ในปี 1978 ควีนได้ออกอัลบั้ม Jazz โดยได้ออกซิงเกิลคู่ “ Bicycle Race “ และ “ Fat Bottomed Girls “ โดยมิวสิกวิดีโอของเพลง “ Bicycle Race “ ยังได้กลายเป็นกระแสสังคมหลังจากที่มีภาพกลุ่มผู้หญิง 65 คนที่กำลั่งปั่นจักรยานในสภาพเปลือยกาย [ 17 ] จากนั้นพวกเขาจึงได้ปล่อยเพลงในตำนานอีกเพลงอย่าง “ Do n’t Stop Me immediately “ [ 18 ] ที่ได้ถูกนำมาใช้นับครั้งไม่ถ้วนกับสื่อต่าง ๆ ในปี 1980 วงได้เข้าสู่ความประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดด้วยการออกอัลบั้ม ”The Game ” ที่สามารถทำยอดขายในอเมริกาสูงถึงห้าล้านชุด [ 19 ] พร้อมกับมีเพลงที่เข้าสู่อันดับหนึ่งของ บิลบอร์ด ฮอต 100 ถึงสองเพลง คือ “ Crazy Little Thing Called Love “ ที่เฟร็ดดีแต่งและทำมิวสิกวิดีโอแก่ เอลวิส เพรสลีย์ และ “ Another One Bites the Dust “ ที่เขียนโดยจอห์น อัลบั้มนี้ยังเป็นอัลบั้มแรกที่วงยอมใช้ซินธีไซเซอร์ในการทำเพลงอีกด้วย [ 20 ] ในปี 1980 ควีนได้ทำอัลบั้มซาวด์แทร็กชุดแรก Flash Gordon ให้กับภาพยนตร์ชื่อเดียวกัน แต่เนื่องจากเพลงส่วนมากเป็นเพลงบรรเลงที่ขาดความน่าสนใจ ทำให้อัลบั้มนี้ไม่ประสบความสำเร็จ โดยเป็นสตูดิโออัลบั้มเดียวของควีนที่ทำยอดขายไม่ถึงหนึ่งล้านชุด ในปี 1981 ควีนได้ออกอัลบั้ม Greatest Hits และได้กลายเป็นอัลบั้มที่ทำยอดขายเป็นประวัติการณ์ สามารถทำยอดขายทั่วโลกได้กว่า 25 ล้านชุด [ 21 ] [ 22 ] โดยในอังกฤษยังสามารถเข้าอยู่ในชาร์ตเป็นเวลาถึง 450 สัปดาห์ [ 23 ] [ 24 ] และทำยอดขายได้ถึง 6 ล้านชุด กลายเป็นอัลบั้มที่มัยอดขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลงสหราชอาณาจักร อีกทั้งในสหรัฐอเมริกายังทำยอดขายถึงแปดล้านชุด โดยในเวอร์ชันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดายังได้มีการเพิ่มเพลง Under Pressure ซึ่งเป็นการทำงานและร้องร่วมกับ เดวิด โบอี ซึ่งกลายเป็นเพลงที่สองที่สามารถไปถึงอันดับหนึ่งในชาร์ตของอังกฤษ ในช่วงระหว่างนั้น เทย์เลอร์ได้กลายเป็นสมาชิกวงคนแรกที่ได้ทำอัลบั้มเดี่ยวของตนเองในชื่อ Fun In Space
Read more: 2015–16 Liverpool F.C. season – Wikipedia
ทศวรรษ 1980 [แก้ ]
ในปี 1982 ควีนได้ออกอัลบั้ม Hot Space ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแนวทางใหม่ไปเป็นการใช้ซินธีไซเซอร์อย่างหนักหน่วง และเน้นดนตรีไปเป็นแบบ ป็อป และ ริทึมแอนด์บลูส์ รวมไปถึง ฟังก์ [ 25 ] แต่ปรากฏว่าอัลบั้มนี้กลับได้เสียงตอบรับที่ย่ำแย่จากทั้งนักวิจารณ์และแฟนเพลง ทำให้ยอดขายทำได้ต่ำกว่าอัลบั้มก่อนมาก และควีนก็ไม่เคยได้แสดงสดในทวีปอเมริกาอีกเลยนับตั้งแต่ยุติทัวร์ครั้งนั้นจนกระทั่งเมื่อเฟร็ดดีเสียชีวิตไปแล้ว [ 26 ] ในปี 1984 ควีนออกอัลบั้ม The Works พร้อมกับออกเพลง “ Radio Ga Ga ” ซึ่งเป็นเพลงซินธิ์ป็อปที่เล่าถึงวงการเพลงที่เปลี่ยนไป เพลงนี้ประสบความสำเร็จโดยติดชาร์ต 20 อันดับแรกในหลายประเทศ จากนั้นจึงได้ออกเพลง “ I Want to Break Free ” ซึ่งประสบความสำเร็จเช่นกัน [ 27 ] [ 28 ] เฟรดดีเป็นสมาชิกวงคนที่สองที่ออกอัลบั้มเดี่ยว ในชื่อ Mr. Bad Guy ในปี 1985 ในปีเดียวกันนั้นเอง ควีนได้แสดงสดใน คอนเสิร์ตไลฟ์เอด ต่อหน้าผูคนกว่า 72,000 คนใน สนามกีฬาเวมบลีย์ และผูชมทางโทรทัศน์กว่า 1,500 ล้านคน และกลายเป็นการแสดงสดที่มีชื่อเสียงที่สุดของควีน บีบีซี ซีเอ็นเอ็น โรลลิงสโตน เอ็มทีวี และ เดอะเดลีเทลิกราฟ ได้กล่าวว่าควีน “ ขโมย ” ความโดดเด่นของทุกคนในคอนเสิร์ต และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในการแสดงสดที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรี [ 29 ] [ 30 ] ในปี 1986 ควีนออกอัลบั้ม A Kind of Magic โดยกลายเป็นสตูดิโออัลบั้มแรกที่สามารถได้ใบประกาศนียบัตรเกินหนึ่งใบ โดยหลายเพลงในอัลบั้มนั้นได้ไปใช้ในภาพยนตร์เรื่อง ไฮแลนด์เดอร์ พร้อมกับได้ออกทัวร์ครั้งสุดท้ายในขณะที่เฟร็ดดียังมีชีวิตอยู่ โดยวิดีโอบันทึกการแสดงสด Queen at Wembley สามารถทำยอดขายได้เกินหนึ่งล้านชุด [ 31 ] [ 32 ]
ในปี 1987 เฟรดดีได้ถูกตรวจพบว่ามีผลเป็นบวกในการตรวจไวรัส เอชไอวี แต่เขาตัดสินใจปิดเรื่องนี้เป็นความลับ จนมีเพียงไม่กี่คนที่ทราบเรื่องนี้ แม่กระทั่งคัชมีรา น้องสาวของเฟรดดีเองยังไม่ทราบเรื่องนี้ โดยระหว่างนั้นทางวงได้ปฏิเสธข่าวลือเรื่องอาการป่วยของเฟรดดีมาตลอด อย่างไรก็ดี เขายังคงตัดสินใจทำเพลงต่อไป โดยได้ออกอัลบั้มร่วมกับ มุนซาร์รัต กาบัลเย ในชื่อ Barcelona ซึ่งเป็นอัลบั้มแนวครอสโอเวอร์ระหว่างป็อปกับโอเปรา ในปี 1989 ควีนได้ออกอัลบั้ม The Miracle โดยมีเพลงฮิต “ I Want It All ” ในปี 1991 ควีนได้ออกอัลบั้ม Innuendo ที่ เพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม สามารถขั้นไปถึงอันดับหนึ่งในชาร์ตอังกฤษ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1991 เฟรดดีประกาศต่อสาธารณชนว่าตนเองป่วยเป็นโรคปอดบวมจากโรคเอดส์ ด้วยพฤติกรรมแบบรักร่วมเพศอันโลดโผนกับชายมากหน้าหลายตาของเขาที่ผ่านมา และเสียชีวิตด้วยอาการปอดติดเชื้อในอีกเพียงหนึ่งวันให้หลัง ในวันที่ 9 ธันวาคม 1991 ได้มีการออกซิงเกิลเพลง “ Bohemian Rhapsody ” ที่มาพร้อมกับเพลงในอัลบั้มใหม่ “ These Are The Days of Our Lives ” พร้อมกับขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งของชาร์ตอังกฤษเป็นเวลา 5 สัปดาห์ อีกทั้งยังขึ้นไปถึงอันดับสองในชาร์ตของอเมริกา [ 34 ] ในปี 1992 ได้มีการจัดคอนเสิร์ตรำลึกถึงเฟรดดี โดยมีศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น เดฟเล็ปเพิร์ด กันส์แอนด์โรสเซส เอลตัน จอห์น แอนนี เลนนิกซ์ โรเบิร์ต แพลนต์ จอร์จ ไมเคิล ซีล ( นักดนตรี ) เดวิด โบอี และ เมทัลลิกา โดยได้ถูกบันทึกว่าเป็นคอนเสิร์ตการกุศลที่ใหญ่ที่สุด โดยมีผู้ชมมากกว่า 1,200 ล้านคน และสามารถระดมทุนให้แก่ผุ้ป่วยโรคเอดส์ได้ถึง 20 ล้านดอลลาร์ สมาชิกที่เหลือร่วมกันออกสตูดิโออัลบั้มสุดท้าย Made in Heaven ที่เฟรดดีทำการบันทึกเสียงเมื่อก่อนหน้านั้น โดยบางเพลงยังเอามาจากอัลบั้มเดี่ยวของเฟรดดี Mr. Bad Guy อีกด้วย อัลบั้มนี้เป็นสตูดิโออัลบั้มที่ทำยอดขายมากที่สุด โดยทำยอดขายสูงถึง 7.5 ล้านชุด [ 35 ] [ 36 ] และเป็นสตูดิโออัลบั้มเดียวของควีนที่ทำยอดขายเกินหนึ่งล้านชุดในอังกฤษ และไม่เคยออกอัลบั้มใหม่ในนาม Queen อีกเลยนับตั้งแต่นั้นมา หลังจากการเกษียณตัวเองของ จอห์น ดีคอน ในปี 1997 สมาชิกที่เหลืออย่างเมย์และเทย์เลอร์ ก็ยังคงเดินสายเล่นคอนเสิร์ตในนามควีน โดยร่วมมือกับวง ฟรี ( วงดนตรี ) และ แบดคอมพานี โดยมีนักร้องนำ พอล รอดเจอร์ส ภายใต้การร่วมกันของ ควีน + พอล รอดเจอร์ส ในระหว่างช่วงพฤษภาคม ค.ศ. 2009 ถึงปี ค.ศ. 2011 เมย์และเทย์เลอร์ได้ร่วมงานกับ แอดัม แลมเบิร์ต ภายใต้ชื่อ ควีน + อดัม แลมเบิร์ต ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2014 [ 37 ]
Read more: FIFA 21 Pro Clubs
เช่นเดียวกับศิลปินผู้ยิ่งใหญ่อื่น ๆ ควีนเป็นวงที่สร้างอิทธิพลให้กับศิลปินมากหน้าหลายตา เช่นศิลปิน เฮฟวีเมทัล จูดาสพรีสต์ [ 38 ] ไอเอิร์นเมเดน [ 39 ] เมทัลลิกา [ 40 ] ดรีมเทียเตอร์ [ 41 ] ทริเวียม [ 42 ] เมกาเดธ [ 43 ] แอนแทรกซ์ [ 44 ] เฟธโนมอร์ [ 45 ] มาริลีน แมนสัน [ 46 ] สลิปน็อต [ 47 ] และ เรจอะเกนสต์เดอะแมชชีน [ 48 ] ศิลปิน ฮาร์ดร็อก กันส์แอนด์โรสเซส [ 49 ] เดฟเล็ปเพิร์ด [ 50 ] แวนแฮเลน [ 51 ] มอตลีย์ครู [ 52 ] คิด ร็อก [ 53 ] และ ฟูไฟเตอส์ [ 54 ] วง ออลเทอร์นาทิฟร็อก เนอร์วานา [ 55 ] เรดิโอเฮด [ 56 ] มิวส์ [ 57 ] เรดฮอตชิลีเพปเปอส์ [ 58 ] เจนส์แอดดิกชัน [ 59 ] และ เดอะสแมชชิงพัมป์กินส์ [ 60 ] ศิลปิน ป็อปร็อก มีต โลฟ [ 61 ] เดอะคิลเลอส์ [ 62 ] มายเคมิคอลโรแมนซ์ [ 63 ] และ ฟอลล์เอาต์บอย [ 64 ] ศิลปิน ป็อป ไมเคิล แจ็กสัน [ 65 ] จอร์จ ไมเคิล [ 66 ] ร็อบบี วิลเลียมส์ [ 67 ] อะเดล [ 68 ] เลดี้ กาก้า [ 69 ] เคที เพร์รี [ 70 ] เคชา [ 71 ] และ ไซ [ 72 ] นอกจากนี้ ควีนยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ริเริ่มดนตรีแนว สปีดเมทัล โดยเพลง “ Stone Cold Crazy “ ยังได้ถูกนำไปทำใหม่โดยเมทัลลิกา พร้อมกับได้ รางวัลแกรมมี สาขาบันทึกเสียงแนวเมทัลแห่งปีในปี 1991 [ 73 ]
วงควีนมีผลงานสตูดิโออัลบั้มทั้งหมด ตั้งแต่อดีตจนถึงอัลบั้มสุดท้าย 15 อัลบั้ม ได้แก่
- GREATEST HITS (ค.ศ. 1981)
- GREATEST HITS II (ค.ศ. 1991)
- THE 12″ COLLECTION (ค.ศ. 1992)
- GREATEST HITS – 1992 US edition (ค.ศ. 1992)
- CLASSIC QUEEN (ค.ศ. 1992)
- GREATEST HITS III (ค.ศ. 1999)
- QUEEN ROCKS (ค.ศ. 1997)
- STONE COLD CLASSICS (ค.ศ. 2006)
- THE A–Z OF QUEEN, VOLUME 1 (ค.ศ. 2007)
- ABSOLUTE GREATEST (ค.ศ. 2009)
- DEEP CUTS VOLUME 1 (1973 – 1976) / VOLUME 2 (1977 – 1982) / VOLUME 3 (1984 – 1995) (ค.ศ. 2011)
- ICON (ค.ศ. 2013)
- QUEEN FOREVER (ค.ศ. 2014)
- BOHEMIAN RHAPSODY (ค.ศ. 2018) [75]
- LIVE KILLER (ค.ศ. 1979) [76]
- LIVE IN RIO (ค.ศ. 1986) [77]
- LIVE MAGIC (ค.ศ. 1986) [78]
- RARE LIVE – A Concert Through Time And Space (ค.ศ. 1989) [79]
- LIVE AT WEMBLEY STADIUM (ค.ศ. 1992) [80]
- ON FIRE : LIVE AT THE BOWL (ค.ศ. 2004) [81]
- ROCK MONTREAL [82]& LIVE AID (ค.ศ. 2007)[83]
- HUNGARIAN RHAPSODY [84] (ค.ศ. 2012) [85]
- LIVE AT RAINBOW ’74 [86] (ค.ศ. 2014) [87]
- A NIGHT AT THE ODEON (ค.ศ. 2015) [88]
- สมาชิกปัจจุบัน
- อดีตสมาชิก
- สมาชิกร่วม